Google จะเริ่มปิดระบบฟีเจอร์แอปที่ใช้ Password Vault ในคอนโซลผู้ดูแลระบบในวันที่ 21 กันยายน 2022 โดยการปิดระบบจะเสร็จเรียบร้อยภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2023 โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ได้ระหว่างการปิดระบบแต่ละช่วง ซึ่งเรียงตามไทม์ไลน์ดังนี้
ไทม์ไลน์
จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2022 | |
สิ่งที่ผู้ดูแลระบบทำได้
|
สิ่งที่ผู้ใช้ทำได้
|
ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2022 | |
สิ่งที่ผู้ดูแลระบบทำได้
สิ่งที่ผู้ดูแลระบบทำไม่ได้อีกต่อไป
|
สิ่งที่ผู้ใช้ทำได้ (ไม่มีการเปลี่ยนแปลง) |
หลังจากวันที่ 21 มิถุนายน 2023 | |
สิ่งที่ผู้ดูแลระบบทำไม่ได้อีกต่อไป
|
สิ่งที่ผู้ใช้ทำไม่ได้อีกต่อไป
|
สิ่งที่ต้องทำ
ให้ดำเนินการดังนี้เพื่อตรวจสอบแอปที่ใช้ Password Vault อยู่ในปัจจุบันและค้นหาแอปอื่นๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้ดีที่สุดโดยทันที
- ตรวจสอบว่าแอปดังกล่าวหรือแอปอื่นๆ อยู่ในแคตตาล็อกแอปที่มีการผสานรวม SAML ไว้แล้ว หากเป็นไปตามนั้น ให้ตั้งค่า SSO ผ่าน SAML
- หากแอปไม่ได้อยู่ในแคตตาล็อก แต่รองรับ SAML คุณสามารถตั้งค่าแอปนั้นเป็นแอปพลิเคชัน SAML ที่กำหนดเอง
- หากแอปไม่รองรับ SAML ให้ใช้โซลูชัน Password Vault ตัวเลือกอื่น
ก่อนการปิดระบบแอปที่ใช้ Password Vault ครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 มิถุนายน 2023 เราขอแนะนำให้คุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- แจ้งผู้ใช้เกี่ยวกับการปิดระบบที่จะเกิดขึ้น
- นำการมอบสิทธิ์และข้อมูลเข้าสู่ระบบของแอปที่ใช้ Password Vault ออกทั้งหมด
- ลบแต่ละแอปโดยคลิก "ลบ" ในแต่ละแถวในรายการแอป
- ส่งออกบันทึกการเข้าถึงของผู้ดูแลระบบและผู้ใช้สำหรับเหตุการณ์ในแอปที่ใช้ Password Vault ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2023
หมายเหตุ: หลังจากลบแอปที่ใช้ Password Vault ในคอนโซลผู้ดูแลระบบแล้ว ผู้ใช้จะเข้าถึงแอปจากหน้าแดชบอร์ดของบัญชี Google ไม่ได้ แต่เนื่องจากบริการของแอปที่ใช้ Password Vault จะจัดเก็บเฉพาะรหัสผ่านภายนอกเท่านั้น การลบแอปดังกล่าวจึงไม่ส่งผลต่อระบบภายนอก
สำคัญ: หากคุณไม่ดำเนินการใดๆ ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2023 คุณและผู้ใช้จะเสียสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแอปที่ใช้ Password Vault เนื่องจากระบบจะล้างข้อมูลแอปพลิเคชันทั้งหมดอย่างถาวรหลังจากวันที่ 20 มิถุนายน 2023
คำถามที่พบบ่อย
ฉันจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าแอปหรือตัวเลือกอื่นมีการผสานรวม SSO กับ Google ไว้แล้วแอปที่ใช้ Password Vault อาจอยู่ในแคตตาล็อกแอปที่มีการผสานรวม SAML ไว้แล้วของ Google ให้ตรวจสอบว่ามีแอป (หรือแอปทางเลือก) อยู่ในแคตตาล็อก แล้วคลิกลิงก์ในคอลัมน์ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดูวิธีการตั้งค่า
- เมื่อติดตั้งแอปแล้ว ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้แอปเหล่านี้ได้โดยใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ Google ของตนเอง
- แอปจำนวนมากในแคตตาล็อกยังรองรับการจัดสรรผู้ใช้อัตโนมัติอีกด้วย
โปรดสอบถามนักพัฒนาแอปเพื่อยืนยันว่าแอปนั้นรองรับการตรวจสอบสิทธิ์ SAML 2.0 หากเป็นไปตามนั้น คุณสามารถกำหนดค่าแอปเป็นแอปพลิเคชัน SAML ที่กำหนดเองได้
หากแอปไม่รองรับ SAML คุณอาจต้องสมัครใช้บริการโซลูชัน Password Vault ของบุคคลที่สามแล้วตั้งค่าแอปที่ใช้ Password Vault ด้วยตัวเอง หลังจากดำเนินการตั้งค่าแบบครั้งเดียวแล้ว ผู้ใช้จะต้องเริ่มจัดเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบของตนเองในโซลูชัน Password Vault นั้น
เราพร้อมช่วยเหลือคุณ
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Google Cloud Platform