ใช้กฎสําหรับกลุ่มข้อมูลที่รวมผู้เข้าชมเว็บไซต์

กลุ่มตามรายการมีการเปลี่ยนแปลง ระบบย้ายข้อมูลส่วนใหญ่โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ระบบไม่สามารถย้ายข้อมูลบางส่วนโดยอัตโนมัติและต้องตั้งค่ากลุ่มใหม่ ดูวิธีตั้งค่ากลุ่มใหม่ด้านล่าง

คุณจะเห็นการปรับปรุงใน Google Ads ดังต่อไปนี้ เพื่อให้มุมมองของกลุ่มเป้าหมายแบบรวมและครอบคลุม และทําให้การจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มเป้าหมายทําได้ง่ายขึ้น

• การรายงานกลุ่มเป้าหมายใหม่
  ต่อไปนี้การรายงานแบบละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลประชากร กลุ่ม และการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายจะรวมอยู่ในที่เดียว คลิกไอคอนแคมเปญ แล้วเปิดแท็บ "กลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหา" จากนั้นคลิกกลุ่มเป้าหมาย คุณยังจัดการกลุ่มเป้าหมายจากหน้ารายงานนี้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานกลุ่มเป้าหมาย
• คำใหม่
  เราจะใช้คำใหม่ในรายงานกลุ่มเป้าหมายและทั่วทั้ง Google Ads ตัวอย่างเช่นคำว่า "ประเภทกลุ่มเป้าหมาย" (ซึ่งได้แก่ ที่กําหนดเอง ที่มีแผนจะซื้อ และผู้สนใจ) ตอนนี้จะเรียกว่ากลุ่มเป้าหมาย และ "รีมาร์เก็ตติ้ง" จะเรียกว่า "ข้อมูลของคุณ" ดูรายละเอียดการอัปเดตคำและวลีเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย

แม้ว่า Google Ads จะสร้างกลุ่มข้อมูลซึ่งรวมผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้แล้ว แต่คุณก็อาจต้องการสร้างกลุ่มของตัวเองที่ปรับให้เข้ากับเว็บไซต์และกลุ่มเป้าหมาย บทความนี้มีวิธีการสร้างการดําเนินการและกฎการดําเนินการโดยพิจารณาจากผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือกิจกรรมที่ทำในหน้าเว็บ

ก่อนเริ่มต้น

หากคุณเพิ่งเริ่มใช้การกําหนดเป้าหมาย ให้อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ หากไม่คุ้นเคยกับการใช้โค้ดของเว็บไซต์ ให้ลองทํางานร่วมกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ที่มีพื้นฐานทางเทคนิค

หากตั้งค่าแท็ก Google ให้ติดตามผู้เข้าชมเว็บไซต์ คุณจะเห็นว่าแท็กดังกล่าวประกอบด้วยแท็ก Google และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ ดูวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับเว็บไซต์

 

---

วิธีการ

1. ทําตามขั้นตอนที่ 1-7 ในส่วนวิธีการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่รวมผู้เข้าชมเว็บไซต์
2. ในกล่องโต้ตอบที่เปิดขึ้น ให้เพิ่มการดำเนินการ กฎ และเงื่อนไขทั้งหมดที่จะใช้เป็นเกณฑ์คัดกรองผู้เข้าชม โดยอาจอิงตามการดําเนินการเดียว การดําเนินการหลายรายการ และการดําเนินการที่ยกเว้น
3. ในส่วน "การดําเนินการ" ให้เลือกการการดําเนินจากเมนูแบบเลื่อนลงแล้วป้อนค่าสําหรับ "วัน" ตัวเลือกเริ่มต้นของเมนูแบบเลื่อนลงคือ "การเข้าชมหน้าเว็บ" แต่ก็อาจมีตัวเลือกอื่นๆ โดยขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ในแท็กเว็บไซต์ พารามิเตอร์แท็กต่อไปนี้จะทำให้มีเลือกเพิ่มเติมในเมนูแบบเลื่อนลง "การดําเนินการ"
   • dynx_pagetype
   • ecomm_pagetype
   • edu_pagetype
   • event
   • flight_pagetype
   • hotel_pagetype
   • hrental_pagetype
   • job_pagetype
   • listing_pagetype
   • local_pagetype
   • pagetype
   • travel_pagetype
4. หากต้องการจำกัดการดําเนินการนี้ให้แคบลงอีก ให้คลิกปรับแต่งการดําเนินการ
5. ในเมนู "ปรับแต่งการดําเนินการ" ให้เพิ่มพารามิเตอร์ที่ต้องการ ในเมนูแบบเลื่อนลงอันแรกสำหรับพารามิเตอร์ ให้เลือกพารามิเตอร์ที่ต้องการใช้สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถเลือกตัวเลือกพื้นฐาน เช่น URL หรือตัวเลือกขั้นสูง เช่น URL ที่มา พารามิเตอร์ที่ส่งผ่านข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ หรือแอตทริบิวต์จาก Google Merchant Center (รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกเท่านั้น)
6. ในเมนูแบบเลื่อนลงอันที่สองสําหรับเงื่อนไข ให้เลือกตัวเลือก เช่น "มี" "เท่ากับ" หรือ "ขึ้นต้นด้วย"
7. ป้อนค่าให้กับพารามิเตอร์ เช่น คํา ตัวเลข หรือวันที่ โดยขึ้นอยู่กับประเภทกลุ่มเป้าหมายที่สร้าง
8. คลิกเสร็จสิ้น

กฎการดําเนินการสําหรับหน้าเว็บที่เจาะจง

คุณสร้างกฎการดําเนินการสําหรับผู้ที่ดูหน้าหนึ่งๆ เช่น หน้าแรก หน้า Conversion หรือหน้าที่เจาะจงอื่นๆ ได้

เริ่มด้วยการสร้างการดําเนินการ แล้วเลือก "ปรับแต่งการดําเนินการ" จากนั้นในเครื่องมือสร้างกฎการดําเนินการ ให้เลือก "URL ของหน้าเว็บ" และ "เท่ากับ" จากเมนูแบบเลื่อนลงสำหรับพารามิเตอร์ ป้อน URL แบบเต็มลงในกล่องข้อความโดยคัดลอกตามที่ปรากฏในเว็บเบราว์เซอร์และระบุโปรโตคอล ("http" หรือ "https") ของเว็บไซต์ด้วย หากไม่ทราบโปรโตคอลหรือมีหน้าเว็บที่ใช้โปรโตคอลทั้ง 2 แบบ คุณจะใช้เงื่อนไข "มี" และไม่ระบุโปรโตคอลใน URL ก็ได้

ตัวอย่าง

สายการบินต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลซึ่งเป็นผู้ที่เข้าชมหน้าดีลสำหรับช่วงฤดูใบไม้ผลิ จึงสร้างการดําเนินการด้วยกฎการดําเนินการที่มีพารามิเตอร์ "URL ของหน้าเว็บเท่ากับ https://example.com/flights/spring-deals"

พารามิเตอร์ที่กำหนดเอง

คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้โดยใช้พารามิเตอร์ที่กำหนดเองในแท็กรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิก

ชื่อและค่าของพารามิเตอร์นั้นไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ หากพารามิเตอร์แสดงในเมนูแบบเลื่อนลงมากกว่า 1 ครั้ง ให้เลือกเพียง 1 รายการเท่านั้น ตัวอย่างเช่น "firstname" และ "FirstName" ทำงานเหมือนกัน คุณจึงจำเป็นต้องใช้การสะกดเพียงรูปแบบเดียวในการสร้างพารามิเตอร์

ตัวอย่าง

ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์อาจส่งมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ดูไปยัง Google Ads (พารามิเตอร์ที่กำหนดเองในตัวอย่างนี้คือ "มูลค่า") จากข้อมูลดังกล่าว คุณอาจสร้างกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ที่ดูผลิตภัณฑ์ราคาต่ำกว่า 3,500, 3,500-17,500 และสูงกว่า 17,500 บาท

URL ที่มา

คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าถึงผู้ใช้โดยอิงจาก URL ที่เคยเข้าชมก่อนมาที่เว็บไซต์ของคุณได้โดยเพิ่มการดําเนินการพร้อมกับกฎการดําเนินการที่มีพารามิเตอร์ "URL ที่มาซึ่งมี"

ตัวอย่าง

หากต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจากผลการค้นหาของ Google ให้สร้างการดําเนินการพร้อมกับกฎการดําเนินการ "URL ที่มาซึ่งมี www.google.com"

หากมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ ก. แล้วเข้าชมเว็บไซต์ ข. โดยพิมพ์ URL ของเว็บไซต์ ข. ในแถบที่อยู่ ระบบจะไม่ใช้ URL ของเว็บไซต์ ก. เป็น URL ที่มาของ ข. ผู้ใช้จะต้องคลิกลิงก์หรือปุ่มเพื่อไปที่หน้าเว็บอื่น จึงจะถือว่าเว็บไซต์นั้นเป็น URL ที่มา

การจัดรูปแบบกฎการดําเนินการ

คุณป้อนส่วนสําคัญของ URL แทนการป้อน URL แบบเต็มเพื่อสร้างกฎการดําเนินการได้

หมายเหตุ: เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เนื้อหาที่อยู่หลังแฮชแท็ก (#) ใน URL จะไม่นำมาใช้ในการประเมินกฎของกลุ่มเป้าหมาย

URL ที่สื่อความหมาย

หากเว็บไซต์ของคุณใช้ URL ที่สื่อความหมาย ให้แยกส่วนสำคัญของ URL ออกมาเพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับกฎการดําเนินการ

ตัวอย่าง

สายการบินต้องการสร้างกลุ่มผู้เข้าชมหน้าเที่ยวบินและ URL ย่อยทั้งหมด รวมทั้งผู้เข้าชมหน้าเว็บเกี่ยวกับวอชิงตัน

• "www.example.com/flights"
• "www.example.com/flights/washington"
• "www.example.com/flights/washington/seattle"
• "www.example.com/flights/washington"
• "www.example.com/flights/washington/tacoma"

จึงสร้างเงื่อนไข "URL ของหน้าเว็บมี flights"

URL ที่ไม่สื่อความหมาย

หากเว็บไซต์ใช้ URL ที่ไม่สื่อความหมาย โดยปกติแล้วคุณจะต้องใช้พารามิเตอร์ที่กําหนดเองเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลแทนการใช้ URL แต่ก็มี URL ที่ไม่สื่อความหมายบางรายการที่ใช้สร้างกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น หากคุณใช้รหัสในการระบุหมวดหมู่หรือผลิตภัณฑ์ ก็จะใช้รหัสนั้นสร้างกลุ่มเป้าหมายได้

ตัวอย่าง

สายการบินต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้เข้าชมหน้าเที่ยวบินที่มีรหัส "category_id=23" เช่น "www.example.com/?category_id=23&product_id=456" จึงสร้างการดําเนินการพร้อมกับกฎการดําเนินการ "URL ของหน้าเว็บมี category_id=23"

URL ของหน้าแรก

หาก URL ของหน้าแรกมีโครงสร้างเหมือนกับ "www.example-site.com/index.html" ให้พิมพ์ URL ของหน้าแรกลงในกล่องข้อความ หากเว็บไซต์ไม่ได้ใช้ "index.html" คุณจะต้องใช้กฎการดําเนินการ คุณอาจต้องใช้เงื่อนไข "มี" แทน "เท่ากับ" เมื่อสร้างกฎการดําเนินการ หากคุณใช้ "เท่ากับ" URL ของหน้าเว็บจะต้องตรงกับข้อมูลที่ป้อนทุกประการ และ URL อาจมีหรือไม่มี "www" หรือ "https" ก็ได้

หมายเหตุ: Google Ads ไม่อนุญาตให้ติดตั้งใช้งานแท็กในหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอที่ถูกจำกัดโดยนโยบาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้

การดําเนินการที่มีกฎการดําเนินการหลายข้อ

คุณสามารถสร้างการดําเนินการที่มีกฎการดําเนินการหลายข้อเพื่อช่วยจํากัดหรือขยายขอบเขตกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ เมื่อเพิ่มกฎการดําเนินการหลายข้อลงในการดําเนินการเดียว ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะต้องเป็นไปตามกฎเหล่านั้นทั้งหมด

ตัวอย่าง

สายการบินสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลซึ่งเป็นผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์เพื่อค้นหาเที่ยวบินจากสนามบิน JFK แต่ไม่ใช่ไปยังสนามบิน JFK การดําเนินการนี้มีกฎการดําเนินการ "URL ของหน้าเว็บมี origin=JFK" และ "URL ของหน้าเว็บไม่มี dest=JFK" ซึ่งหมายความว่าระบบจะเพิ่มเฉพาะผู้ที่ค้นหาและเข้าชมหน้าเว็บของเที่ยวบินที่มี JFK เป็นต้นทางแต่ไม่ใช่ปลายทางลงในกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูล

การดําเนินการ "และ" อยู่ด้วยกัน

เมื่อการดําเนินการมีกฎการดําเนินการหลายข้อที่ใช้ร่วมกับ "และ" ผู้เข้าชมจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามพารามิเตอร์ในกฎการดําเนินการทั้งหมด ระบบจึงจะเพิ่มลงในกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่ม "และ" ไว้ระหว่างการดําเนินการหลายรายการอาจทําให้กลุ่มเป้าหมายแคบลง

ตัวอย่าง

กลุ่มเป้าหมายมีกฎการดําเนินการ 2 ข้อที่ใช้ร่วมกับ "และ" ได้แก่ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "category"" และ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "flights"" ระบบจะเพิ่มผู้ที่เข้าชม "http://www.example.com/category/flights" ลงในกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูล แต่จะไม่เพิ่มผู้ที่เข้าชม "http://www.example.com/category/travel-deals" และ "http://flights.example.com" เนื่องจากหน้าเว็บทั้ง 2 นี้ไม่ตรงกับเงื่อนไขทุกข้อ

การดําเนินการ "หรือ" อยู่ด้วยกัน

เมื่อการดําเนินการมีกฎการดําเนินการหลายข้อที่ใช้ร่วมกับ "หรือ" ผู้เข้าชมจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามพารามิเตอร์ในกฎการดําเนินการใดก็ได้ ระบบจึงจะเพิ่มลงในกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่ม "หรือ" ไว้ระหว่างการดําเนินการหลายรายการจะขยายขอบเขตกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ

ตัวอย่าง

กลุ่มเป้าหมายมีกฎการดําเนินการ 2 ข้อ ได้แก่ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "category"" หรือ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "flights"" ระบบจะเพิ่มผู้ที่เข้าชม "http://www.example.com/category/flights" หรือผู้ที่เข้าชม "http://www.example.com/category/travel-deals" ลงในกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูล แต่จะไม่เพิ่มผู้ที่เข้าชม "http://travel-deals.example.com" เนื่องจาก URL ไม่ตรงกับเงื่อนไขใดๆ

การรวมกฎการดําเนินการ "และ" และ "หรือ" เข้าด้วยกัน

เมื่อคุณรวมกฎการดําเนินการทั้ง 2 ประเภทไว้ในกลุ่มเป้าหมาย ระบบจะเพิ่มผู้เข้าชมลงในกลุ่มเป้าหมายเมื่อหน้าเว็บที่เข้าชมตรงกับการดําเนินการ "และ" ทั้งหมดและการดําเนินการ "หรือ" ใดๆ

ตัวอย่าง

สายการบินเพิ่มกฎการดําเนินการ "หรือ" โดยใช้พารามิเตอร์ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "purchase"" นอกจากนี้ยังเพิ่มการดําเนินการที่มีกฎการดําเนินการ "และ" 2 ข้อ นั่นคือ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "category"" และ "การเข้าชมหน้าเว็บในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่ง URL ของหน้าเว็บมี "flights"" ระบบจะเพิ่มผู้ที่เข้าชมทั้งหน้าที่มี "category" และหน้าที่มี "flights" หรือหน้าใดก็ตามที่มี "purchase" ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาลงในกลุ่มเป้าหมาย

---

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

• วิธีการทํางานของกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ
• สร้างกลุ่มเป้าหมายที่รวมผู้เข้าชมเว็บไซต์
• ใช้เทมเพลตสําหรับกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ