คุณจะทำการคำนวณได้หลายประเภทโดยใช้ฟังก์ชันสร้างสูตรใน Google ชีต
Add formulas and functions to a spreadsheet
หากต้องการดูสเปรดชีตตัวอย่างและทำตามขั้นตอนต่างๆ ไปพร้อมกับวิดีโอ ให้คลิก "ทําสําเนา" ด้านล่าง
ใช้สูตร
- เปิดสเปรดชีต
- พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) ลงในเซลล์แล้วพิมพ์ฟังก์ชันที่ต้องการใช้
หมายเหตุ: คุณอาจเห็นสูตรและช่วงที่แนะนำตามข้อมูลของคุณ
กล่องช่วยเหลือของฟังก์ชันจะปรากฏให้เห็นตลอดขั้นตอนการแก้ไข เพื่ออธิบายคำจำกัดความของฟังก์ชันและรูปแบบคำสั่ง รวมทั้งแสดงตัวอย่างประกอบ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้คลิกลิงก์ "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" ที่ด้านล่างของกล่องช่วยเหลือเพื่อเปิดบทความฉบับเต็ม
เคล็ดลับ: คุณอาจได้รับการแนะนําฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องในระหว่างที่ป้อนสูตร คุณจะเลือกยอมรับหรือปฏิเสธการแนะนําเหล่านี้ก็ได้
หากต้องการเปิดหรือปิดคำแนะนําสูตร ให้คลิกเครื่องมือที่ด้านบน ตัวควบคุมคำแนะนำ เปิดใช้คำแนะนำสูตร
คุณอาจพบคำแนะนำการแก้ไขในข้อมูลและการวิเคราะห์ที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในข้อมูลเชิงลึก คุณจะเลือกยอมรับหรือปฏิเสธการแนะนําเหล่านี้ก็ได้
หากต้องการเปิดหรือปิดการแก้ไขสูตร ให้คลิกเครื่องมือที่ด้านบน ตัวควบคุมคำแนะนำ เปิดใช้การแก้ไขสูตร
ฟีเจอร์เพิ่มเติมในการสร้างสูตร
โหมดการเลือกช่วง
- ขณะแก้ไขสูตร สัญญาณการเลือกช่วง (วงเล็บเหลี่ยมสีเทา) จะปรากฏข้างเคอร์เซอร์ซึ่งคุณอาจต้องใส่ช่วงในสูตร เมื่อเห็นสัญญาณนี้ คุณจะเลื่อนลูกศรบนแป้นพิมพ์ไปรอบๆ แผ่นงานเพื่อเลือกช่วงได้
- สลับเปิดปิดโหมดนี้โดยใช้แป้นพิมพ์ลัด F2 หรือ Ctrl + e ถ้าปิดโหมดการเลือกช่วงไว้ ปุ่มลูกศรจะใช้เพื่อย้ายเคอร์เซอร์ภายในช่องป้อนข้อมูลแทนการเลือกช่วง
- นอกจากนี้ขณะแก้ไขสูตร คุณจะคลิกภายในชีตเพื่อเลือกช่วงได้
การแทนที่ช่วง
- หากมีช่วงข้อความไฮไลต์อยู่ในสูตร ให้ใช้ F2 หรือ Ctrl + e เพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกช่วงและปรับช่วงได้ง่าย
- หากกด Shift + F2 หรือ Shift + Ctrl + e ขณะแก้ไขข้อความของช่วง คุณจะปรับรายการทั้งหมดของช่วงในสูตรได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถเลือกช่วงที่ไม่ติดกันสำหรับสูตรได้ด้วย หากต้องการเลือกหลายเซลล์ ให้คลิก Ctrl บนแป้นพิมพ์ค้างไว้ (Cmd บน Mac) ขณะเลือกเซลล์ที่ต้องการใส่ในสูตร
การแก้ไขสูตร
หากเห็นข้อผิดพลาดหลังจากใช้สูตรกับช่วง ช่อง "การแก้ไขสูตร" อาจปรากฏพร้อมการแก้ไขที่แนะนํา
หากต้องการยอมรับหรือปฏิเสธคําแนะนํา คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- คลิกยอมรับ หรือปิด
- กด Crtl + Enter หรือ Cmd + Return (ใน Mac)
วิธีเปิดหรือปิดการแก้ไขสูตร
- ที่ด้านซ้ายบน ให้คลิกเครื่องมือ เติมข้อความอัตโนมัติ
- คลิกเปิดใช้การแก้ไขสูตร
ฟังก์ชันที่ใช้ร่วมกับอีกฟังก์ชันหนึ่งในเซลล์เดียวกันมีชื่อเรียกว่าฟังก์ชันซ้อน เมื่อรวมฟังก์ชันเข้าด้วยกัน Google ชีตจะคำนวณฟังก์ชันที่อยู่ด้านในสุดก่อน ฟังก์ชันซ้อนจะอยู่ในวงเล็บและใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของฟังก์ชันที่ล้อมอยู่
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการคำนวณหาค่าสัมบูรณ์ของผลรวมตัวเลขหลายๆ ตัวในช่วงเซลล์ A1:A7 คุณจะต้องใส่ "=SUM(A1:A7)" ลงในเซลล์เพื่อคำนวณหาผลรวมของตัวเลขเหล่านั้น
หากต้องการคำนวณหาค่าสัมบูรณ์ของผลรวมนี้ คุณต้องซ้อนสูตรการบวกภายในสูตรค่าสัมบูรณ์ โดยกรอก "=ABS(SUM(A1:A7))" ลงในเซลล์เพื่อคำนวณสูตรทั้งสองในเซลล์เดียว โปรดทราบว่าระบบจะคำนวณฟังก์ชัน =SUM() ก่อนและใช้เป็นองค์ประกอบของฟังก์ชัน =ABS() ทีหลัง
เมื่อคุณอ้างอิงเซลล์อื่นในสูตร เซลล์เหล่านั้นจะถูกไฮไลต์ด้วยสีตัดกันเพื่อให้สร้างสูตรได้ง่ายขึ้น เมื่อคลิกเซลล์ที่มีสูตรครบถ้วน คุณจะเห็นเซลล์เหล่านี้ถูกไฮไลต์ด้วย
เมื่อต้องการทำให้แถบสูตรใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง ให้คลิกที่ด้านล่างของแถบแล้วลากขึ้นหรือลง
หมายเหตุ: ใช้แป้นพิมพ์ลัดเพื่อเปลี่ยนขนาดได้เช่นกัน โดยคลิกแถบสูตรแล้วคลิกปุ่มดังต่อไปนี้
- พีซี: Ctrl + Up and Ctrl + Down
- Mac: Ctrl + Option + Up and Ctrl + Option + Down
ประเภท | คำอธิบาย |
---|---|
CALL |
เรียกใช้ไลบรารีลิงก์แบบไดนามิกหรือทรัพยากรโค้ด ชีตไม่ใช้ฟังก์ชันนี้เนื่องจากทรัพยากรนี้อาจไม่พร้อมใช้งานในอุปกรณ์บางประเภท เคล็ดลับ: คุณอาจใช้มาโครหรือ Apps Script แทนได้ |
ฟังก์ชัน CUBE (CUBEKPIMEMBER, CUBEMEMBER, CUBEMEMBERPROPERTY) |
ช่วยให้คุณใช้โมเดลข้อมูล CUBE ของ Excel ได้ เคล็ดลับ: หากต้องการใช้ CUBE ที่คล้ายกัน คุณอาจใช้ฟีเจอร์เครื่องมือเชื่อมต่อข้อมูลได้ |
INFO |
แสดงข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์เอกสารของชีต เช่น พาธไฟล์ หมายเหตุ: เนื่องจากชีตเน้นการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ ข้อมูลส่วนใหญ่จากวิธีการนี้จึงอาจไม่พร้อมใช้งานหรือไม่แสดงต่อผู้ใช้ทุกคน |
REGISTER.ID |
เรียกดูรหัสรีจิสทรีจาก Windows หมายเหตุ: เนื่องจากชีตไม่ได้ลิงก์กับระบบปฏิบัติการใดๆ ระบบจึงไม่รองรับฟังก์ชันนี้ |
RTD |
ดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ระบบอัตโนมัติของ Component Object Model (COM) เคล็ดลับ: เนื่องจากทุกคนไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ COM คุณอาจใช้มาโครหรือ Apps Script ได้ |
WEBSERVICE |
ใช้ Windows ในการทำงานอย่างสมบูรณ์ หมายเหตุ: เนื่องจากชีตไม่ได้ลิงก์กับระบบปฏิบัติการใดๆ ระบบจึงไม่รองรับฟังก์ชันนี้ |