จับคู่ลำโพง 2 ตัวเพื่อให้ได้เสียงสเตอริโอ

คุณเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันสำหรับตั้งค่าเสียงสเตอริโอได้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การฟังเพลงและดูสื่ออย่างเต็มอรรถรสยิ่งขึ้น การจับคู่เสียงสเตอริโอมีใน Google Home, Google Nest Mini (รุ่นที่ 2), Google Home Mini (รุ่นที่ 1), Google Home Max และ Google Nest Audio โดยอุปกรณ์ทั้ง 2 เครื่องจะต้องเป็นรุ่นเดียวกัน (เช่น ลำโพง Nest Mini 2 ตัว หรือลำโพง Nest Audio 2 ตัว) และอยู่ในห้องเดียวกัน

หากต้องการสตรีมสื่อไปยังลำโพงหลายตัวในบ้าน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างและจัดการกลุ่มลำโพง

Google Home Google Home

ขั้นตอนที่ 1 วางลำโพงในตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้อง

วางลำโพง 2 ตัวในลักษณะต่อไปนี้เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  • วางบนพื้นผิวที่มั่นคง ได้ระดับ และห่างจากขอบของพื้นผิว
  • วางลำโพงทั้งสองที่ระดับความสูงเท่ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าลำโพง Google Home ทั้ง 2 ตัว

ตั้งค่าลำโพง Google Home ทั้ง 2 ตัวในแอป Google Home เมื่อตั้งค่าแล้ว ลำโพงทั้งสองควรจะปรากฏในแอปเป็นอุปกรณ์แยกกันคนละรายการ

ขั้นตอนที่ 3 จับคู่ลำโพง

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะลำโพงตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการจับคู่ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เสียง คู่สเตอริโอ ถัดไป
  6. เลือกอุปกรณ์ 2 รายการที่ต้องการจับคู่ ถัดไป
  7. ไฟบนลำโพงตัวใดตัวหนึ่งควรจะเริ่มกะพริบเป็นสีขาว แตะซ้ายหรือขวา เพื่อจับคู่ตามลำโพงที่กะพริบ ถัดไป
  8. ในส่วน "คู่อยู่ที่ไหน" ให้เลือกห้องของคู่สเตอริโอ แล้วแตะถัดไป
  9. ตั้งชื่อให้คู่สเตอริโอ แตะถัดไป เสร็จสิ้น

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าและควบคุมคู่สเตอริโอ ให้เปิดแอป Google Home แตะอุปกรณ์ การ์ดของคู่สเตอริโอ

ขั้นตอนที่ 4 ควบคุมคู่สเตอริโอ

การควบคุมสื่อ

การควบคุมสื่อทั้งหมด (เล่น หยุดชั่วคราว ถัดไป ก่อนหน้า และควบคุมระดับเสียง) จะควบคุมคู่สเตอริโอ ไม่ใช่ควบคุมลำโพงแต่ละตัวแยกกัน

การตั้งค่า

การตั้งค่า Assistant, การตั้งค่าอุปกรณ์ และการตั้งค่าเสียงมีผลกับคู่สเตอริโอและจะทำการเปลี่ยนแปลงกับลำโพงแยกแต่ละตัวไม่ได้

Google Assistant

สำคัญ: เมื่อจับคู่ลำโพง 2 ตัว Assistant จะทำงานและโต้ตอบผ่านทางลำโพงด้านซ้าย

การเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพง

คุณเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพงได้ คู่สเตอริโอจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เดียวกันภายในกลุ่มนั้น

การเลิกจับคู่ลำโพง

คุณเลิกจับคู่ได้หากไม่ต้องการใช้ลำโพงเป็นคู่สเตอริโออีกต่อไป

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของคู่สเตอริโอค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น แยกคู่สเตอริโอ จากนั้น แยก

สำคัญ: หลังจากเลิกจับคู่ลำโพงแล้ว คุณจะต้องลิงก์อุปกรณ์ที่อยู่ทางด้านขวากับบัญชี Google อีกครั้ง โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะอุปกรณ์
  3. แตะลำโพงด้านขวาที่คุณจะลิงก์ใหม่ค้างไว้
  4. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น ลิงก์บัญชี

ในอุปกรณ์ ลำโพงทั้ง 2 ตัวควรมีการ์ดของอุปกรณ์แยกกัน

Googel Nest Mini Google Nest Mini (รุ่นที่ 2)

ขั้นตอนที่ 1 วางลำโพงในตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้อง

วางลำโพง 2 ตัวในลักษณะต่อไปนี้เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  • วางบนพื้นผิวที่มั่นคง ได้ระดับ และห่างจากขอบของพื้นผิว
  • วางลำโพงทั้งสองที่ระดับความสูงเท่ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าลำโพง Google Nest Mini ทั้ง 2 ตัว

ตั้งค่าลำโพง Google Nest Mini ทั้ง 2 ตัวในแอป Google Home เมื่อตั้งค่าแล้ว ลำโพงทั้งสองควรจะปรากฏในแอปเป็นอุปกรณ์แยกกันคนละรายการ

ขั้นตอนที่ 3 จับคู่ลำโพง

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะลำโพงตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการจับคู่ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เสียง คู่สเตอริโอ ถัดไป
  6. เลือกอุปกรณ์ 2 รายการที่ต้องการจับคู่ ถัดไป
  7. ไฟบนลำโพงตัวใดตัวหนึ่งควรจะเริ่มกะพริบเป็นสีขาว แตะซ้ายหรือขวา เพื่อจับคู่ตามลำโพงที่กะพริบ ถัดไป
  8. ในส่วน "คู่อยู่ที่ไหน" ให้เลือกห้องของคู่สเตอริโอ แล้วแตะถัดไป
  9. ตั้งชื่อให้คู่สเตอริโอ แตะถัดไป เสร็จสิ้น

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าและควบคุมคู่สเตอริโอ ให้เปิดแอป Google Home แตะอุปกรณ์ การ์ดของคู่สเตอริโอ

ขั้นตอนที่ 4 ควบคุมคู่สเตอริโอ

การควบคุมสื่อ

การควบคุมสื่อทั้งหมด (เล่น หยุดชั่วคราว ถัดไป ก่อนหน้า และควบคุมระดับเสียง) จะควบคุมคู่สเตอริโอ ไม่ใช่ควบคุมลำโพงแต่ละตัวแยกกัน

การตั้งค่า

การตั้งค่า Assistant, การตั้งค่าอุปกรณ์ และการตั้งค่าเสียงมีผลกับคู่สเตอริโอและจะทำการเปลี่ยนแปลงกับลำโพงแยกแต่ละตัวไม่ได้

Google Assistant

สำคัญ: เมื่อจับคู่ลำโพง 2 ตัว Assistant จะทำงานและโต้ตอบผ่านทางลำโพงด้านซ้าย

การเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพง

คุณเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพงได้ คู่สเตอริโอจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เดียวกันภายในกลุ่มนั้น

การเลิกจับคู่ลำโพง

คุณเลิกจับคู่ได้หากไม่ต้องการใช้ลำโพงเป็นคู่สเตอริโออีกต่อไป

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของคู่สเตอริโอค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น แยกคู่สเตอริโอ จากนั้น แยก

สำคัญ: หลังจากเลิกจับคู่ลำโพงแล้ว คุณจะต้องลิงก์อุปกรณ์ที่อยู่ทางด้านขวากับบัญชี Google อีกครั้ง โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะอุปกรณ์
  3. แตะลำโพงด้านขวาที่คุณจะลิงก์ใหม่ค้างไว้
  4. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น ลิงก์บัญชี

ในอุปกรณ์ ลำโพงทั้ง 2 ตัวควรมีการ์ดของอุปกรณ์แยกกัน

Google Home Mini Google Home Mini (รุ่นที่ 1)

ขั้นตอนที่ 1 วางลำโพงในตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้อง

วางลำโพง 2 ตัวในลักษณะต่อไปนี้เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  • วางบนพื้นผิวที่มั่นคง ได้ระดับ และห่างจากขอบของพื้นผิว
  • วางลำโพงทั้งสองที่ระดับความสูงเท่ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าลำโพง Google Home Mini ทั้ง 2 ตัว

ตั้งค่าลำโพง Google Home Mini ทั้ง 2 ตัวในแอป Google Home เมื่อตั้งค่าแล้ว ลำโพงทั้งสองควรจะปรากฏในแอปเป็นอุปกรณ์แยกกันคนละรายการ

ขั้นตอนที่ 3 จับคู่ลำโพง

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะลำโพงตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการจับคู่ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เสียง คู่สเตอริโอ ถัดไป
  6. เลือกอุปกรณ์ 2 รายการที่ต้องการจับคู่ ถัดไป
  7. ไฟบนลำโพงตัวใดตัวหนึ่งควรจะเริ่มกะพริบเป็นสีขาว แตะซ้ายหรือขวา เพื่อจับคู่ตามลำโพงที่กะพริบ ถัดไป
  8. ในส่วน "คู่อยู่ที่ไหน" ให้เลือกห้องของคู่สเตอริโอ แล้วแตะถัดไป
  9. ตั้งชื่อให้คู่สเตอริโอ แตะถัดไป เสร็จสิ้น

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าและควบคุมคู่สเตอริโอ ให้เปิดแอป Google Home แตะอุปกรณ์ การ์ดของคู่สเตอริโอ

ขั้นตอนที่ 4 ควบคุมคู่สเตอริโอ

การควบคุมสื่อ

การควบคุมสื่อทั้งหมด (เล่น หยุดชั่วคราว ถัดไป ก่อนหน้า และควบคุมระดับเสียง) จะควบคุมคู่สเตอริโอ ไม่ใช่ควบคุมลำโพงแต่ละตัวแยกกัน

การตั้งค่า

การตั้งค่า Assistant, การตั้งค่าอุปกรณ์ และการตั้งค่าเสียงมีผลกับคู่สเตอริโอและจะทำการเปลี่ยนแปลงกับลำโพงแยกแต่ละตัวไม่ได้

Google Assistant

สำคัญ: เมื่อจับคู่ลำโพง 2 ตัว Assistant จะทำงานและโต้ตอบผ่านทางลำโพงด้านซ้าย

การเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพง

คุณเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพงได้ คู่สเตอริโอจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เดียวกันภายในกลุ่มนั้น

การเลิกจับคู่ลำโพง

คุณเลิกจับคู่ได้หากไม่ต้องการใช้ลำโพงเป็นคู่สเตอริโออีกต่อไป

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของคู่สเตอริโอค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น แยกคู่สเตอริโอ จากนั้น แยก

สำคัญ: หลังจากเลิกจับคู่ลำโพงแล้ว คุณจะต้องลิงก์อุปกรณ์ที่อยู่ทางด้านขวากับบัญชี Google อีกครั้ง โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะอุปกรณ์
  3. แตะลำโพงด้านขวาที่คุณจะลิงก์ใหม่ค้างไว้
  4. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น ลิงก์บัญชี

ในอุปกรณ์ ลำโพงทั้ง 2 ตัวควรมีการ์ดของอุปกรณ์แยกกัน

Google Home Max Google Home Max

ขั้นตอนที่ 1 วางลำโพงในตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้อง

วางลำโพง 2 ตัวในลักษณะต่อไปนี้เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  • วางบนฐานซิลิโคนโดยให้ฐานอยู่ตรงกลางด้านล่างลำโพง
  • วางบนพื้นผิวที่มั่นคง ได้ระดับ และห่างจากขอบของพื้นผิว
  • ห่างกันประมาณ 10 ฟุต
  • ห่างจากจุดที่คุณฟังเป็นประจำ 8-10 ฟุต
  • วางที่ความสูงเท่ากัน ความสูงนี้ควรอยู่ระดับเดียวกับหูของคุณโดยประมาณ
  • วางในแนวเดียวกัน โดยจะวางแบบแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าลำโพง Google Home Max ทั้ง 2 ตัว

ตั้งค่าลำโพง Google Home Max ทั้ง 2 ตัวในแอป Google Home เมื่อตั้งค่าแล้ว ลำโพงทั้งสองควรจะปรากฏในแอปเป็นอุปกรณ์แยกกันคนละรายการ

ขั้นตอนที่ 3 จับคู่ลำโพง

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะลำโพงตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการจับคู่ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เสียง คู่สเตอริโอ ถัดไป
  6. เลือกอุปกรณ์ 2 รายการที่ต้องการจับคู่ ถัดไป
  7. ไฟบนลำโพงตัวใดตัวหนึ่งควรจะเริ่มกะพริบเป็นสีขาว แตะซ้ายหรือขวา เพื่อจับคู่ตามลำโพงที่กะพริบ ถัดไป
  8. ในส่วน "คู่อยู่ที่ไหน" ให้เลือกห้องของคู่สเตอริโอ แล้วแตะถัดไป
  9. ตั้งชื่อให้คู่สเตอริโอ แตะถัดไป เสร็จสิ้น

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าและควบคุมคู่สเตอริโอ ให้เปิดแอป Google Home แตะอุปกรณ์ การ์ดของคู่สเตอริโอ

ขั้นตอนที่ 4 ควบคุมคู่สเตอริโอ

การควบคุมสื่อ

การควบคุมสื่อทั้งหมด (เล่น หยุดชั่วคราว ถัดไป ก่อนหน้า และควบคุมระดับเสียง) จะควบคุมคู่สเตอริโอ ไม่ใช่ควบคุมลำโพงแต่ละตัวแยกกัน

การตั้งค่า

การตั้งค่า Assistant, การตั้งค่าอุปกรณ์ และการตั้งค่าเสียงมีผลกับคู่สเตอริโอและจะทำการเปลี่ยนแปลงกับลำโพงแยกแต่ละตัวไม่ได้

Google Assistant

สำคัญ: เมื่อจับคู่ลำโพง 2 ตัว Assistant จะทำงานและโต้ตอบผ่านทางลำโพงด้านซ้าย

การเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพง

คุณเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพงได้ คู่สเตอริโอจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เดียวกันภายในกลุ่มนั้น

การเลิกจับคู่ลำโพง

คุณเลิกจับคู่ได้หากไม่ต้องการใช้ลำโพงเป็นคู่สเตอริโออีกต่อไป

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของคู่สเตอริโอค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น แยกคู่สเตอริโอ จากนั้น แยก

สำคัญ: หลังจากเลิกจับคู่ลำโพงแล้ว คุณจะต้องลิงก์อุปกรณ์ที่อยู่ทางด้านขวากับบัญชี Google อีกครั้ง โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะอุปกรณ์
  3. แตะลำโพงด้านขวาที่คุณจะลิงก์ใหม่ค้างไว้
  4. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น ลิงก์บัญชี

ในอุปกรณ์ ลำโพงทั้ง 2 ตัวควรมีการ์ดของอุปกรณ์แยกกัน

Google Nest Audio Google Nest Audio

ขั้นตอนที่ 1 วางลำโพงในตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้อง

วางลำโพง 2 ตัวในลักษณะต่อไปนี้เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  • วางบนพื้นผิวที่มั่นคง ได้ระดับ และห่างจากขอบของพื้นผิว
  • วางลำโพงทั้งสองที่ระดับความสูงเท่ากัน

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าลําโพง Nest Audio ทั้ง 2 ตัว

ตั้งค่าลำโพง Nest Audio ทั้ง 2 ตัวในแอป Google Home เมื่อตั้งค่าแล้ว ลำโพงทั้งสองควรจะปรากฏในแอปเป็นอุปกรณ์แยกกันคนละรายการ

ขั้นตอนที่ 3 จับคู่ลำโพง

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะลำโพงตัวใดตัวหนึ่งที่ต้องการจับคู่ค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เสียง คู่สเตอริโอ ถัดไป
  6. เลือกอุปกรณ์ 2 รายการที่ต้องการจับคู่ ถัดไป
  7. ไฟบนลำโพงตัวใดตัวหนึ่งควรจะเริ่มกะพริบเป็นสีขาว แตะซ้ายหรือขวา เพื่อจับคู่ตามลำโพงที่กะพริบ ถัดไป
  8. ในส่วน "คู่อยู่ที่ไหน" ให้เลือกห้องของคู่สเตอริโอ แล้วแตะถัดไป
  9. ตั้งชื่อให้คู่สเตอริโอ แตะถัดไป เสร็จสิ้น

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าและควบคุมคู่สเตอริโอ ให้เปิดแอป Google Home แตะอุปกรณ์ การ์ดของคู่สเตอริโอ

ขั้นตอนที่ 4 ควบคุมคู่สเตอริโอ

การควบคุมสื่อ

การควบคุมสื่อทั้งหมด (เล่น หยุดชั่วคราว ถัดไป ก่อนหน้า และควบคุมระดับเสียง) จะควบคุมคู่สเตอริโอ ไม่ใช่ควบคุมลำโพงแต่ละตัวแยกกัน

การตั้งค่า

การตั้งค่า Assistant, การตั้งค่าอุปกรณ์ และการตั้งค่าเสียงมีผลกับคู่สเตอริโอและจะทำการเปลี่ยนแปลงกับลำโพงแยกแต่ละตัวไม่ได้

Google Assistant

สำคัญ: เมื่อจับคู่ลำโพง 2 ตัว Assistant จะทำงานและโต้ตอบผ่านทางลำโพงด้านซ้าย

การเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพง

คุณเพิ่มคู่สเตอริโอลงในกลุ่มลำโพงได้ คู่สเตอริโอจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เดียวกันภายในกลุ่มนั้น

การเลิกจับคู่ลำโพง

คุณเลิกจับคู่ได้หากไม่ต้องการใช้ลำโพงเป็นคู่สเตอริโออีกต่อไป

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันหรือลิงก์กับบัญชีเดียวกันกับลำโพง Google Nest หรือ Home
  2. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  3. แตะอุปกรณ์
  4. แตะการ์ดของคู่สเตอริโอค้างไว้
  5. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น แยกคู่สเตอริโอ จากนั้น แยก

สำคัญ: หลังจากเลิกจับคู่ลำโพงแล้ว คุณจะต้องลิงก์อุปกรณ์ที่อยู่ทางด้านขวากับบัญชี Google อีกครั้ง โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Home แอป Google Home
  2. แตะอุปกรณ์
  3. แตะลำโพงด้านขวาที่คุณจะลิงก์ใหม่ค้างไว้
  4. แตะการตั้งค่า เฟืองการตั้งค่า จากนั้น ลิงก์บัญชี

ในอุปกรณ์ ลำโพงทั้ง 2 ตัวควรมีการ์ดของอุปกรณ์แยกกัน

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13406891381095381479
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
85561
false
false