ประเมินประสิทธิภาพโฆษณาในเครือข่าย Display

Graph

คุณดูสถิติโดยละเอียดได้ในหน้าโฆษณาและชิ้นงาน รวมถึงหน้าตำแหน่งโฆษณา เพื่อช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของโฆษณา Display 

ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบวิธีทำสิ่งต่างๆ ดังนี้

  • ดูตำแหน่งที่โฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์แสดง
  • วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่แคมเปญเข้าถึงโดยใช้การแสดงผล จำนวนคลิก และ Conversion
  • ดูว่ากลุ่มเป้าหมายและตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายใดบ้างที่ใช้ได้ผล

เคล็ดลับ

พยายามใช้เวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละชั่วโมงเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์

ข้อมูลเชิงลึกเบื้องต้น

 

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

 

ยืนยันว่าโฆษณาแสดงอยู่

ตรวจสอบว่าโฆษณาแสดงอยู่หรือหยุดชั่วคราวในหน้าโฆษณาและชิ้นงาน

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกโฆษณา
  4. จากแถบมุมมองที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
  
หมายเหตุ: หากต้องการใช้แผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกเปลี่ยนมุมมองที่ด้านซ้ายบนของบัญชี Google Ads
  1. คอลัมน์ "สถานะ" จะบอกว่าโฆษณาแสดงอยู่หรือไม่ หากโฆษณาไม่แสดง คุณจะเห็นสาเหตุและสิ่งที่ทำได้เพื่อแก้ไขปัญหา
ดูรายการเว็บไซต์ที่โฆษณาปรากฏ

ดูว่าเว็บไซต์ วิดีโอ และแอปใดที่เคยแสดงโฆษณาของคุณโดยใช้หน้า "เวลาและตําแหน่งที่แสดงโฆษณา"

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงข้อมูลเชิงลึกและรายงานในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกเวลาและตำแหน่งที่แสดงโฆษณา

คุณจะเห็นตำแหน่งทั้งหมดซึ่งรวมถึงวิธีการกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติ เช่น คีย์เวิร์ด หัวข้อ รีมาร์เก็ตติ้ง และกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้จะเห็นตำแหน่งที่กำหนดเองที่ได้เลือกไว้ด้วย  

สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้

  • ตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพดีและตำแหน่งที่โฆษณาของคุณน่าจะได้แสดงบ่อยขึ้นถ้าเพิ่มราคาเสนอ
  • ตำแหน่งประสิทธิภาพต่ำที่ควรยกเว้น โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ ของคุณ บางครั้งสาเหตุที่โฆษณาแสดงในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอาจไม่ชัดเจนแต่แรก แต่ประสิทธิภาพเชิงเปรียบเทียบจะเป็นเกณฑ์วัดที่ดีว่าควรยกเว้นตำแหน่งใดๆ หรือไม่

หมายเหตุ: URL บางรายการที่คุณเห็นอาจไม่สมบูรณ์ อาจเป็นได้ว่า URL นั้นยาวเกินไปหรือมีข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับบุคคลที่ดูตำแหน่งนั้น เช่น ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่าน หากเกิดกรณีนี้ URL จะถูกตัดให้สั้นลงโดยใช้เครื่องหมายวงเล็บ และอาจมีบางส่วนถูกตัดออกไป ทำให้ระบบนำไปยังหน้าเว็บอื่นซึ่งไม่ใช่หน้าเว็บที่โฆษณาของคุณแสดงอยู่

ตัวอย่าง

บริษัทที่ทำธุรกิจกิจกรรมกลางแจ้งแห่งหนึ่งมีแคมเปญปีนเขาที่กระบี่ พวกเขาใช้ตำแหน่งที่จัดการและต้องการจะค้นหาเว็บไซต์เพิ่มเติมเพื่อกำหนดเป้าหมาย โดยการวิเคราะห์การแสดงผลและ Conversion ซึ่งเป็นเมตริกที่มีอยู่ในหน้าตำแหน่ง

ตำแหน่ง ประเภท แคมเปญ การแสดงผล Conversion
half-dome-hikes.com เว็บไซต์ ปีนเขาที่กระบี่ 1,500 20
adventure-hikes.com เว็บไซต์ ปีนเขาที่กระบี่ 1,500 25
krabi-power-drinks.com เว็บไซต์ ปีนเขาที่กระบี่ 3,000 2
hikes-for-kids.com เว็บไซต์ ปีนเขาที่กระบี่ 2,000 0

ในหน้าตำแหน่งที่แสดงโฆษณา แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ half-dome-hikes.com มีประสิทธิภาพดี ดังนั้น ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าจึงเพิ่มตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่กำหนดเองลงในแคมเปญ ในขณะที่ตำแหน่งอัตโนมัติ yosemite-power-drinks.com และ hikes-for-kids.com มีประสิทธิภาพต่ำ นอกจากนี้ ตำแหน่งเหล่านี้ยังมุ่งไปที่ผู้คนนอกกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย ดังนั้น ผู้จัดการบัญชีจึงยกเว้นตำแหน่งทั้งสอง

ดูว่าโฆษณาได้รับการแสดงผลและคลิกหรือไม่

ดูว่าโฆษณาได้รับการแสดงผล จำนวนคลิก และอื่นๆ หรือไม่จากหน้าโฆษณาและชิ้นงาน

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกโฆษณา
  4. จากแถบมุมมองที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display 
หมายเหตุ: หากต้องการใช้แผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกเปลี่ยนมุมมองที่ด้านซ้ายบนของบัญชี Google Ads

สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้

  • โฆษณาต่างๆ แตกต่างกันอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบในแง่ประสิทธิภาพ
  • โฆษณารูปแบบใด (รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ) มีประสิทธิภาพดีกว่า

ตัวอย่าง

แคมเปญปีนเขาที่กระบี่นี้มีโฆษณา 2 รายการ

โฆษณา แคมเปญ จำนวนคลิก Conversion
Half dome ad
ฮาล์ฟโดม
ปีนเขาที่กระบี่ 150 20
Hiker ad
นักปีนเขา
ปีนเขาที่กระบี่ 150 5

โฆษณาฮาล์ฟโดมได้รับ Conversion มากกว่าโฆษณานักปีนเขา ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าจึงตัดสินใจที่จะนำโฆษณานักปีนเขาออกจากแคมเปญนี้

ค้นหาการกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่ให้ผลดีกว่า
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในเมนู "ส่วน"
  3. จากแถบพื้นที่ทํางานที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
    หมายเหตุ: หากต้องการใช้แผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกเปลี่ยนมุมมองที่ด้านซ้ายบนของบัญชี Google Ads
  4. เลือกแคมเปญ
  •  คลิกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search เพื่อดูประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ด
  • คลิกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดูกลุ่มเป้าหมายและประสิทธิภาพตามข้อมูลประชากร
  • คลิกเนื้อหาสําหรับหัวข้อและ/หรือตำแหน่งโฆษณา
  •  

สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้

  • ลบวิธีการกำหนดเป้าหมายที่ด้อยประสิทธิภาพออก หรือวิธีการที่จำกัดกลุ่มผู้ชมของคุณมากเกินไป
  • ระบุวิธีการกำหนดเป้าหมายที่ทำให้โฆษณาของคุณอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดและอยู่เบื้องหน้ากลุ่มผู้ชมที่คุณต้องการ

ตัวอย่าง

ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าใช้หัวข้อกว้างๆ อย่างการปีนเขาและการตั้งแคมป์ เพื่อกำหนดโฆษณาเป้าหมายสำหรับแคมเปญปีนเขาที่กระบี่ แต่ตำแหน่งที่โฆษณาเหล่านี้ปรากฏตามการกำหนดหัวข้อเป้าหมายกลับไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างที่ต้องการ ผู้จัดการจึงตัดสินใจใช้หน้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าถึงลูกค้าบางกลุ่ม จากหน้ากลุ่มเป้าหมาย ผู้จัดการเลือกการกำหนดเป้าหมาย และใช้กลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มความสนใจกับ "ผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง" และ "ผู้แสวงหาความตื่นเต้น"

เคล็ดลับ 

หากต้องการดูประสิทธิภาพของการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ให้คลิกกลุ่มเป้าหมายในเมนูหน้าเว็บและเลื่อนลงไปที่ด้านล่างของตารางประสิทธิภาพ คุณก็จะเห็นเมตริกตามการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และวิธีเพิ่มการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มโฆษณา

ค้นหาว่ากลุ่มประชากรใดที่เห็นโฆษณาของคุณ

ดูกลุ่มที่คุณกำลังเข้าถึงได้จากหน้าข้อมูลประชากร คุณจะเห็นข้อมูลทางสถิติเหล่านี้แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากร

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกกลุ่มเป้าหมาย
  4. จากแถบมุมมองที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
    หมายเหตุ: หากต้องการใช้แผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกเปลี่ยนมุมมองที่ด้านซ้ายบนของบัญชี Google Ads
  5. เลือกแคมเปญ แล้วคลิกแท็บอายุ เพศ รายได้ครัวเรือน หรือสถานะความเป็นบิดามารดาเพื่อเข้าถึงสถิติประสิทธิภาพ
  6. หากต้องการเข้าถึงการยกเว้น ให้คลิกเนื้อหาในเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในเมนู "ส่วน" แล้วเลือกแท็บการยกเว้นหัวข้อ

สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้

  • กลุ่มประชากรที่มี Conversion สูง
  • กลุ่มประชากรที่มีต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) ต่ำ
  • กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มที่คุณต้องการเข้าถึงด้วยครีเอทีฟโฆษณาและวิธีการกำหนดเป้าหมาย

ตัวอย่าง

แคมเปญปีนเขาที่กระบี่นี้จะโฆษณาการเดินทางท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ

อายุ แคมเปญ อัตราการคลิกผ่าน
18-24 ปีนเขาที่กระบี่ 0.26%
25-34 ปีนเขาที่กระบี่ 0.20%
35-44 ปีนเขาที่กระบี่ 0.16%
45-54 ปีนเขาที่กระบี่ 0.16%
55-64 ปีนเขาที่กระบี่ 0.14%
ไม่ทราบ ปีนเขาที่กระบี่ 0.15%

ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าสังเกตเห็นอัตราการคลิกผ่านที่สูงขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุ 18-24 ปี การที่ผู้คนในกลุ่มอายุนี้มีแนวโน้มที่จะคลิกโฆษณาในแคมเปญนี้บ่อยกว่าผู้คนในกลุ่มอายุอื่น ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเข้าไปที่โฆษณานั้นอีกครั้ง และกำหนดเป้าหมายเพื่อให้โฆษณานี้ดึงดูดใจกลุ่มอายุอื่น

หมายเหตุ

หากคุณยกเว้นผู้คนในหมวดหมู่ที่ "ไม่รู้จัก" อาจเป็นการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายบางส่วนออกไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเข้าถึงผู้คนตามอายุและเพศที่เฉพาะเจาะจง

ข้อมูลและแผนภูมิประสิทธิภาพที่กำหนดเอง 

เมื่อคลิกแคมเปญ Campaigns Icon จากนั้นคลิกข้อมูลเชิงลึกและรายงาน คุณจะเห็นวิธีใหม่ๆ ในการดูและวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพโฆษณา 

เครื่องมือการรายงานมี 3 อย่างหลักๆ ดังนี้

รายงานช่วยในการสร้างแผนภูมิหรือตารางแบบต่างๆ สำหรับดูข้อมูลประสิทธิภาพ คุณรวมเมตริกที่กำหนดเองหลายสิบรายการเข้าด้วยกันเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ได้ เช่น การแสดงผล การกำหนดเป้าหมาย และ Conversion และยังบันทึกรายงานเหล่านี้ไว้ใช้อ้างอิงในอนาคตได้ด้วย 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือการรายงาน

รายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เดิมเรียกว่ามิติข้อมูล) ช่วยให้เห็นข้อมูลประสิทธิภาพพื้นฐานจากชุดเมตริกที่เลือกซึ่งปรับแต่งเพิ่มเติมได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

แดชบอร์ดออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์มากที่สุดได้ในที่เดียว คุณสามารถลากและวางแผนภูมิที่บันทึกไว้และตารางที่สร้างโดยใช้รายงานให้เป็นแผงต่างๆ ในหน้าแดชบอร์ด รวมถึงสร้างแผนภูมิใหม่ สร้างตารางสรุปสถิติเพื่อดูข้อมูลประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และเพิ่มโน้ตได้ด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าแดชบอร์ด

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
5020664976764213281
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false