ประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ

เมื่อแสดงโฆษณาไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็ควรจะมีการประเมินเพื่อดูว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป้าหมายของคุณคือการกระตุ้นยอดขายและเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ ลองถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเอง

  • คีย์เวิร์ดใดที่มีจำนวนคลิกบนโฆษณามากที่สุด
  • ลูกค้าค้นหาจากสถานที่และอุปกรณ์ใด
  • วันและเวลาใดที่ธุรกิจมียอดขายสูงสุด

รายงานในบัญชีของคุณจะมีข้อมูลที่ตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของบัญชี แคมเปญ และกลุ่มโฆษณา

ประเมินค่าใช้จ่ายและรายได้

สำหรับการวัดประสิทธิภาพของแคมเปญนั้น คุณควรสังเกตว่าผู้ที่เห็นโฆษณามีการคลิกจริงๆ มากเพียงใด โดยมีวิธีการคือ ให้ลองจัดเรียงคีย์เวิร์ดตามอัตราการคลิกผ่าน (CTR) เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดใดทำให้มีการแสดงผลมาก แต่คลิกน้อย หากเป้าหมายคือการสร้างยอดขาย เราขอแนะนำให้แก้ไขราคาเสนอของคีย์เวิร์ดเหล่านี้

เคล็ดลับ

  • เราขอแนะนำให้ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับบัญชีเพื่อให้ทราบว่าการคลิกนำไปสู่การขายที่แท้จริงหรือเปล่า เครื่องมือฟรีนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากผู้ใช้คลิกที่โฆษณาของคุณ ไม่ว่าพวกเขาจะซื้อผลิตภัณฑ์หรือลงชื่อสมัครรับจดหมายข่าวก็ตาม คุณใช้ข้อมูลนี้เพื่อคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่เกิดขึ้นจริงได้

  • หากคุณไม่มีเวลาประเมินประสิทธิภาพของราคาเสนอ Google จะช่วยจัดการแทนคุณเอง เมื่อใช้เพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด คุณจะเป็นผู้กำหนดงบประมาณรายวันเฉลี่ย แล้วเราจะช่วยปรับราคาเสนอต่อหนึ่งคลิกเพื่อให้ได้รับคลิกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายในงบประมาณดังกล่าว หรือหากมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงอยู่แล้ว ก็ให้ลองใช้กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเพื่อปรับราคาเสนอตามเป้าหมายนั้น

ปรับราคาเสนอเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

เมื่อคุณทราบแล้วว่าคีย์เวิร์ด สถานที่ เวลา และอุปกรณ์ใดทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี คุณก็ปรับราคาเสนอให้สอดคล้องกันได้

ตัวอย่างสถานการณ์ที่คุณควรเปลี่ยนราคาเสนอมีดังนี้

  • ราคาต่อหนึ่งคลิกโดยเฉลี่ย (CPC) ยังต่ำแต่มีอัตรา Conversion สูง: เช่น หากคีย์เวิร์ดมี CPC เฉลี่ยต่ำ แต่การคลิกแต่ละครั้งทำให้เกิด Conversion ได้ดี คุณอาจลองเพิ่มราคาเสนอ CPC สูงสุดก็ได้
  • CPC เฉลี่ยสูงแต่มีอัตรา Conversion ต่ำ: หากคีย์เวิร์ดมี CPC เฉลี่ยสูง แต่การคลิกแทบไม่ทำให้เกิด Conversion เลย คุณอาจลองปรับลดราคาเสนอ CPC สูงสุดก็ได้ กลยุทธ์นี้อาจช่วยเพิ่ม ROI ให้คีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพต่ำ และช่วยให้มีงบประมาณเหลือไปลงทุนในคีย์เวิร์ดที่มีมูลค่าสูงกว่า
  • ปริมาณการเข้าชมต่ำเป็นบางเวลา: ลองเพิ่มราคาเสนอในสถานที่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า หรือหากพบว่าลูกค้ามักจะเข้าร้านน้อยลงในบางช่วงเวลาของวัน คุณอาจเพิ่มราคาเสนอสำหรับช่วงเวลานั้นและแสดงโฆษณาที่มีข้อเสนอพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมายังธุรกิจของคุณมากขึ้นได้

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอมีสองข้อดังนี้

  • เพิ่มราคาเสนอทีละน้อย: จากนั้นจึงพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของจำนวนคลิกและ Conversion ของคีย์เวิร์ดก่อนที่จะปรับแก้อีกครั้ง การเข้าชมทางอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณจึงควรประเมินราคาเสนอใหม่อยู่เรื่อยๆ
  • ปรับปรุงคะแนนคุณภาพ: คุณปรับปรุงอันดับโฆษณาได้โดยไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย ยิ่งคีย์เวิร์ดมีคะแนนคุณภาพสูง คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้อันดับโฆษณาที่ต้องการน้อยลง

เครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ

นอกจากกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติแล้ว Google ยังมีเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยแนะนำการเลือกราคาเสนอให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ

หลังจากที่ใช้แคมเปญไปแล้วเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ เครื่องมือของเราจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะให้คำแนะนำที่เหมาะกับคุณ ดังต่อไปนี้

  • เครื่องจำลองการเสนอราคา: จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ของสถานการณ์สมมติได้ เช่น "จำนวนการแสดงผลจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ถ้าฉันเพิ่มราคาเสนอ 3 บาท" เครื่องมือนี้จะช่วยปรับราคาเสนอให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องจำลองการเสนอราคา
  • ค่าประมาณการเสนอราคาสำหรับหน้าแรก: จะช่วยให้เห็นว่าคุณควรเสนอราคาเท่าใด โฆษณาจึงจะแสดงที่ตำแหน่งบนสุดหรือหน้าแรกในผลการค้นหาของ Google
  • หน้าคำแนะนำ: ส่วนนี้ของบัญชีจะแสดงคำแนะนำในการปรับปรุงราคาเสนอ CPC ซึ่งจะช่วยให้มีจำนวนผู้เข้าชมมากขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงลำดับหรือประสิทธิภาพของโฆษณาให้ดีขึ้น

    ไปที่หน้าคำแนะนำเลย

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10875547302736063905
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false