โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทช่วยให้คุณสร้างโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนเพื่อแสดงข้อความให้มากขึ้นและส่งสารที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้นด้วย กรอกบรรทัดแรกและคำอธิบายหลายรายการเมื่อสร้างโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท แล้วเมื่อเวลาผ่านไป Google Ads จะทดสอบบรรทัดแรกและคำอธิบายต่างๆ ผสมกันโดยอัตโนมัติเพื่อดูว่าส่วนผสมแบบไหนทำงานเข้ากันได้ดีที่สุด โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญได้เนื่องจากช่วยแก้ไขให้เนื้อหาของโฆษณาใกล้เคียงกับข้อความค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากขึ้น
- ระบบอาจแสดงเนื้อหาตามลำดับใดก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบเนื้อหาว่ามีความเหมาะสมทั้งในแบบแต่ละรายการหรือเมื่อใช้ร่วมกัน และอย่าละเมิดนโยบายของเราหรือกฎหมายท้องถิ่น
- ขอแนะนำให้มีโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออกอย่างน้อย 2 รายการและโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท 1 รายการต่อกลุ่มโฆษณา คุณจะเปิดใช้โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทได้ไม่เกิน 3 รายการต่อกลุ่มโฆษณา
- หากมีข้อความที่ควรปรากฏในโฆษณาทุกรายการ คุณจะต้องเพิ่มข้อความนั้นในตำแหน่งบรรทัดแรก 1 ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1
- ในการเพิ่มโอกาสการแสดงโฆษณา ให้ระบุบรรทัดแรกที่แตกต่างกันอย่างน้อย 5 รายการที่ไม่ใช้วลีที่ซ้ำหรือคล้ายกัน แล้วใช้พิจารณาผลของคุณภาพของโฆษณาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา การใช้บรรทัดแรกที่ซ้ำซ้อนจะทำให้ระบบสร้างการผสมผสานโฆษณาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดูตัวอย่าง
ประโยชน์
โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์จะช่วยให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- สร้างโฆษณาแบบยืดหยุ่นที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความกว้างของอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีพื้นที่มากขึ้นในการแชร์ข้อความกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า
- ประหยัดเวลาด้วยการให้ตัวเลือกบรรทัดแรกและคำอธิบายหลายรายการ จากนั้นปล่อยให้ Google Ads แสดงการผสมผสานโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
- คุณปรับบรรทัดแรกและคำอธิบายให้เหมาะกับสถานที่ของลูกค้า สถานที่ที่ไปบ่อย หรือสถานที่ที่สนใจได้
- เข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลือกบรรทัดแรกและคำอธิบายหลายรายการ ซึ่งจะช่วยให้โฆษณามีโอกาสแข่งขันในการประมูลจำนวนมากขึ้นและตรงกับคำค้นหาจำนวนมากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มโฆษณาด้วยการดึงดูดคลิกและ Conversion เพิ่มเติมที่โฆษณาแบบข้อความที่คุณมีอยู่ทำไม่ได้ เนื่องจากโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะช่วยให้แข่งขันในการประมูลจำนวนมากขึ้นได้
ลักษณะการทำงาน
ยิ่งคุณป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ Google Ads ก็จะยิ่งมีโอกาสแสดงโฆษณาที่ตรงกับคำค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้
หลังจากที่ป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายแล้ว Google Ads จะนำข้อความทั้ง 2 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นส่วนผสมของโฆษณาหลายๆ แบบโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกัน (ต่างจากโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออก) คุณระบุบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการและคำอธิบาย 4 รายการต่อโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทรายการเดียว ถัดไป ในโฆษณาหนึ่งๆ ระบบจะเลือกบรรทัดแรกสูงสุด 3 รายการและคำอธิบาย 2 รายการเพื่อแสดงในชุดค่าผสมและลำดับต่างๆ ทั้งนี้ Google Ads จะคอยทดสอบส่วนผสมของโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำงานได้ดีที่สุดอยู่เรื่อยๆ และดูว่าส่วนผสมใดเกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่างๆ มากที่สุด
วิธีการ
สร้างโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- คลิกโฆษณาและส่วนขยายจากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
- คลิกปุ่มบวก
แล้วเลือกโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- ป้อนข้อความของ URL สุดท้ายและเส้นทางที่แสดง ขณะที่คุณพิมพ์ ตัวอย่างโฆษณาจะปรากฏขึ้นทางด้านขวา
- โปรดทราบว่าระบบจะแสดงตัวอย่างโฆษณาที่เป็นไปได้ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้เนื้อหาของคุณ เราไม่ได้แสดงครบทุกตัวอย่างและอาจแสดงโฆษณาบางรูปแบบน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆ
- ป้อนบรรทัดแรก อย่างน้อย 3 รายการแต่ไม่เกิน 15 รายการ
- ป้อนคำอธิบาย อย่างน้อย 2 รายการแต่ไม่เกิน 4 รายการ
- คลิกบันทึก
- โปรดทราบว่าบรรทัดแรกและคำอธิบายอาจปรากฏโดยเรียงลำดับอย่างไรก็ได้
- ลองเขียนบรรทัดแรก 3 รายการแรกให้เหมือนกับว่าจะปรากฏขึ้นพร้อมกันในโฆษณา
- อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดอย่างน้อย 1 รายการไว้ในบรรทัดแรก และสร้างบรรทัดแรกที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดซึ่งคุณกำหนดเป้าหมายอยู่
- มุ่งเน้นที่การระบุบรรทัดแรกที่ต่างกันให้ได้มากที่สุด บรรทัดแรกจำนวนมากขึ้นจะช่วยให้ Google Ads มีตัวเลือกมากขึ้นในการนำข้อความมาประกอบกันเป็นโฆษณาที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
- ลองไฮไลต์ประโยชน์อื่นๆ ของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ปัญหาที่คุณช่วยแก้ไขได้ หรือไฮไลต์ข้อมูลการจัดส่งและการส่งสินค้าคืน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- หากระบุบรรทัดแรกเพิ่มเติมได้อีก ให้ลองสร้างรูปแบบต่างๆ ของบรรทัดแรกที่ป้อนไว้แล้ว ตัวอย่างเช่น ลองใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่ต่างออกไป
แก้ไขโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- คลิกโฆษณาและส่วนขยายจากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
- คลิกที่แถบด้านบนตารางผลลัพธ์เพื่อเพิ่มตัวกรอง
- ในเมนูแบบเลื่อนลงที่ปรากฏขึ้น ให้คลิกแอตทริบิวต์ แล้วคลิกประเภทโฆษณา
- เลือกช่องข้างๆ “โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท”
- วางเมาส์เหนือโฆษณาที่ต้องการแก้ไขในตารางผลลัพธ์ แล้วคลิกไอคอนแก้ไข
- เลือกแก้ไข
- เปลี่ยนแปลง URL ของโฆษณา, URL สุดท้าย, บรรทัดแรก, คำอธิบาย หรือตัวเลือก URL ได้ตามต้องการ
- คลิกบันทึก
- โปรดทราบว่าการแก้ไขหรือนำบรรทัดแรกหรือคำอธิบายใดก็ตามออกอาจเปลี่ยนแปลงโฆษณาที่แสดงอยู่และส่งผลต่อประสิทธิภาพได้
ตรึงบรรทัดแรกและคำอธิบายไปยังตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง
โดยค่าเริ่มต้น เมื่อคุณสร้างโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท บรรทัดแรกและคำอธิบายจะปรากฏในลำดับใดก็ได้ คุณควบคุมตำแหน่งที่บรรทัดแรกและคำอธิบายแต่ละรายการจะปรากฏในโฆษณาได้ด้วยการตรึงบรรทัดแรกและคำอธิบายไปยังตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการแสดงข้อจำกัดความรับผิดชอบในทุกๆ โฆษณา คุณเขียนข้อจำกัดความรับผิดชอบเป็นคำอธิบายโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและตรึงไว้ในตำแหน่งคำอธิบาย 1 ได้ ด้วยวิธีนี้ โฆษณาทั้งหมดที่แสดงต่อลูกค้าจะมีข้อจำกัดความรับผิดชอบในส่วนแรกของคำอธิบาย
- สร้างหรือแก้ไขโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท (ดูขั้นตอนด้านบน)
- คลิกไอคอนหมุดที่ด้านขวาของบรรทัดแรกหรือคำอธิบายใดๆ ที่ต้องการตรึง
จากนั้นเลือกตำแหน่งที่ต้องการตรึงบรรทัดแรกหรือคำอธิบายดังกล่าว
- หากต้องการตรึงบรรทัดแรกหรือคำอธิบายที่ไม่ได้ตรึงไว้ให้คลิกไอคอนหมุด
แล้วเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการแสดงบรรทัดแรกหรือคำอธิบาย
- คลิกบันทึก
- โปรดทราบว่าการแก้ไขหรือนำบรรทัดแรกหรือคำอธิบายใดก็ตามออกอาจเปลี่ยนแปลงโฆษณาที่แสดงอยู่และส่งผลต่อประสิทธิภาพได้
เคล็ดลับ
- การตรึงบรรทัดแรกหนึ่งบรรทัดหรือคำอธิบายจะทำให้บรรทัดแรกหรือคำอธิบายนั้นแสดงเฉพาะในตำแหน่งนั้น และป้องกันไม่ให้รายการอื่นแสดงในตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากการตรึงจะเป็นการลดจำนวนโดยรวมของบรรทัดแรกหรือคำอธิบายที่จับคู่กับการค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ จึงไม่แนะนำให้ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่ใช้การตรึง
- ลองตรึงบรรทัดแรกหรือคำอธิบาย 2 หรือ 3 รายการไปยังแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้รายการใดก็ตามแสดงในตำแหน่งนั้นๆ ได้ ซึ่งทำให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดูว่าบรรทัดแรกหรือคำอธิบายใดที่ทำงานได้ดีขึ้น
- ตัวอย่างเช่น หากคุณตรึงบรรทัดแรก "เว็บไซต์ทางการ" ไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1 โฆษณาทั้งหมดที่ลูกค้าเห็นจะมีคำว่า "เว็บไซต์ทางการ" เป็นบรรทัดแรกที่ 1 อย่างไรก็ตาม หากคุณตรึงบรรทัดแรกที่ 2 สมมติคือคำว่า "เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ" ไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1 โฆษณาทั้งหมดที่ลูกค้าเห็นจะแสดงเป็น "เว็บไซต์ทางการ" หรือ "เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ" เป็นบรรทัดแรกที่ 1
- หากคุณได้ตรึงบรรทัดแรกและ/หรือคำอธิบายไว้ในตำแหน่งที่มีอยู่ทั้งหมด บรรทัดแรกและ/หรือคำอธิบายที่ไม่ถูกตรึงจะไม่แสดงขึ้น
- บรรทัดแรกหรือคำอธิบายที่ตรึงไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1 ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1 จะแสดงขึ้นเสมอ ระบบไม่รับรองว่าเนื้อหาที่ตรึงไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 3 และตำแหน่งคำอธิบาย 2 จะแสดงขึ้นในทุกๆ โฆษณา หากคุณมีข้อความที่ควรปรากฏในทุกโฆษณา คุณจะต้องตรึงข้อความนั้นไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1 ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1
รายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
ในหน้าโฆษณาและส่วนขยาย คุณจะเห็นเมตริกประสิทธิภาพของโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์แต่ละรายการแบบเดียวกับที่เห็นในโฆษณาแบบข้อความอื่นๆ สถิติจะแสดงผลรวมของส่วนผสมโฆษณาทั้งหมดที่แสดงโดยใช้บรรทัดแรกและคำอธิบายต่างๆ ที่คุณป้อนไว้ให้กับโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทแต่ละรายการ
- คลิกโฆษณาและส่วนขยายจากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
- คลิกที่แถบด้านบนตารางผลลัพธ์เพื่อเพิ่มตัวกรอง
- ในเมนูแบบเลื่อนลงที่ปรากฏขึ้น ให้คลิกแอตทริบิวต์ แล้วคลิกประเภทโฆษณา
- เลือกช่องข้างๆ “โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท”
- ไม่บังคับ: หากต้องการปรับคอลัมน์ (และข้อมูล) ที่จะปรากฏในรายงาน ให้คลิกไอคอนคอลัมน์
เลือกแก้ไขคอลัมน์ จากนั้นเลือกคอลัมน์ที่ต้องการให้ปรากฏในรายงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอลัมน์ในตารางสถิติ
- ไม่บังคับ: หากต้องการปรับคอลัมน์ (และข้อมูล) ที่จะปรากฏในรายงาน ให้คลิกไอคอนคอลัมน์
- คลิกใช้
- คลิกไอคอนดาวน์โหลด
- เลือกรูปแบบของรายงาน (ตัวอย่างเช่น .csv, .pdf)
- ไม่บังคับ: คุณอาจเลือกเปิดรายงานในเครื่องมือแก้ไขรายงาน ตั้งเวลารายงาน หรือส่งรายงานให้ตัวเองทางอีเมลก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึกและตั้งเวลารายงาน