เกี่ยวกับชิ้นงาน

ชิ้นงานคือชิ้นส่วนเนื้อหาที่ประกอบขึ้นเป็นโฆษณาที่มีข้อมูลทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ซึ่งดึงดูดให้ผู้ใช้เลือกธุรกิจของคุณมากขึ้น ชิ้นงานประกอบด้วยบรรทัดแรก คําอธิบาย ลิงก์ไปยังส่วนหนึ่งๆ ของเว็บไซต์ ปุ่มโทร ข้อมูลตําแหน่ง และอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันเพื่อสร้างรูปแบบโฆษณาสุดท้ายที่แสดงต่อผู้ใช้

บทความนี้จะอธิบายหน้าที่ของชิ้นงานแต่ละประเภทและวิธีเลือกชิ้นงานที่เหมาะกับคุณ

วิธีการทำงาน

Google Ads จะเลือกชิ้นงานเพิ่มเติมที่จะแสดงในแต่ละครั้งที่มีการค้นหาใน Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทให้ได้สูงสุด ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรใช้ชิ้นงานทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

เมื่อเพิ่มเนื้อหาในโฆษณา ชิ้นงานอย่างไซต์ลิงก์และรูปภาพจะช่วยให้โฆษณาเป็นที่พบเห็นมากขึ้นและโดดเด่นในหน้าผลการค้นหา ซึ่งหมายความว่าคุณน่าจะได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นจากโฆษณา ชิ้นงานมักจะเพิ่มจำนวนคลิกโดยรวม และทำให้ผู้คนเข้าถึงคุณได้ด้วยวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น ด้วยแผนที่หรือการโทร

ชิ้นงานหลายประเภทต้องมีการตั้งค่าเล็กน้อย จึงเรียกว่าชิ้นงานที่กำหนดเอง และ Google Ads จะใส่ชิ้นงานบางประเภทโดยอัตโนมัติเมื่อคาดการณ์ว่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้คุณได้ ชิ้นงานเหล่านี้เรียกว่าชิ้นงานอัตโนมัติซึ่งไม่จําเป็นต้องตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี

ค่าใช้จ่าย

การใส่ชิ้นงานเพิ่มเติมลงในแคมเปญนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เราจะเรียกเก็บเงินตามปกติสําหรับการคลิกชิ้นงานบรรทัดแรก ไซต์ลิงก์ รูปภาพ และอื่นๆ ในโฆษณาสุดท้าย (ยกเว้นการคลิกคะแนนผู้ขาย ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บเงิน) ดังนั้น เราจะเรียกเก็บจากคุณสำหรับการคลิกแต่ละครั้งเมื่อมีผู้โทรหาคุณจากไอคอนการโทรในโฆษณาสุดท้าย หรือเมื่อมีผู้ดาวน์โหลดแอปของคุณโดยคลิกแอปที่แสดงในโฆษณาสุดท้าย Google Ads จะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 2 คลิกต่อการแสดงผลสำหรับโฆษณาแต่ละรายการและชิ้นงานของโฆษณาดังกล่าว

ต้นทุนต่อคลิกที่จ่ายจริง

การเพิ่มชิ้นงานลงในแคมเปญไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่เราจะเรียกเก็บเงินตามปกติจากการคลิกโฆษณา รวมถึงการโต้ตอบบางอย่างที่เกิดจากชิ้นงาน ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่มดาวน์โหลด (ชิ้นงานแอป) ปุ่มโทร (ชิ้นงานการโทร) ไอคอนเส้นทาง (ชิ้นงานสถานที่ตั้ง) เป็นต้น ทั้งนี้ เราจะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการคลิกรีวิวและคะแนนผู้ขาย Google Ads จะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 2 คลิก (ต่อการแสดงผล) ในโฆษณาแต่ละรายการและชิ้นงานของโฆษณาดังกล่าว

จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายคือจำนวนเงินขั้นต่ำที่จำเป็นในการผ่านเกณฑ์ลำดับโฆษณา และเอาชนะลำดับโฆษณาของคู่แข่งที่อยู่ต่ำกว่าคุณ 1 ตำแหน่ง (หากมี)

โฆษณาที่อยู่ในอันดับที่สูงกว่ามักจะมี CPC จริงสูงกว่า (เนื่องจากการแข่งขันและส่วนหนึ่งคือเกณฑ์ลำดับโฆษณา) ที่สูงกว่า ในทำนองเดียวกัน โฆษณาที่มีชิ้นงานมากกว่าก็มักจะมี CPC จริงสูงกว่าเนื่องจากมีความโดดเด่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการเพิ่มชิ้นงานในโฆษณามักต่ำกว่าค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการเลื่อนอันดับในหน้าผลการค้นหา หมายความว่าการเลือกใช้ชิ้นงานโฆษณาเพิ่มเติมแทนการเลื่อนอันดับจะช่วยให้ได้รับคลิกเพิ่มขึ้นโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง

บรรทัดแรกและคำอธิบาย

บรรทัดแรกและคําอธิบายเป็นชิ้นงานที่จําเป็นซึ่งควรมีลักษณะน่าสนใจ เน้นที่ประโยชน์ของผู้ใช้ และไม่ซ้ำกัน ยิ่งคุณป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายเป็นจำนวนมากเท่าไร Google Ads ก็จะยิ่งมีโอกาสแสดงโฆษณาที่ตรงกับคำค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้

หลังจากที่ป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายแล้ว Google Ads จะนำข้อความทั้ง 2 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นชุดรวมชิ้นงานโฆษณาหลายๆ แบบโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกัน คุณจะระบุบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการและคำอธิบาย 4 รายการต่อโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทรายการเดียว

ในโฆษณาหนึ่งๆ ระบบจะเลือกบรรทัดแรก 1 รายการและคำอธิบาย 1 รายการเป็นอย่างน้อยเพื่อแสดงในชุดรวมชิ้นงานโฆษณาและลำดับต่างๆ ข้อความโฆษณาบางส่วนอาจแสดงเป็นตัวหนาโดยอัตโนมัติเมื่อตรงหรือใกล้เคียงกับคําค้นหาของผู้ใช้ ทั้งนี้ Google Ads จะคอยทดสอบชุดรวมชิ้นงานโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำงานได้ดีที่สุดอยู่เรื่อยๆ และดูว่าชุดรวมใดเกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่างๆ มากที่สุด

โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะแสดงบรรทัดแรก 1, 2 หรือ 3 รายการโดยพิจารณาจากรายการที่คาดว่าจะทํางานได้ดีที่สุดสําหรับคําค้นหาที่ไม่ซ้ำกันของแต่ละคน ข้อความของชิ้นงานบรรทัดแรกอาจแสดงที่ช่วงต้นของคำอธิบายเมื่อระบบคาดการณ์แล้วว่าทำงานได้ดีที่สุด หากคุณมีชิ้นงานที่ปักหมุดไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1 ชิ้นงานเหล่านั้นจะยังคงแสดงในตำแหน่งที่กำหนดเมื่อโฆษณาแสดง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท

หมายเหตุ: บรรทัดแรกและคําอธิบายต่างจากชิ้นงานอื่นๆ ตรงที่ไม่สามารถใช้ในระดับบัญชีหรือระดับแคมเปญที่ต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพบรรทัดแรกและคําอธิบาย

วิธีเลือกใช้ชิ้นงานเพิ่มเติม

โปรดคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้ขณะที่เลือกและตั้งค่าชิ้นงาน

  • ใช้ทุกชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ คุณสามารถเพิ่มชิ้นงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และชิ้นงานจะแสดงขึ้นมาก็ต่อเมื่อระบบคาดว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้เท่านั้น
  • พิจารณาเพิ่มชิ้นงานอย่างน้อย 4 ประเภท เช่น คุณอาจเพิ่มไซต์ลิงก์ ข้อความไฮไลต์ รูปภาพ และชิ้นงานที่ต้องการอีก 1 ประเภท
  • สร้างชิ้นงานในระดับบัญชีที่สูงขึ้น (เช่น ที่ระดับบัญชีหรือแคมเปญ หากมี) ในกรณีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
  • ระบบจะไม่นับและไม่แสดงประเภทชิ้นงานแบบอ่านอย่างเดียว แต่ชิ้นงานเหล่านั้นอาจยังแสดงอยู่

เลือกชิ้นงานตามเป้าหมาย

เลือกชิ้นงานเพิ่มเติมตามเป้าหมายการโฆษณาหลัก เป้าหมายที่พบได้บ่อยของผู้ลงโฆษณาและชิ้นงานที่สนับสนุนเป้าหมายเหล่านั้นมีดังนี้

เป้าหมาย: ชักชวนให้ลูกค้ามาซื้อจากที่ตั้งธุรกิจ

หากต้องการนำลูกค้ามายังสถานที่ตั้งจริงของคุณ (เช่น ร้านค้าหรือร้านอาหาร) ให้พิจารณาใช้ชิ้นงานต่อไปนี้

ชิ้นงานสถานที่ตั้ง

กระตุ้นให้ผู้คนไปเยี่ยมชมธุรกิจของคุณด้วยการแสดงสถานที่ตั้ง ปุ่มโทร และลิงก์ไปยังหน้ารายละเอียดธุรกิจ ซึ่งอาจมีข้อมูลเวลาทำการ รูปภาพธุรกิจ และเส้นทางไปยังธุรกิจ หากต้องการให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมที่ตั้งธุรกิจของคุณ แต่โทรหาหมายเลขส่วนกลาง (แทนการโทรไปยังหมายเลขของที่ตั้งนั้นๆ) ให้ใช้ชิ้นงานการโทรร่วมกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง

เป้าหมาย: ทำให้ลูกค้าติดต่อคุณ

ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนโทรหาหรือส่งข้อความสอบถาม ให้ใช้ชิ้นงานการโทร

ชิ้นงานการโทร

กระตุ้นให้ผู้คนโทรหาธุรกิจของคุณด้วยการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือปุ่มโทรลงในโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานการโทร

เป้าหมาย: ทำให้ลูกค้าทำ Conversion ในเว็บไซต์

หากต้องการนำลูกค้าไปที่เว็บไซต์ ให้ใช้ชิ้นงานต่อไปนี้

ชิ้นงานไซต์ลิงก์

ลิงก์ลูกค้าไปที่หน้าเว็บเจาะจงบนเว็บไซต์ของคุณโดยตรง (เช่น "เวลาทำการ" และ "สั่งซื้อเลย") ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสร้างและแก้ไขชิ้นงานไซต์ลิงก์

ชิ้นงานข้อความไฮไลต์

ใส่ข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณา เช่น "จัดส่งฟรี" หรือ "บริการลูกค้า 24 ชม. ทุกวัน"

ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

แสดงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุดด้วยการเลือกส่วนหัวที่กำหนดล่วงหน้า (เช่น หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการ) และรายการสินค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

ชิ้นงานราคา

แสดงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการพร้อมราคาเพื่อให้ลูกค้าเรียกดูผลิตภัณฑ์ของคุณได้โดยตรงจากโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานราคา

เป้าหมายคือทำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป

หากต้องการให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณ ให้ใช้ชิ้นงานแอป

ชิ้นงานแอป

กระตุ้นให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณ มีให้บริการทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต Android และ iOS ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานแอป

เป้าหมายคือดึงดูดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูล

ใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม หากต้องการกระตุ้นให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลติดต่อ (เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และรายละเอียดอื่นๆ) ที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนําเสนอ

ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

กระตุ้นให้ผู้ใช้ลงชื่อสมัครใช้จากโฆษณา มีให้บริการทั่วโลกสําหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

วิธีนําชิ้นงานออก

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

ชิ้นงานจะใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณในโฆษณาและมักจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณาได้ หากต้องการนําชิ้นงานออก ให้ทําตามวิธีการต่อไปนี้

  1. คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
  5. เลือกช่องทางด้านซ้ายของชิ้นงาน แล้วคลิกแก้ไขในแถบสีน้ำเงิน
  6. เลือกนำออกจากเมนูแบบเลื่อนลง

การนําชิ้นงานออกจากแคมเปญหนึ่งจะไม่เป็นการนําชิ้นงานดังกล่าวออกจากแคมเปญอื่นๆ

วิธีปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

หากต้องการปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
  5. คลิกเมนู 3 จุด ทางด้านขวา แล้วเลือกชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
  6. คลิกเมนู 3 จุด ทางด้านขวาอีกครั้ง แล้วเลือกตัวเลือกขั้นสูง
  7. เลือกปิดชิ้นงานอัตโนมัติที่ต้องการ แล้วเลือกชิ้นงานที่จะปิด
  8. เลือกเหตุผลในการปิดชิ้นงานและใส่ความคิดเห็นเพิ่มเติม
  9. คลิกปิด

ข้อมูลเฉพาะสําหรับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบาย

ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ได้กับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบายเท่านั้น

วิธีตั้งเวลาชิ้นงาน

สําหรับชิ้นงานที่รองรับ คุณตั้งเวลาให้ชิ้นงานแสดงเฉพาะในช่วงเวลาที่เจาะจงของวันหรือในกรอบเวลาที่เจาะจงได้ เช่น ตั้งเวลาชิ้นงานการโทรให้แสดงเฉพาะในเวลาที่ธุรกิจของคุณสามารถรับสายได้

วิธีการ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง" ตอนนี้คุณจะเห็นตารางที่มีชิ้นงานทั้งหมด
  5. เลือกประเภทชิ้นงานจากรายการเหนือแถบเครื่องมือตาราง
  6. คลิกไอคอนดินสอ ไอคอนดินสอ / ไอคอนแก้ไข ที่ด้านข้างของชิ้นงานที่คุณต้องการตั้งเวลา แล้วเลือกแก้ไข
  7. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงตัวเลือกขั้นสูง
  8. กำหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดเพื่อแสดงชิ้นงานเฉพาะในกรอบเวลานั้น
  9. เลือกวันและเวลาที่ต้องการให้ชิ้นงานแสดงใน "การตั้งเวลาชิ้นงาน" คลิกเพิ่มการตั้งเวลาเพื่อตั้งเวลาวันและเวลาอื่นๆ
  10. คลิกบันทึก

ปัจจัยที่กําหนดว่าชิ้นงานจะแสดงเมื่อใด

Google Ads จะแสดงชิ้นงานโดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น
  • ลำดับโฆษณาเป็นการรวมกันของราคาเสนอ, คุณภาพของโฆษณาและหน้า Landing Page, เกณฑ์ลำดับโฆษณา, บริบทการค้นหาของผู้ใช้ และผลที่คาดว่าจะได้รับจากชิ้นงานและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ Google Ads จะกำหนดลำดับโฆษณาขั้นต่ำ (โดยนำชิ้นงานมาประกอบการพิจารณาด้วย) ก่อนที่จะแสดงชิ้นงานเพิ่มเติมพร้อมกับโฆษณา คุณจึงอาจต้องเพิ่มราคาเสนอหรือคุณภาพโฆษณา (หรือทั้ง 2 อย่าง) ชิ้นงานเพิ่มเติมจึงจะแสดง
  • อันดับของโฆษณาในหน้าผลการค้นหาของ Google พื้นที่สำหรับชิ้นงานโฆษณาเหนือผลการค้นหาของ Google มีจำกัด และโฆษณาที่มีอันดับสูงกว่ามีโอกาสที่จะแสดงชิ้นงานเพิ่มเติมก่อน โดยปกติแล้วโฆษณาในอันดับต่ำจะมีชิ้นงานที่เพิ่มน้อยกว่าโฆษณาในอันดับที่สูงกว่า นอกจากนี้ ระบบ Google Ads มักจะไม่อนุญาตให้โฆษณาในอันดับต่ำได้รับคลิกที่เพิ่มขึ้นจากชิ้นงานเป็นจำนวนมากกว่าคลิกที่เพิ่มขึ้นที่ได้รับจากการเลื่อนขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น หากต้องการแสดงโฆษณาในอันดับสูงขึ้น โดยทั่วไปคุณจะต้องเพิ่มคุณภาพโฆษณา ราคาเสนอ หรือทั้ง 2 อย่าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลำดับโฆษณา
  • ชิ้นงานอื่นๆ ที่คุณเปิดใช้ โดยทั่วไป ในการประมูลแต่ละครั้ง เราจะแสดงชุดรวมที่ทำงานได้ดีที่สุดและมีประโยชน์มากที่สุดของชิ้นงานและรูปแบบที่มีสิทธิ์ คุณไม่สามารถรับชุดรวมชิ้นงานที่ให้อัตราการคลิกผ่านที่คาดว่าจะได้รับ (CTR) มากกว่า CTR ที่คาดว่าจะได้รับของอันดับโฆษณาที่สูงกว่าได้

วิธีทําให้ชิ้นงานมีโอกาสแสดงมากขึ้น

บางครั้งชิ้นงานที่คุณต้องการใช้อาจไม่แสดงพร้อมกับโฆษณา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีอะไรผิดปกติ (เช่น หากคุณเพิ่มไซต์ลิงก์และรูปภาพลงในโฆษณา มีสาเหตุหลายประการที่ทําให้หนึ่งในชิ้นงานเหล่านั้นปรากฏในการค้นหาบางรายการแต่ไม่ปรากฏในรายการอื่นๆ)

ตรวจสอบว่าชิ้นงานเชื่อมโยงอยู่กับกลุ่มโฆษณา แคมเปญ หรือบัญชีที่ใช้งานอยู่

เช่นเดียวกับโฆษณาและคีย์เวิร์ด ชิ้นงานมีสิทธิ์ได้รับอนุมัติหรือไม่อนุมัติก็ได้ ชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติจะไม่แสดงและต้องได้รับการแก้ไข และส่งเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง

แต่แม้ว่าจะได้รับอนุมัติ การเพิ่มชิ้นงานก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาทุกครั้ง ชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาในกรณีต่อไปนี้

  • ระบบคาดการณ์ว่าชิ้นงาน (หรือชุดรวมชิ้นงาน) จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาได้
  • โฆษณาของคุณมีอันดับและลำดับโฆษณาสูงพอที่จะแสดงชิ้นงาน

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
666987389538950762
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false