คำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานตามกลุ่มประชากรทั้งหมด โดยตั้งค่าให้ข้อความมีค่าเป็น "0"
ตัวอย่างการใช้งาน
STDEVPA(1,2,3,4,5,6,7,8,9,10)
STDEVPA(A2:A100)
รูปแบบคำสั่ง
STDEVPA(ค่า1, [ค่า2, ...])
-
ค่า1
- ค่าหรือช่วงแรกของประชากร -
ค่า2, ...
- ค่าหรือช่วงเพิ่มเติมที่จะรวมในประชากร
หมายเหตุ
-
แม้ว่า
STDEVPA
จะระบุว่ารับอาร์กิวเมนต์ได้สูงสุด 30 อาร์กิวเมนต์ แต่ Google ชีตรองรับอาร์กิวเมนต์สำหรับฟังก์ชันนี้ได้ไม่จำกัดจำนวน -
ถ้าจำนวนค่าที่ระบุเป็นอาร์กิวเมนต์
ค่า
มีน้อยกว่า 2 ค่าSTDEVPA
จะส่งกลับข้อผิดพลาด#DIV/0!
-
STDEVPA
จะกำหนดค่า0
ให้กับข้อความที่พบเพื่อใช้ในการคำนวณ หากต้องการให้ส่งกลับข้อผิดพลาดเมื่อพบข้อความ ให้ใช้STDEVP
-
STDEVPA
คำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากรทั้งหมด หากต้องการคำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง ให้ใช้STDEV
-
STDEVPA
มีค่าเท่ากับรากที่สองของความแปรปรวน หรือSQRT(VARPA(...))
เมื่อใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน
ดูเพิ่มเติม
VARPA
: คำนวณค่าความแปรปรวนตามกลุ่มประชากรทั้งหมด โดยตั้งค่าให้ข้อความมีค่าเป็น "0"
VARP
: คำนวณค่าความแปรปรวนตามกลุ่มประชากรทั้งหมด
VARA
: คำนวณค่าความแปรปรวนตามกลุ่มตัวอย่าง โดยตั้งค่าให้ข้อความมีค่าเป็น "0"
VAR
: คำนวณค่าความแปรปรวนตามกลุ่มตัวอย่าง
STDEVP
: คำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานตามกลุ่มประชากรทั้งหมด
STDEVA
: คำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานตามกลุ่มตัวอย่าง โดยตั้งค่าให้ข้อความมีค่าเป็น "0"
STDEV
: คำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานตามกลุ่มตัวอย่าง
DVARP
: แสดงผลค่าความแปรปรวนของกลุ่มประชากรทั้งหมดที่เลือกจากช่วงหรืออาร์เรย์ที่มีลักษณะเหมือนตารางฐานข้อมูลโดยใช้คำสั่งค้นหาแบบ SQL
DVAR
: แสดงผลค่าความแปรปรวนของกลุ่มประชากรตัวอย่างที่เลือกจากช่วงหรืออาร์เรย์ที่มีลักษณะเหมือนตารางฐานข้อมูลโดยใช้คำสั่งค้นหาแบบ SQL
DSTDEVP
: แสดงผลค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มประชากรทั้งหมดที่เลือกจากช่วงหรืออาร์เรย์ที่มีลักษณะเหมือนตารางฐานข้อมูลโดยใช้คำสั่งค้นหาแบบ SQL
DSTDEV
: แสดงผลค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มประชากรตัวอย่างที่เลือกจากช่วงหรืออาร์เรย์ที่มีลักษณะเหมือนตารางฐานข้อมูลโดยใช้คำสั่งค้นหาแบบ SQL
DEVSQ
: คำนวณผลรวมของกำลังสองของความเบี่ยงเบนตามตัวอย่าง
AVEDEV
: คำนวณจำนวนเฉลี่ยของค่าเบี่ยงเบนของข้อมูลจากค่าเฉลี่ยของชุดข้อมูล