ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพช่วยให้แคมเปญสํารวจหากลุ่มลูกค้าซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่จะทํา Conversion ตามเป้าหมายแคมเปญได้อย่างยืดหยุ่น เมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ คุณจะเลือกระบุสัญญาณการกําหนดเป้าหมาย เช่น คีย์เวิร์ดหรือกลุ่มเป้าหมาย หรือไม่ก็ได้ ระบบของเราใช้สัญญาณเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหาเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อแสดงโฆษณา

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพอาจลดหรือหยุดการแสดงโฆษณาจากสัญญาณของคุณหากพบการเข้าชมที่มีประสิทธิภาพดีกว่าที่อื่น

ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบวิธีใช้และตรวจสอบประสิทธิภาพของการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญ Display และแคมเปญวิดีโอ

 


ก่อนเริ่มต้น

ความปลอดภัยของแบรนด์

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะทำงานตามการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์ที่มีอยู่ (เช่น การยกเว้นเนื้อหา) คุณไม่จําเป็นต้องทําการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกับการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์เมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

กลยุทธ์การเสนอราคา

  • หากคุณมุ่งเน้นที่การสร้างการเข้าชมเว็บไซต์ ให้พิจารณาใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพกับกลยุทธ์เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด และใช้การเข้าชมเว็บไซต์เป็นประเภท Conversion
  • หากคุณมุ่งเน้นที่ Conversion ให้พิจารณาใช้กลยุทธ์เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดหรือ CPA เป้าหมายกับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ เราขอแนะนําให้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาเหล่านี้กับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเพราะจะใช้ข้อมูล Conversion เพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญ

ประสิทธิภาพของแคมเปญ

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะทํา Conversion

  • สําหรับแคมเปญใหม่ ให้รอจนกว่าแคมเปญจะมี Conversion อย่างน้อย 50 รายการ หรือทำงานไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนจะประเมินประสิทธิภาพ
  • สำหรับแคมเปญที่มีอยู่แล้ว ให้รออย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนจะประเมินประสิทธิภาพ
ใช้ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายในหน้าข้อมูลเชิงลึก เพื่อทําความเข้าใจได้ดีขึ้นถึงลักษณะเฉพาะของผู้ใช้ที่การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพพบว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มความโปร่งใสสําหรับการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการไฮไลต์กลุ่มเป้าหมายยอดนิยมโดย Google ที่ทํางานได้ดี วิธีนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าลูกค้าของคุณคือใคร เนื่องจากช่วยเผยลักษณะเฉพาะ ความสนใจ และพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้ที่เห็นโฆษณาของคุณแล้วทํา Conversion ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย

 


วิธีการ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

เปลี่ยนการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

หมายเหตุ: การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพใช้ได้กับแคมเปญ Demand Gen, แคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ (VAC) และแคมเปญ Display เท่านั้น ระบบจะเปิดใช้การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเสมอสําหรับแคมเปญ Performance Max และแคมเปญของแบรนด์ใช้การขยายกลุ่มเป้าหมาย

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกกลุ่มโฆษณา
  4. ในแถบตัวกรอง ให้เลือกแคมเปญที่มีกลุ่มโฆษณาอยู่
  5. จากนั้น เลือกกลุ่มโฆษณาที่ต้องการปรับการกำหนดเป้าหมาย
  6. คลิกแท็บ "การตั้งค่า"
    • คุณยังคลิกไอคอนรูปเฟือง Google Ads | gear [Icon] ข้างกลุ่มโฆษณาที่เลือกในตารางเพื่อเปิดแผงการตั้งค่าได้ด้วย
  7. ขยายส่วน "การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ"
  8. เลือกช่องทำเครื่องหมายเพื่อเปิดหรือปิดการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
  9. คลิกบันทึก

ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญที่ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกกลุ่มเป้าหมาย
  4. จากตารางสถิติ "กลุ่มเป้าหมาย" หรือ "ข้อมูลประชากร" ให้คลิกแสดงตารางเพื่อขยาย จากนั้นเลื่อนลงจนกว่าจะพบแถวที่ติดป้ายกํากับ "ทั้งหมด: การขยายและการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ"

เมื่อตรวจสอบประสิทธิภาพ โปรดทราบว่าการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพนั้นขยายการเข้าถึงไปยังผู้ที่ได้ดูโฆษณาของคุณเพราะมีการใช้การตั้งค่านี้ และ Conversion ที่คุณได้รับผ่านการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพก็เป็น Conversion เพิ่มเติมที่คุณได้รับเพราะมีการใช้การตั้งค่านี้เช่นกัน

ต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) เฉลี่ยเริ่มต้นอาจผันผวน เมื่อเวลาผ่านไป การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะเรียนรู้ว่าการกำหนดเป้าหมายแบบใดเหมาะสำหรับคุณที่สุดและจะเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงให้โดยมี CPA เฉลี่ยที่แน่นอนมากขึ้นเพื่อเพิ่ม Conversion ให้มากที่สุด

หากกลุ่มโฆษณาต่างๆ มีการกําหนดเป้าหมายคนละประเภท การดูประสิทธิภาพกลุ่มโฆษณาจะช่วยให้คุณเปรียบเทียบการคลิก การแสดงผล และ Conversion ของกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มได้

 


ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13955074649080656423
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false