หากใช้ Google ไดรฟ์สำหรับที่ทํางานหรือสถานศึกษา Google จะประเมินไฟล์ที่แชร์กับคุณจากนอกองค์กรเพื่อหาฟิชชิงหรือมัลแวร์โดยอัตโนมัติ หากตรวจพบ Google ก็จะบล็อกการเข้าถึงไฟล์ดังกล่าวเพื่อปกป้องคุณ เมื่อ Google ระบุว่าไฟล์น่าจะเป็นจดหมายขยะ ระบบจะบล็อกไฟล์หรือเปลี่ยนเส้นทางไปยังมุมมองสแปม ดูวิธีทำเครื่องหมายหรือยกเลิกการทำเครื่องหมายว่าเป็นจดหมายขยะในไดรฟ์
หาก Google ตรวจพบว่ามีผู้ใช้ไดรฟ์ที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ก็จะขอสงวนสิทธิ์ในการระงับผู้ใช้รายดังกล่าวทันที Google ใช้ reCAPTCHA เพื่อช่วยป้องกันกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและการละเมิดภายใน Google ไดรฟ์ หากปัญหาเกิดขึ้นทั่วองค์กร Google ขอสงวนสิทธิ์ในการระงับทั้งบัญชีขององค์กร และจะปฏิเสธไม่ให้ผู้ดูแลระบบเข้าถึงบริการทั้งหมดของ Google Workspace ในกรณีดังกล่าว Google จะส่งการแจ้งเตือนไปยังอีเมลสํารองที่ลงทะเบียนไว้ของผู้ดูแลระบบหลัก
เคล็ดลับ:
- เมื่อ Google ไดรฟ์สแกนไฟล์เพื่อหาฟิชชิงหรือมัลแวร์ คุณอาจได้รับข้อความแจ้งว่าสแกนไม่สำเร็จ หากได้รับข้อความนี้ โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อเปิดไฟล์
- ไฟล์ที่จะสแกนต้องมีขนาดไม่เกิน 100 MB และระบบอาจสแกนไฟล์บางประเภทไม่ได้
เมื่อคุณอัปโหลดไฟล์ไปยัง Google ไดรฟ์ ไฟล์เหล่านั้นจะเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย
- หากคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตของคุณเสียหรือสูญหาย คุณยังคงสามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้โดยใช้อุปกรณ์อื่นๆ
- ไฟล์ของคุณจะเป็นแบบส่วนตัวจนกว่าคุณจะแชร์
หากต้องการรับรองว่าไฟล์ใน Google ไดรฟ์ของคุณจะเป็นส่วนตัว ให้ทำดังนี้
- หากคุณใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตร่วมกับผู้อื่น ให้ออกจากระบบบัญชี Google เมื่อคุณใช้งานเสร็จแล้ว
- เราขอแนะนำไม่ให้คุณติดตั้ง Google ไดรฟ์ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตสาธารณะหรือที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้
- เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของบัญชี Google
ไฟล์ของคุณจะเป็นแบบส่วนตัวจนกว่าคุณเลือกที่จะแชร์ไฟล์นั้น โดยคุณสามารถแชร์ไฟล์กับ
- ผู้ใช้ 1 คนหรือไม่กี่คนโดยใช้ลิงก์
- ทุกคนโดยทำให้ไฟล์เป็นสาธารณะ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานออนไลน์อย่างปลอดภัย
หมายเหตุ: คุณไม่สามารถตั้งรหัสผ่านสำหรับแอป Google ไดรฟ์ แต่สามารถตั้งรหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์ของคุณได้