คู่มือนี้มีไว้สำหรับใคร
คู่มือนี้เหมาะสำหรับผู้ลงโฆษณาร้านค้าปลีกระดับต้นและระดับกลางที่ได้สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรีใน Google Merchant Center และลิงก์บัญชีกับ Google Ads แล้ว หากยังคงต้องอัปโหลดผลิตภัณฑ์ไปยัง Merchant Center ให้ดูคําแนะนําเพิ่มเติมที่นี่
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดและเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคส่งผลให้ผู้คนมีความต้องการและทางเลือกที่คาดเดาได้ยากขึ้นมาก ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนในการดึงดูดให้มีส่วนร่วมมากขึ้นตามไปด้วย ในคู่มือนี้ คุณจะได้ทราบวิธีทําให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นและรวมความเชี่ยวชาญทางการตลาดเข้ากับโซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google เพื่อกระตุ้นการเติบโตที่ให้ผลกําไรและก้าวทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความรู้เกี่ยวกับลูกค้าและธุรกิจเป็นปัจจัยสําคัญในการช่วยให้ AI ของ Google ประสบความสําเร็จและทำให้ธุรกิจมีความแตกต่างจากคู่แข่ง |
Retail Announcement: tl;dr Ads News & How Tos series
|
1. ปรับปรุงฟีดผลิตภัณฑ์เพื่อให้โฆษณา Shopping โดดเด่น |
||
เหตุผล: รูปภาพผลิตภัณฑ์ระยะใกล้ที่มีพื้นหลังสีขาวทำให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น หมายเหตุในสหรัฐอเมริกา คุณอัปเดตชิ้นงานใน Manufacturer Center ให้รวมรูปภาพ 3 มิติได้ หากมี คุณใช้แอตทริบิวต์นี้สําหรับรองเท้า แว่นตา และของใช้ในบ้านได้ ข้อมูลภายในพบว่าผู้คนมีส่วนร่วมกับรูปภาพ 3 มิติมากกว่าภาพนิ่งเกือบ 50%1
เหตุผล: ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ราคาและความพร้อมจําหน่ายสินค้า คือองค์ประกอบสําคัญที่ช่วยให้โฆษณาแสดงข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ อัปโหลดคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่ครบทุกด้าน รวมถึงอัปเดตราคาผลิตภัณฑ์และความพร้อมจําหน่ายหากมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง เคล็ดลับการมีผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 10 รายการจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญ Merchant Center และ Google Ads แสดงตัวเลือกการดําเนินการตามคําสั่งซื้อและดีลเหตุผล: ผู้เลือกซื้อมองหาดีลที่ยอดเยี่ยม เวลานำส่งที่รวดเร็ว และการคืนสินค้าที่ง่ายกันมากขึ้น ผู้เลือกซื้อที่ตอบแบบสํารวจกล่าวว่าคุณภาพของสินค้า (46%) และดีล/โปรโมชัน (45%) คือสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดที่แบรนด์สามารถสื่อสารได้เมื่อพิจารณาสินค้าที่จะซื้อ2 ให้ใช้คําอธิบายประกอบที่สะดุดตาผู้เลือกซื้อเมื่อพวกเขามองหาวิธีที่สะดวกสบายในการซื้อสินค้า
เคล็ดลับ
เปิดใช้โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านเพื่อเชื่อมต่อกับผู้เลือกซื้อที่ร้านค้าเหตุผล: ผู้บริโภค 50% ในตลาดที่สํารวจกล่าวว่าพวกเขาตรวจสอบสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ก่อนไปที่ร้านค้า3 โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านทําให้ผู้เลือกซื้อในพื้นที่ทราบว่าร้านค้าของคุณมีผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการในทันทีที่ค้นหาบน Google
หมายเหตุ: ในประเทศที่มีโปรแกรมบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) คุณจะใช้งานโฆษณา Shopping ผ่าน CSS ที่เลือกอย่างน้อย 1 บริการ บาง CSS จะจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์และแคมเปญในนามของคุณ แต่บาง CSS ก็จะจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้คุณจัดการการตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฆษณาด้วยบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า |
|||
2. เข้าถึงลูกค้าของคุณไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด |
|||
รับทราบดีมานด์ในการช็อปปิ้งบน Search ด้วยการรวมการทํางานแบบกว้างเข้ากับ Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทเหตุผล: วิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นคือการปรับแต่ง AI ของ Google ให้กับธุรกิจของคุณ การใช้ 3 อย่างนี้ร่วมกันจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่ใช่ด้วยข้อความที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะเจาะ ไม่ว่าลูกค้าจะค้นหาด้วยวิธีใดก็ตาม
เคล็ดลับส่งเสริมแคมเปญ Search ด้วยภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจโดยใช้ชิ้นงานรูปภาพ ภาพผลิตภัณฑ์หรือบริการที่น่าสนใจซึ่งช่วยส่งเสริมข้อความของโฆษณา Search ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ กรณีศึกษาTails.com เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจแบบคิดค่าสมาชิก ซึ่งขายอาหารสุนัขตามสั่ง การใช้ทั้งการทํางานแบบกว้าง, Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทร่วมกันทําให้บริษัทได้ผู้ลงชื่อสมัครสมาชิกในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 182% จากแคมเปญ Search ทั่วไป ในขณะที่เพิ่มการคลิกได้ 258% ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสมใน Search ใช้แคมเปญ Performance Max ร่วมกับแคมเปญ Search เพื่อกระตุ้นยอดขายออนไลน์เหตุผล: แคมเปญ Search ที่ทำงานด้วยระบบ AI และแคมเปญ Performance Max คือการจับคู่โฆษณาที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยคุณค้นหาลูกค้าที่มีมูลค่ามากขึ้นและเพิ่มจํานวน Conversion ในช่องทางโฆษณาต่างๆ ของ Google ได้ Performance Max ช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ Google ไม่ว่าจะเป็น Search, YouTube, Display, Discover, Gmail และ Maps ได้ในแคมเปญเดียว การศึกษาพบว่าผู้ลงโฆษณาที่เปลี่ยนจากแคมเปญ Shopping มาตรฐานไปใช้ Performance Max ได้รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้น 25% โดยเฉลี่ยโดยมี ROAS ใกล้เคียงกับของเดิม4
หมายเหตุหากธุรกิจเพิ่ม Conversion ประเภทใหม่หรือมูลค่า Conversion มีการเปลี่ยนแปลง อย่าลืมอัปเดตข้อมูลนี้เพื่อให้การเสนอราคาสำหรับหลายช่องทางยังคงค้นหา Conversion ที่จะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง เมื่อคุณเปลี่ยน Conversion แล้ว การดำเนินการนี้อาจเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาหรือตั้งค่าแคมเปญเป็นโหมดการเรียนรู้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
เคล็ดลับใช้โหมดเพิ่มมูลค่าลูกค้าใหม่เพื่อให้คุณเสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่โดยไม่ยกเว้นลูกค้าเดิมได้
เคล็ดลับประเมินคุณภาพของชิ้นงานและระบุโอกาสใหม่ๆ ในการปรับปรุงด้วยคุณภาพของโฆษณา อย่างไรก็ตาม อย่านําชิ้นงานใดๆ ออกจนกว่าจะถึงขีดจำกัดการอัปโหลดสูงสุด เนื่องจากชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพต่ำจะไม่แสดงบ่อยเท่าที่ควรอยู่แล้ว และอาจยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในการประมูลและบริบทบางอย่าง
เคล็ดลับใส่ชิ้นงานวิดีโอที่ยาวอย่างน้อย 10 วินาทีเพื่อแสดงการทํางานจริงของธุรกิจ หากไม่มีวิดีโอ Performance Max จะสร้างวิดีโอคุณภาพสูงให้โดยอัตโนมัติโดยใช้ชิ้นงานอื่นๆ ของคุณ ข้อมูลภายในเผยว่าผู้ลงโฆษณาที่มีการรวมวิดีโออย่างน้อย 1 รายการของการวางแนวแต่ละรูปแบบ (แนวนอน แนวตั้ง และสี่เหลี่ยมจัตุรัส) ให้กับแคมเปญ Performance Max ได้รับ Conversion ใน YouTube เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับวิดีโอในแนวนอนเพียงอย่างเดียว6
กรณีศึกษาBombas เป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าออนไลน์ที่เน้นผลิตถุงเท้า ชุดชั้นใน และเสื้อยืดที่สวมใส่สบายที่สุด หลังจากที่ประสบความสําเร็จด้วยการใช้แคมเปญ Smart Shopping บริษัทตัดสินใจทดลองนำผลิตภัณฑ์หลักหลากหลายหมวดหมู่มาใช้แคมเปญ Performance Max ส่งผลให้ Bombas มีอัตรา Conversion เพิ่มขึ้น 33%, ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาสูงขึ้น 22% และต้นทุนต่อการกระทำหนึ่งครั้งดีขึ้น 19% หมายเหตุ: แคมเปญ Performance Max ในประเทศที่อยู่ในโปรแกรม CSS สามารถใช้กับบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) ใดก็ได้ที่คุณใช้งานอยู่ โฆษณาจะแสดงในหน้าผลการค้นหาทั่วไปและในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ CSS เลือกใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Performance Max กระตุ้นความภักดีของลูกค้าและประสิทธิภาพทางธุรกิจผ่านแอปของคุณด้วย Web to App Connect และ App Campaign
เหตุผล: Web to App Connect ช่วยคุณสร้างการทํา Deep Link, การวัด Conversion ในแอป และการเสนอราคาเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ สําหรับลูกค้าที่ติดตั้งแอปของคุณแล้ว Web to App Connect จะนําพวกเขาจากแคมเปญบนเว็บไปยังหน้าในแอปที่เกี่ยวข้องซึ่งลูกค้าจะดําเนินการตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
เหตุผล: App Campaign ใช้ประโยชน์จาก AI ของ Google อย่างเต็มศักยภาพเพื่อโปรโมตแอปในผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมที่สุดของ Google ทั้งหมดจากแคมเปญเดียว ตั้งค่าแคมเปญตามเป้าหมายธุรกิจ เช่น การเพิ่มจํานวนการติดตั้งแอปหรือการดึงดูดลูกค้าเดิมให้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเผยแพร่แอปต่อผู้ใช้ต่างประเภทกันได้ เมื่อลำดับความสำคัญทางธุรกิจของแอปเปลี่ยนแปลง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีกระตุ้นความภักดีของลูกค้าด้วยแอป จับดีมานด์ทางออฟไลน์โดยใช้แคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (Omnichannel) และแคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้าเหตุผล: เมื่อเพิ่มเป้าหมายของร้านค้าและ/หรือการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง แคมเปญ Performance Max จะช่วยคุณโปรโมตสถานที่ตั้งจริงใน Google และเพิ่มมูลค่าที่ร้านค้าให้สูงสุด (โดยใช้การเข้าชมร้านค้าหรือยอดขาย และ/หรือการกระทําเกี่ยวกับสถานที่)
หมายเหตุ: แคมเปญ Performance Max ในประเทศที่อยู่ในโปรแกรม CSS สามารถใช้กับบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) ใดก็ได้ที่คุณใช้งานอยู่ โฆษณาจะแสดงในหน้าผลการค้นหาทั่วไปและในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ CSS เลือกใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับลูกค้าในท้องถิ่นและลูกค้าจากทุกช่องทาง |
|||
3. ปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น |
|||
เหตุผล: เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพช่วยให้คุณสร้างแผนในการใช้ค่าโฆษณา และประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงในแคมเปญอาจส่งผลต่อเมตริกหลักและประสิทธิภาพโดยรวมอย่างไรบ้าง
เหตุผล: หน้าข้อมูลเชิงลึกใน Google Ads มีเทรนด์ที่ทันสมัยและข้อมูลเชิงลึกที่มองถึงอนาคต ซึ่งช่วยให้คุณเห็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็แสดงเทรนด์ที่เกี่ยวข้องในตลาดด้วย เมื่อดูหน้าข้อมูลเชิงลึกเป็นประจำ คุณจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าความสนใจและความชอบของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
เหตุผล: คําแนะนําช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการเสนอโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพที่ได้ผลมากที่สุดโดยพิจารณาจากประวัติประสิทธิภาพของบัญชี การตั้งค่าแคมเปญ เทรนด์ใน Google และอื่นๆ ดูคําแนะนําเป็นประจําเพื่อระบุโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และใช้คําแนะนําที่สนับสนุนเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ
เหตุผล: คําแนะนําแต่ละรายการแสดงให้เห็นว่าคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งเป็นค่าประมาณเกี่ยวกับความพร้อมในการทำงานที่ดีของบัญชี Google Ads จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดเมื่อคุณนำเอาคำแนะนำไปใช้ ใช้คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อจัดลําดับความสําคัญของคําแนะนําที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพมากที่สุด คะแนนและคําแนะนําจะเปลี่ยนแปลงไปตามธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ดังนั้นคะแนนดังกล่าวจะสะท้อนคําแนะนําใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นโดยอิงตามดีมานด์ที่เปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงของตลาด
เหตุผล: คอลัมน์ปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในแท็บผลิตภัณฑ์ใน Google Ads ช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในแคมเปญ และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึง จากนั้นคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อมองหาข้อเสนอประสิทธิภาพต่ำ ระบุผลิตภัณฑ์ที่แอตทริบิวต์ฟีดขาดหายไป และดูความสามารถในการแข่งขันของราคาเสนอของผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
เหตุผล: ตัดสินใจเกี่ยวกับสินค้าคงคลังและจัดลําดับความสําคัญของผลิตภัณฑ์ที่จะแสดงในแคมเปญการโฆษณาด้วยรายงานสินค้าขายดี ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาและการเสนอราคาสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ใช้ Reporting API เพื่อนําเข้าและวิเคราะห์ข้อมูลจากรายงานเหล่านี้และรายงาน Merchant Center อื่นๆ ในวงกว้าง |
หมายเหตุ
โปรดดูคู่มือสำหรับธุรกิจค้าปลีกของ Google ทั่วโลกปี 2023 (2023 Global Google Retail Guide) เพื่อดูเครื่องมือที่มีประโยชน์ คําแนะนําเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการตลาดได้
โปรดเข้ามาที่ Google Ads Academy: Grow Profitable Online Sales เพื่อรับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นให้มียอดขายออนไลน์ที่สม่ำเสมอแม้พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไป
1. ข้อมูลภายในของ Google
2. การศึกษาผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของ Ipsos ที่ว่าจ้างโดย Google, AU, BR, CA, CN, FR, DE, IN, IT, JP, KR, MX, ES, ZA, UK, U.S., ผู้บริโภคออนไลน์อายุ 18 ปีขึ้นไปจํานวนประมาณ 500–1,000 คนต่อตลาด, วันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2022
3. การศึกษาผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของ Ipsos ที่ว่าจ้างโดย Google, AU, BR, CA, CN, FR, DE, IN, IT, JP, KR, MX, ZA, ES, UK, U.S., ผู้บริโภคออนไลน์อายุ 18 ปีขึ้นไปจํานวนประมาณ 500–1,000 คนต่อตลาด, วันที่ 10 - 13 พ.ย. 2022
4. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, Ads, ตุลาคม 2022 - มีนาคม 2023
5. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, พฤศจิกายน 2022
6. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, พฤศจิกายน 2022
หากต้องการรับเคล็ดลับขั้นสูงและข้อมูลอัปเดตจาก Google Ads ส่งตรงถึงกล่องจดหมายของคุณ สมัครรับจดหมายข่าวแนวทางปฏิบัติแนะนำ |