หากหน้าจอทีวีมีข้อความแสดงข้อผิดพลาด "เชื่อมต่อฉันอีกครั้ง" คุณอาจพบข้อผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งด้านล่างนี้อยู่ โปรดมองหาข้อความแสดงข้อผิดพลาดบนหน้าจอในรายการข้อความแสดงข้อผิดพลาดด้านล่าง ซึ่งจะช่วยให้แก้ไขปัญหาได้
เลือกข้อผิดพลาด
ข้อผิดพลาด 1 เชื่อมต่อฉันอีกครั้ง: Chromecast XYZ ไม่พบเครือข่าย Wi-Fi "ชื่อ"
ขั้นตอนการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
- เครือข่าย Wi-Fi ใช้งานได้หรือไม่ และอุปกรณ์อื่นๆ (โทรศัพท์ แท็บเล็ต เดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป) เชื่อมต่อเครือข่ายดังกล่าวและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไหม
- หากอุปกรณ์อื่นๆ เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ แต่ Chromecast ใช้งานไม่ได้ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เลย
- หากอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมดเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ให้รีบูตเราเตอร์
- โดยถอดปลั๊กเราเตอร์ Wi-Fi ปล่อยทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วเสียบปลั๊กกลับเข้าไป
- ตรวจดูว่าไฟของเราเตอร์ดับทั้งหมดหลังถอดปลั๊ก เราเตอร์บางเครื่องมีชุดแบตเตอรี่สำรอง คุณจึงอาจต้องถอดชุดแบตเตอรี่ออกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์ปิดแล้วอย่างสมบูรณ์
- เมื่อไฟทุกดวงของเราเตอร์สว่างขึ้นและชื่อเครือข่ายแสดงในตัวเลือก Wi-Fi บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ให้ตรวจสอบว่า Chromecast เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi แล้ว
- หลังจากรีบูต ให้ดูสถานการณ์ต่อไปนี้
- หากเครือข่ายออนไลน์และไม่พบปัญหาอีกหลังจากรีบูตเราเตอร์ คุณก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
- หากเครือข่ายออนไลน์แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
- ถ้าคุณรีบูตเราเตอร์แล้ว แต่เครือข่าย Wi-Fi ยังใช้งานไม่ได้กับอุปกรณ์บางตัว แสดงว่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อสอบถามว่ามีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเราเตอร์ ที่ตั้งของเราเตอร์ หรือรหัสผ่านของเราเตอร์ไหม
ถ้าไม่มี ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป
ถ้ามี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- หากอุปกรณ์แสดงเป็น "ต้องตั้งค่า" ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์
- หากอุปกรณ์แสดงอยู่ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนเครือข่าย Wi-Fi ของ Chromecast
ขั้นตอนที่ 3 อุปกรณ์ Chromecast อยู่ภายในรัศมี 15-20 ฟุตของอุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่าและเราเตอร์ Wi-Fi ใช่ไหม
อุปกรณ์ Chromecast ควรอยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่า (โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป) มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ภายในระยะ 15 ฟุต) และอยู่ใกล้เราเตอร์ Wi-Fi ในระยะเท่าๆ กัน การที่อุปกรณ์อยู่ใกล้กันจะช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีประสิทธิภาพดีที่สุด
หากอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ให้ย้ายไปไว้ใกล้กัน
ถ้าย้ายอุปกรณ์ไปอยู่ใกล้กันแล้ว แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนถัดไปและรีบูตอุปกรณ์ Chromecast
ขั้นตอนที่ 4 รีบูตอุปกรณ์ Chromecast
- ถอดสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- ปล่อยไว้โดยไม่เสียบสาย 1 นาที
- เสียบสายชาร์จกลับเข้าไป
หมายเหตุ: เมื่อถอดปลั๊ก Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI ของทีวี อุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่รีบูต จะต้องถอด Chromecast ออกจากแหล่งจ่ายไฟเพื่อให้รีบูต
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 5 ถ้าคุณมีอุปกรณ์รุ่นที่ 1 ให้ใช้สายต่อ HDMI
- ถอดอุปกรณ์ Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI
- ถอดสายไฟออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับพอร์ต HDMI ที่ว่างอยู่บน TV
- ต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 6 รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
ด้วย Chromecast Voice Remote
- ที่ด้านขวาบนของหน้าจอทีวี ให้เลือกโปรไฟล์ของคุณ การตั้งค่า
- เลือกระบบ เกี่ยวกับ รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวีและเปิดอยู่ ให้กดปุ่มด้านหลัง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED ควรเริ่มกะพริบเป็นสีเหลือง
- เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาวติดสว่าง ให้ปล่อยมือ จากนั้น Chromecast ควรรีเซ็ต
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มที่อยู่ด้านข้าง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED จะกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ปล่อยปุ่ม จากนั้น Chromecast จะรีสตาร์ท
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ Chromecast ค้างไว้อย่างน้อย 25 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ที่ติดอยู่จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีแดง
- เมื่อไฟ LED กะพริบเป็นสีขาวและทีวีแสดงหน้าจอว่าง ให้ปล่อยปุ่มดังกล่าว อุปกรณ์จะรีสตาร์ท
หลังจากรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ควรมีข้อความ "ตั้งค่าฉัน" แสดงขึ้นบนหน้าจอ ตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
ข้อผิดพลาด 2 เชื่อมต่อฉันอีกครั้ง: Chromecast XYZ เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi "ชื่อ" ไม่ได้
ขั้นตอนการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
- เครือข่าย Wi-Fi ใช้งานได้หรือไม่ และอุปกรณ์อื่นๆ (โทรศัพท์ แท็บเล็ต เดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป) เชื่อมต่อเครือข่ายดังกล่าวและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไหม
- หากอุปกรณ์อื่นๆ เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ แต่ Chromecast ใช้งานไม่ได้ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เลย
- หากอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมดเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ให้รีบูตเราเตอร์
- โดยถอดปลั๊กเราเตอร์ Wi-Fi ปล่อยทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วเสียบปลั๊กกลับเข้าไป
- ตรวจดูว่าไฟของเราเตอร์ดับทั้งหมดหลังถอดปลั๊ก เราเตอร์บางเครื่องมีชุดแบตเตอรี่สำรอง คุณจึงอาจต้องถอดชุดแบตเตอรี่ออกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์ปิดแล้วอย่างสมบูรณ์
- เมื่อไฟทุกดวงของเราเตอร์สว่างขึ้นและชื่อเครือข่ายแสดงในตัวเลือก Wi-Fi บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ให้ตรวจสอบว่า Chromecast เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi แล้ว
- หลังจากรีบูต ให้ดูสถานการณ์ต่อไปนี้
- หากเครือข่ายออนไลน์และไม่พบปัญหาอีกหลังจากรีบูตเราเตอร์ คุณก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
- หากเครือข่ายออนไลน์แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
- ถ้าคุณรีบูตเราเตอร์แล้ว แต่เครือข่าย Wi-Fi ยังใช้งานไม่ได้กับอุปกรณ์บางตัว แสดงว่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อสอบถามว่ามีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเราเตอร์ ที่ตั้งของเราเตอร์ หรือรหัสผ่านของเราเตอร์ไหม
ถ้าไม่มี ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป
ถ้ามี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- หากอุปกรณ์แสดงเป็น "ต้องตั้งค่า" ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์
- หากอุปกรณ์แสดงอยู่ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนเครือข่าย Wi-Fi ของ Chromecast
ขั้นตอนที่ 3 อุปกรณ์ Chromecast อยู่ภายในรัศมี 15-20 ฟุตของอุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่าและเราเตอร์ Wi-Fi ใช่ไหม
อุปกรณ์ Chromecast ควรอยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่า (โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป) มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ภายในระยะ 15 ฟุต) และอยู่ใกล้เราเตอร์ Wi-Fi ในระยะเท่าๆ กัน การที่อุปกรณ์อยู่ใกล้กันจะช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีประสิทธิภาพดีที่สุด
หากอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ให้ย้ายไปไว้ใกล้กัน
ถ้าย้ายอุปกรณ์ไปอยู่ใกล้กันแล้ว แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนถัดไปและรีบูตอุปกรณ์ Chromecast
ขั้นตอนที่ 4 รีบูตอุปกรณ์ Chromecast
- ถอดสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- ปล่อยไว้โดยไม่เสียบสาย 1 นาที
- เสียบสายชาร์จกลับเข้าไป
หมายเหตุ: เมื่อถอดปลั๊ก Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI ของทีวี อุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่รีบูต จะต้องถอด Chromecast ออกจากแหล่งจ่ายไฟเพื่อให้รีบูต
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 5 ถ้าคุณมีอุปกรณ์รุ่นที่ 1 ให้ใช้สายต่อ HDMI
- ถอดอุปกรณ์ Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI
- ถอดสายไฟออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับพอร์ต HDMI ที่ว่างอยู่บน TV
- ต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 6 รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
ด้วย Chromecast Voice Remote
- ที่ด้านขวาบนของหน้าจอทีวี ให้เลือกโปรไฟล์ของคุณ การตั้งค่า
- เลือกระบบ เกี่ยวกับ รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวีและเปิดอยู่ ให้กดปุ่มด้านหลัง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED ควรเริ่มกะพริบเป็นสีเหลือง
- เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาวติดสว่าง ให้ปล่อยมือ จากนั้น Chromecast ควรรีเซ็ต
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มที่อยู่ด้านข้าง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED จะกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ปล่อยปุ่ม จากนั้น Chromecast จะรีสตาร์ท
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ Chromecast ค้างไว้อย่างน้อย 25 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ที่ติดอยู่จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีแดง
- เมื่อไฟ LED กะพริบเป็นสีขาวและทีวีแสดงหน้าจอว่าง ให้ปล่อยปุ่มดังกล่าว อุปกรณ์จะรีสตาร์ท
หลังจากรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ควรมีข้อความ "ตั้งค่าฉัน" แสดงขึ้นบนหน้าจอ ตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
ข้อผิดพลาด 3 เชื่อมต่อฉันอีกครั้ง: เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อเครือข่าย "ชื่อ" เนื่องจากมีข้อผิดพลาดของเราเตอร์
ขั้นตอนการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
- เครือข่าย Wi-Fi ใช้งานได้หรือไม่ และอุปกรณ์อื่นๆ (โทรศัพท์ แท็บเล็ต เดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป) เชื่อมต่อเครือข่ายดังกล่าวและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไหม
- หากอุปกรณ์อื่นๆ เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ แต่ Chromecast ใช้งานไม่ได้ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เลย
- หากอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมดเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ให้รีบูตเราเตอร์
- โดยถอดปลั๊กเราเตอร์ Wi-Fi ปล่อยทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วเสียบปลั๊กกลับเข้าไป
- ตรวจดูว่าไฟของเราเตอร์ดับทั้งหมดหลังถอดปลั๊ก เราเตอร์บางเครื่องมีชุดแบตเตอรี่สำรอง คุณจึงอาจต้องถอดชุดแบตเตอรี่ออกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์ปิดแล้วอย่างสมบูรณ์
- เมื่อไฟทุกดวงของเราเตอร์สว่างขึ้นและชื่อเครือข่ายแสดงในตัวเลือก Wi-Fi บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ให้ตรวจสอบว่า Chromecast เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi แล้ว
- หลังจากรีบูต ให้ดูสถานการณ์ต่อไปนี้
- หากเครือข่ายออนไลน์และไม่พบปัญหาอีกหลังจากรีบูตเราเตอร์ คุณก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
- หากเครือข่ายออนไลน์แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
- ถ้าคุณรีบูตเราเตอร์แล้ว แต่เครือข่าย Wi-Fi ยังใช้งานไม่ได้กับอุปกรณ์บางตัว แสดงว่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อสอบถามว่ามีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเราเตอร์ ที่ตั้งของเราเตอร์ หรือรหัสผ่านของเราเตอร์ไหม
ถ้าไม่มี ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป
ถ้ามี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- หากอุปกรณ์แสดงเป็น "ต้องตั้งค่า" ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์
- หากอุปกรณ์แสดงอยู่ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนเครือข่าย Wi-Fi ของ Chromecast
ขั้นตอนที่ 3 อุปกรณ์ Chromecast อยู่ภายในรัศมี 15-20 ฟุตของอุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่าและเราเตอร์ Wi-Fi ใช่ไหม
อุปกรณ์ Chromecast ควรอยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่า (โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป) มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ภายในระยะ 15 ฟุต) และอยู่ใกล้เราเตอร์ Wi-Fi ในระยะเท่าๆ กัน การที่อุปกรณ์อยู่ใกล้กันจะช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีประสิทธิภาพดีที่สุด
หากอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ให้ย้ายไปไว้ใกล้กัน
ถ้าย้ายอุปกรณ์ไปอยู่ใกล้กันแล้ว แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนถัดไปและรีบูตอุปกรณ์ Chromecast
ขั้นตอนที่ 4 รีบูตอุปกรณ์ Chromecast
- ถอดสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- ปล่อยไว้โดยไม่เสียบสาย 1 นาที
- เสียบสายชาร์จกลับเข้าไป
หมายเหตุ: เมื่อถอดปลั๊ก Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI ของทีวี อุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่รีบูต จะต้องถอด Chromecast ออกจากแหล่งจ่ายไฟเพื่อให้รีบูต
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 5 ถ้าคุณมีอุปกรณ์รุ่นที่ 1 ให้ใช้สายต่อ HDMI
- ถอดอุปกรณ์ Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI
- ถอดสายไฟออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับพอร์ต HDMI ที่ว่างอยู่บน TV
- ต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 6 รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
ด้วย Chromecast Voice Remote
- ที่ด้านขวาบนของหน้าจอทีวี ให้เลือกโปรไฟล์ของคุณ การตั้งค่า
- เลือกระบบ เกี่ยวกับ รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวีและเปิดอยู่ ให้กดปุ่มด้านหลัง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED ควรเริ่มกะพริบเป็นสีเหลือง
- เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาวติดสว่าง ให้ปล่อยมือ จากนั้น Chromecast ควรรีเซ็ต
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มที่อยู่ด้านข้าง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED จะกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ปล่อยปุ่ม จากนั้น Chromecast จะรีสตาร์ท
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ Chromecast ค้างไว้อย่างน้อย 25 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ที่ติดอยู่จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีแดง
- เมื่อไฟ LED กะพริบเป็นสีขาวและทีวีแสดงหน้าจอว่าง ให้ปล่อยปุ่มดังกล่าว อุปกรณ์จะรีสตาร์ท
หลังจากรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ควรมีข้อความ "ตั้งค่าฉัน" แสดงขึ้นบนหน้าจอ ตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
ข้อผิดพลาด 4 เชื่อมต่อฉันอีกครั้ง: Chromecast "XYZ" เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi "ชื่อ" แล้ว แต่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ได้
ขั้นตอนการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
- เครือข่าย Wi-Fi ใช้งานได้หรือไม่ และอุปกรณ์อื่นๆ (โทรศัพท์ แท็บเล็ต เดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป) เชื่อมต่อเครือข่ายดังกล่าวและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไหม
- หากอุปกรณ์อื่นๆ เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ แต่ Chromecast ใช้งานไม่ได้ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เลย
- หากอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมดเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ให้รีบูตเราเตอร์
- โดยถอดปลั๊กเราเตอร์ Wi-Fi ปล่อยทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วเสียบปลั๊กกลับเข้าไป
- ตรวจดูว่าไฟของเราเตอร์ดับทั้งหมดหลังถอดปลั๊ก เราเตอร์บางเครื่องมีชุดแบตเตอรี่สำรอง คุณจึงอาจต้องถอดชุดแบตเตอรี่ออกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์ปิดแล้วอย่างสมบูรณ์
- เมื่อไฟทุกดวงของเราเตอร์สว่างขึ้นและชื่อเครือข่ายแสดงในตัวเลือก Wi-Fi บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ให้ตรวจสอบว่า Chromecast เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi แล้ว
- หลังจากรีบูต ให้ดูสถานการณ์ต่อไปนี้
- หากเครือข่ายออนไลน์และไม่พบปัญหาอีกหลังจากรีบูตเราเตอร์ คุณก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
- หากเครือข่ายออนไลน์แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
- ถ้าคุณรีบูตเราเตอร์แล้ว แต่เครือข่าย Wi-Fi ยังใช้งานไม่ได้กับอุปกรณ์บางตัว แสดงว่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจมีบางอย่างที่ผิดปกติ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อสอบถามว่ามีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเราเตอร์ ที่ตั้งของเราเตอร์ หรือรหัสผ่านของเราเตอร์ไหม
ถ้าไม่มี ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป
ถ้ามี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- หากอุปกรณ์แสดงเป็น "ต้องตั้งค่า" ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์
- หากอุปกรณ์แสดงอยู่ในรายการอุปกรณ์ในแอป Home ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนเครือข่าย Wi-Fi ของ Chromecast
ขั้นตอนที่ 3 อุปกรณ์ Chromecast อยู่ภายในรัศมี 15-20 ฟุตของอุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่าและเราเตอร์ Wi-Fi ใช่ไหม
อุปกรณ์ Chromecast ควรอยู่ใกล้อุปกรณ์ที่ใช้ตั้งค่า (โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป) มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ภายในระยะ 15 ฟุต) และอยู่ใกล้เราเตอร์ Wi-Fi ในระยะเท่าๆ กัน การที่อุปกรณ์อยู่ใกล้กันจะช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีประสิทธิภาพดีที่สุด
หากอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ให้ย้ายไปไว้ใกล้กัน
ถ้าย้ายอุปกรณ์ไปอยู่ใกล้กันแล้ว แต่ยังพบปัญหาอยู่ ให้ไปยังขั้นตอนถัดไปและรีบูตอุปกรณ์ Chromecast
ขั้นตอนที่ 4 รีบูตอุปกรณ์ Chromecast
- ถอดสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- ปล่อยไว้โดยไม่เสียบสาย 1 นาที
- เสียบสายชาร์จกลับเข้าไป
หมายเหตุ: เมื่อถอดปลั๊ก Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI ของทีวี อุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่รีบูต จะต้องถอด Chromecast ออกจากแหล่งจ่ายไฟเพื่อให้รีบูต
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 5 ถ้าคุณมีอุปกรณ์รุ่นที่ 1 ให้ใช้สายต่อ HDMI
- ถอดอุปกรณ์ Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI
- ถอดสายไฟออกจากอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับอุปกรณ์ Chromecast
- เสียบสายต่อ HDMI เข้ากับพอร์ต HDMI ที่ว่างอยู่บน TV
- ต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาถัดไป
หากแก้ปัญหาได้ ก็ไม่ต้องทำตามขั้นตอนที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 6 รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
ด้วย Chromecast Voice Remote
- ที่ด้านขวาบนของหน้าจอทีวี ให้เลือกโปรไฟล์ของคุณ การตั้งค่า
- เลือกระบบ เกี่ยวกับ รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวีและเปิดอยู่ ให้กดปุ่มด้านหลัง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED ควรเริ่มกะพริบเป็นสีเหลือง
- เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาวติดสว่าง ให้ปล่อยมือ จากนั้น Chromecast ควรรีเซ็ต
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มที่อยู่ด้านข้าง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED จะกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ปล่อยปุ่ม จากนั้น Chromecast จะรีสตาร์ท
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์ค้างไว้
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า เพิ่มเติม รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ Chromecast ค้างไว้อย่างน้อย 25 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ที่ติดอยู่จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีแดง
- เมื่อไฟ LED กะพริบเป็นสีขาวและทีวีแสดงหน้าจอว่าง ให้ปล่อยปุ่มดังกล่าว อุปกรณ์จะรีสตาร์ท
หลังจากรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ควรมีข้อความ "ตั้งค่าฉัน" แสดงขึ้นบนหน้าจอ ตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
หากยังคงพบปัญหา
หากยังคงพบปัญหาในการตั้งค่า Chromecast โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Chromecast