เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอเพื่อรับ Conversion เพิ่มขึ้น

โฆษณาวิดีโอที่ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำของเราอาจได้รับ Conversion เพิ่มมากขึ้น

คุณสามารถสร้างแคมเปญวิดีโอที่ตรงใจผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion ได้ เมื่อสร้างแคมเปญวิดีโอที่มีเป้าหมายเป็น "ยอดขาย" "โอกาสในการขาย" หรือ "การเข้าชมเว็บไซต์" คุณสามารถเลือกให้ Google Ads เพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอเพื่อ Conversion ตามจํานวนเงินโดยเฉลี่ยที่ยินดีจ่าย (CPA เป้าหมาย) หรือจะเลือกให้ Google Ads กําหนดราคาเสนอโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ Conversion มากที่สุดภายในงบประมาณที่ตั้งไว้ก็ได้ (เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด)

บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอเพื่อ Conversion

ผู้ลงโฆษณาที่ทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำจะได้รับ Conversion เพิ่มมากกว่า 50% ต่อดอลลาร์ และได้อัตรา Conversion ที่สูงขึ้นอย่างน้อย 40% เมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติแนะนำ (ข้อมูลของ Google, ทั่วโลก ส.ค. 2020 - ม.ค. 2021)

สร้างและเปิดตัวแคมเปญวิดีโอ

เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญระหว่างที่สร้าง

ขณะสร้างแคมเปญ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนตามการตั้งค่าที่เลือก ซึ่งแจ้งให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจทําให้ประสิทธิภาพลดลงหรืออาจมีความร้ายแรงมากพอที่จะทําให้ไม่สามารถเผยแพร่แคมเปญได้

เมนูการนําทางสำหรับสร้างแคมเปญซึ่งปรากฏขึ้นขณะที่คุณสร้างแคมเปญแสดงภาพรวมของความคืบหน้าในการสร้าง และแสดงการแจ้งเตือนที่คุณอาจต้องจัดการ เลื่อนไปมาระหว่างขั้นตอนต่างๆ ในเมนูการนําทางเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมาย การเสนอราคา งบประมาณ หรือการตั้งค่าแคมเปญอื่นๆ อย่างง่ายดาย ดูวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ

จำเป็น

Tip #1 เครื่องมือวัด Conversion

ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์และตรวจสอบว่าแท็ก Google ทํางานอย่างถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพสําหรับเหตุการณ์ Conversion ขนาดเล็ก (เช่น "เพิ่มลงในรถเข็น" หรือ "การเข้าชมเว็บไซต์") แล้วเลือกตัวเลือกการนับ Conversion ที่เหมาะกับแคมเปญ หากวัดการเข้าชมร้านค้า คุณสามารถรวมการดำเนินการนี้เป็นเหตุการณ์ Conversion เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอสําหรับเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (Omnichannel) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่มีประโยชน์ให้กับระบบของเราเพื่อช่วยให้คุณบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการได้เร็วขึ้น

Tip #2งบประมาณ

การตั้งค่างบประมาณส่งผลต่อความเร็วในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อ Conversion สําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย ขอแนะนําให้ตั้งงบประมาณมากกว่า CPA เป้าหมายอย่างน้อย 15 เท่า ใช้แผนภูมิด้านล่างเพื่อให้ทราบระยะเวลาที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยอิงตามงบประมาณปัจจุบัน

การกำหนดงบประมาณ เวลาในการเพิ่มประสิทธิภาพ
มากกว่า CPA เป้าหมาย 15 เท่า 7-8 วัน
มากกว่า CPA เป้าหมาย 10-15 เท่า 2 สัปดาห์
มากกว่า CPA เป้าหมาย 5-10 เท่า 3 สัปดาห์

สำหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด งบประมาณรายวันควรมากกว่า CPA วิดีโอที่คาดไว้อย่างน้อย 10 เท่า

แนะนำ

Tip #3 การเสนอราคา

หากมี CPA ที่ตั้งใจจะใช้กับวิดีโอแล้ว ให้เริ่มต้นด้วยการเสนอราคา CPA เป้าหมาย (หากยังไม่ทราบ CPA ที่จะใช้กับวิดีโอ ให้ทําตามคําแนะนําด้านหลักเกณฑ์การเสนอราคาที่ปรากฏใน Google Ads ขณะสร้างแคมเปญ)

หากเป้าหมายหลักคือการเพิ่ม Conversion ให้มากที่สุดในแคมเปญตามเทศกาลหรือแคมเปญการโปรโมต ให้เริ่มต้นด้วยการเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด

กลุ่มเป้าหมาย

เริ่มต้นด้วยกลุ่มที่กําหนดเอง (ตามคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search) การจับคู่ข้อมูลลูกค้า กลุ่มข้อมูล หรือกลุ่มที่คล้ายกัน นอกจากกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้แล้ว คุณควรเลือกใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้อื่นๆ เพิ่มเติมที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion

หากใช้กลุ่มที่กําหนดเอง (ตามคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search) ให้ใช้คีย์เวิร์ดที่แนะนําประมาณ 10-15 รายการโดยพิจารณาตามประสิทธิภาพ Conversion ที่ผ่านมา หรือใช้คีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search ที่ทําให้เกิด Conversion สูงสุด

หากคุณใช้กลุ่มข้อมูลหรือการจับคู่ข้อมูลลูกค้า ให้จับคู่กลุ่มนั้นๆ กับกลุ่มที่คล้ายกันในแคมเปญเดียวกัน และเลือกใช้การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพต่อไปเพื่อให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทํางานได้ใน iOS ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และการใช้ข้อมูลของ Apple ใน iOS 14

การกำหนดเป้าหมายเนื้อหา

หลีกเลี่ยงการเพิ่มการกําหนดเป้าหมายเนื้อหา (ตามคีย์เวิร์ด หัวข้อ หรือตําแหน่ง) ให้แคมเปญ เนื่องจากอาจเป็นการจํากัดประสิทธิภาพของแคมเปญ โดยปกติแล้วแคมเปญวิดีโอที่เพิ่มจำนวน Conversion จะทำงานได้ดีกว่าเมื่อไม่มีคีย์เวิร์ด หัวข้อ หรือตำแหน่งโฆษณา

หมายเหตุ: คุณจะไม่สามารถเพิ่มการกําหนดเป้าหมายเนื้อหาลงในแคมเปญซึ่งมีเป้าหมาย Conversion ใหม่และที่มีอยู่ได้อีกต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสในการได้รับ Conversion มากขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2023 เราจะนําการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายเนื้อหาที่มีอยู่ทั้งหมดออกโดยอัตโนมัติจากแคมเปญวิดีโอที่เพิ่มจำนวน Conversion หากต้องการนําการกําหนดเป้าหมายเนื้อหาออกด้วยตนเองจากแคมเปญซึ่งมีเป้าหมาย Conversion ที่มีอยู่ ให้ไปที่การตั้งค่ากลุ่มโฆษณา

นําการกําหนดเป้าหมายเนื้อหาออกจากแคมเปญวิดีโอที่มีอยู่ทั้งหมดที่เพิ่มจำนวน Conversion

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกภาพรวม
  3. คลิก "ตัวกรองพื้นที่ทํางาน" ที่ด้านบน และเลือกแคมเปญวิดีโอ
  4. ที่แถบ "ตัวกรองพื้นที่ทํางาน" ใต้เมนูการนําทาง คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วคลิกประเภทกลยุทธ์การเสนอราคา
  5. จากรายการ "ประเภทกลยุทธ์การเสนอราคา" ให้ทําเครื่องหมายที่ช่องถัดจาก CPA เป้าหมาย, ROAS เป้าหมาย, เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด และเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด แล้วคลิกใช้
  6. คลิกเนื้อหาในเมนูหน้าเว็บทางซ้าย แล้วเลือกหัวข้อ ตําแหน่งโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณาวิดีโอ/Display
  7. ทําเครื่องหมายที่ช่องถัดจากหัวข้อ ตำแหน่งโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดแต่ละรายการที่ต้องการนําออก
  8. คลิกแก้ไข และคลิกไอคอนนําออก Red X icon
  9. คลิกยืนยันในข้อความป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้น

ครีเอทีฟโฆษณา

เพิ่มส่วนขยายไซต์ลิงก์หรือใช้องค์ประกอบครีเอทีฟโฆษณาหลายๆ แบบ (อย่างน้อย 5 รายการหากเป็นไปได้ โดยใช้ปุ่มคํากระตุ้นการตัดสินใจ บรรทัดแรก หรือเนื้อหาวิดีโอให้แตกต่างกันในแต่ละครีเอทีฟโฆษณา)

เครื่องหมายถูกสีเขียว มีคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน: ใช้วลีอย่างเช่น "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" "ลงชื่อสมัครใช้" หรือ "ซื้อเลย"

เครื่องหมายถูกสีเขียว ดึงดูดความสนใจของผู้ชม: ดึงดูดความสนใจของผู้ชมในช่วง 5-10 วินาทีแรกของโฆษณา โดยกล่าวถึงปัญหาและวิธีที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น

เครื่องหมายถูกสีเขียว ย้ำถึงสิ่งที่นำเสนอ: พากย์เสียงตามคํากระตุ้นการตัดสินใจหรือใส่ไว้ในกราฟิกแบบวางซ้อน

หลังจากที่สร้างแคมเปญ ให้ติดตามการทำงานเป็นเวลา 7-10 วันก่อนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ

หากพร้อมแล้ว

สร้างแคมเปญ

ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้น

หากแคมเปญกำลังบรรลุเป้าหมาย และคุณได้ Conversion อย่างน้อย 5 รายการต่อวันในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ให้ทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนำเหล่านี้เพื่อขยายผลกระทบของแคมเปญ

ลงแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด 15%

Tip #2 งบประมาณ

หากแคมเปญถูกจำกัดด้วยงบประมาณ ให้เพิ่มงบประมาณโดยรวม ทำตามคําแนะนําด้านหลักเกณฑ์งบประมาณที่ปรากฏทางด้านขวาใน Google Ads ขณะตั้งค่าแคมเปญ

กลุ่มเป้าหมาย

บัญชี Google Ads ของคุณต้องมีแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีแผนจะซื้ออย่างน้อย 1 แคมเปญ หากแคมเปญมีการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรซ้อนอยู่ ให้นำกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากรที่ซ้อนอยู่ในกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มต่อแคมเปญออก

เครือข่าย

เปิดใช้พาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google ในการตั้งค่าแคมเปญเพื่อให้ได้ Conversion เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ พาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google คือเว็บไซต์และแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้เผยแพร่โฆษณาคุณภาพสูงซึ่งใช้แสดงโฆษณาวิดีโอต่อผู้ชมนอก YouTube ได้

การวัดผล

ใช้รายงานการระบุแหล่งที่มาเพื่อให้ทราบเส้นทางการทำ Conversion ของลูกค้าในเครือข่ายต่างๆ

ครีเอทีฟโฆษณา

ใช้การทดสอบวิดีโอเพื่อระบุกลยุทธ์ครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพที่สุดสําหรับครีเอทีฟโฆษณาใหม่ และพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เสียงบรรยายเพื่อใส่เสียงบรรยายคุณภาพสูงจากการอ่านเสียงข้อความให้เหมือนเสียงคนจริงจากไลบรารีชิ้นงาน Google Ads ลงในวิดีโอที่มีอยู่

การทดสอบวิดีโอเป็นเครื่องมือทดสอบที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอ เมื่อใช้การทดสอบวิดีโอ คุณจะตั้งค่าการทดสอบที่เปรียบเทียบโฆษณาวิดีโอต่างๆ ตามประสิทธิภาพ Conversion ได้

ประเภทแคมเปญ

ได้รับ Conversion เพิ่มยิ่งขึ้นด้วยการลงแคมเปญ Discovery นอกเหนือจากแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ

แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย

ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 7-14 วันก่อนทําการเปลี่ยนแปลง หากแคมเปญมีปัญหาด้านประสิทธิภาพเกี่ยวกับ CPA เป้าหมาย (tCPA) ให้ดูคําแนะนําในการปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญต่อไปนี้

สถานการณ์ คำแนะนำ ราคาเสนอ
แคมเปญมีการใช้จ่ายน้อยแต่ได้ tCPA ตามที่ระบุ ขยายกลุ่มเป้าหมาย สร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อหาผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion ด้วยตนเอง หรือเพิ่มกลุ่มโฆษณาที่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายเพื่อระบบใช้ tCPA กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างที่สุดเพื่อให้ได้รับ Conversion ค่อยๆ เพิ่มราคาเสนอ tCPA ทีละ 10-15% เพื่อปรับปรุงการแสดงโฆษณา
แคมเปญมีการใช้จ่ายน้อยแต่ไม่ได้ tCPA ตามที่ระบุ เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย สร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างออกไปเพื่อค้นหาผู้ใช้มีแนวโน้มจะทำ Conversion มากขึ้น หากคุณพยายามสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ ให้ใช้การตั้งค่า Conversion ระดับแคมเปญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้น รักษาราคาเสนอ tCPA ไว้เท่าเดิม
แคมเปญมีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ได้ tCPA ตามที่ระบุ จำกัดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง หากกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันกว้าง ให้พิจารณาแบ่งกลุ่มเป้าหมายที่คุณคิดว่ามีแนวโน้มจะทำ Conversion มากกว่าออกเป็นชั้นๆ ค่อยๆ ลดราคาเสนอ tCPA ทีละ 10-15% และคอยติดตามดูจำนวน Conversion ไปด้วย

แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด

หากกลยุทธ์การเสนอราคาของคุณคือเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด ให้รออย่างน้อย 1 สัปดาห์ (3-7 วัน) ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงแคมเปญ หากแคมเปญมีปัญหาเกี่ยวกับ Conversion, งบประมาณ หรือ CPA ให้ดูคําแนะนําในการปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญต่อไปนี้

สถานการณ์ คำแนะนำ
แคมเปญไม่ได้รับ Conversion เลย
  • ตรวจสอบว่าตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion อย่างถูกต้องแล้ว
  • เพิ่มกลุ่มโฆษณาใหม่สําหรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า กลุ่มที่คล้ายกัน หรือกลุ่มที่มีแผนจะซื้อเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย
  • พิจารณาใช้เหตุการณ์ Conversion ขนาดเล็ก หรือขยายกรอบเวลา Conversion เพื่อให้สอดคล้องมากขึ้นกับเวลาซึ่งนับตั้งแต่การดูไปจนถึงการทำ Conversion
แคมเปญไม่ใช้จ่ายงบประมาณ

เพิ่มกลุ่มโฆษณาใหม่สําหรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า กลุ่มที่คล้ายกัน หรือกลุ่มที่มีแผนจะซื้อเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย

CPA สูงเกินไป

อย่าลืมว่าการเสนอราคาอัตโนมัติเพื่อให้มีประสิทธิภาพตามต้องการอาจใช้เวลา 7-14 วัน หาก CPA ยังสูงเกินไปหลังจากผ่านไป 7-14 วัน ให้ทําดังนี้

  • พิจารณาใช้เหตุการณ์ Conversion ขนาดเล็ก หรือขยายกรอบเวลา Conversion เพื่อให้สอดคล้องมากขึ้นกับเวลาซึ่งนับตั้งแต่การดูไปจนถึงการทำ Conversion
  • สร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างออกไปเพื่อค้นหาผู้ใช้มีแนวโน้มจะทำ Conversion มากขึ้น
  • เพิ่มไซต์ลิงก์หรือทดสอบโฆษณารูปแบบต่างๆ เปลี่ยนแปลงข้อความ (เช่น บรรทัดแรกหรือคํากระตุ้นการตัดสินใจ) หรือวิดีโอโดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มอัตรา Conversion

ขั้นตอนถัดไป

เครื่องหมายถูกสีเขียว ทำตามเช็กลิสต์นี้เพื่อเพิ่ม Conversion ออนไลน์ด้วยโฆษณา YouTube

เครื่องหมายถูกสีเขียว เข้าเรียนหลักสูตร Skillshop เกี่ยวกับการจัดการแคมเปญวิดีโอ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
บรรลุเป้าหมายทางการตลาดด้วย Google Ads

Google Ads ช่วยให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่จะนำความสำเร็จมาให้คุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวความสําเร็จ เพื่อศึกษาว่าธุรกิจอื่นๆ ใช้แคมเปญที่เหมาะสมเพื่อการบรรลุเป้าหมายใดบ้าง

เริ่มต้นใช้งาน

หรือโทร 1-855-500-2754 เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16344684306571918656
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false