การแก้ปัญหาขั้นแรก
- ตรวจสอบว่าเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟโดยตรง ใช้สายไฟและอะแดปเตอร์ที่มาพร้อมกับ Chromecast
- ตรวจสอบว่าได้ตั้งค่าทีวีให้เป็นอินพุต HDMI ที่เสียบ Chromecast ไว้ เช่น HDMI 1 หรือ HDMI 2
- หากทีวียังคงแสดงแต่หน้าจอสีดำ ให้รีบูต Chromecast โดยถอดสายไฟ Chromecast
รอ 1 นาที
- หมายเหตุ: ดูให้แน่ใจว่าถอดสายไฟ ไม่ใช่สาย HDMI ที่เสียบเข้ากับทีวี
- หากทีวียังคงแสดงแต่หน้าจอสีดำ ให้ถอดอุปกรณ์ HDMI ทั้งหมดที่เสียบเข้ากับทีวี แล้วถอดสายไฟทีวีเป็นเวลา 30 นาที
รอ 1 นาที ขั้นตอนถัดไป
หากหน้าจอยังเป็นสีดํา ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
Chromecast พร้อม Google TV
หน้าจอสีดําที่มีการเชื่อมต่อ HDMI
หากคุณได้รับข้อผิดพลาด HDMI ใน Chromecast พร้อม Google TV ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ตรวจสอบว่าสาย HDMI เสียบเข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวีแน่นดีแล้ว
- ลองเลือกอินพุต HDMI ช่องอื่น เช่น HDMI 1 หรือ HDMI 2
- ใช้สายต่อ HDMI ที่เข้ากันได้
- หมายเหตุ: สำหรับ Chromecast พร้อม Google TV (4K) สายต่อต้องรองรับ 4K และ HDMI 2.0
- หากคุณได้รับข้อผิดพลาด HDMI เมื่อใช้แอปพลิเคชันใดโดยเฉพาะ โปรดตรวจสอบว่าแอปอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว
- ตรวจสอบว่า Chromecast มีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
- ตรวจสอบว่าทีวีมีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
หน้าจอสีดำที่มีการเชื่อมต่อ HDCP
หากคุณพบข้อผิดพลาด HDCP ใน Chromecast พร้อม Google TV ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ถอดปลั๊ก Chromecast ออกจากทีวี, AVR หรือซาวด์บาร์
- รีบูต Chromecast และทีวี, AVR หรือซาวด์บาร์
- เชื่อมต่อ Chromecast อีกครั้ง ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อสาย HDMI กับพอร์ต HDMI ของทีวีแน่นดีแล้ว
- ตรวจสอบว่าดูเนื้อหาของคุณได้แล้วหรือยัง
หากปัญหานี้ยังคงอยู่
- ลองเลือกอินพุต HDMI ช่องอื่น เช่น HDMI 1 หรือ HDMI 2
- หากคุณใช้สวิตช์ HDMI, AVR หรือซาวด์บาร์ ให้เชื่อมต่อ Chromecast กับทีวีโดยตรง
- ตรวจสอบว่า Chromecast มีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
- ตรวจสอบว่าทีวีมีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
อุปกรณ์ Chromecast ทั้งหมด
หน้าจอสีดำและไฟ LED สีขาว (ติดสว่างหรือกะพริบ)- ปิดทีวีโดยปิดเครื่องและถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟ
- ถอด Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI หากเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟอยู่ ให้ถอดปลั๊กออก
- เปิดทีวี แล้วเสียบสายไฟอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง อย่าเสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี
- รอประมาณ 30 วินาที
- เสียบอุปกรณ์ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี
- เปลี่ยนอินพุตของทีวีให้เป็นอินพุต HDMI เดียวกับ Chromecast
- หากทีวีมีพอร์ตที่ใช้ได้หลายพอร์ต ให้ลองทำตามขั้นตอนที่ 1-6 กับพอร์ต HDMI อื่น
- หากทีวียังคงแสดงแต่หน้าจอสีดำ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง
หากคุณมีทีวีอีกเครื่องที่มีพอร์ต HDMI ให้ลองตั้งค่า Chromecast ในทีวีเครื่องนั้น
หากยังพบปัญหาอยู่ โปรดทำแบบสำรวจสั้นๆ และกรอกรายงานความคิดเห็นเพื่อให้ทีม Chromecast เข้าใจปัญหาที่คุณพบได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่คุณให้จะช่วยให้วิศวกรตรวจสอบปัญหาและหาทางแก้ไขได้
ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ใช้สายไฟที่มาพร้อมกับ Chromecast- ปิดทีวี (ปิดเครื่องและถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟ)
- ถอด Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI หากเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟอยู่ ให้ถอดปลั๊กออก
- เปิดทีวีและเสียบสายไฟอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง แต่อย่าเสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี
- รอประมาณ 30 วินาที
- เสียบอุปกรณ์ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี
- เปลี่ยนอินพุตของทีวีให้เป็นอินพุต HDMI เดียวกับ Chromecast
- หากทีวียังคงแสดงแต่หน้าจอสีดำ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง
สำคัญ: ควรใช้การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นเป็นขั้นตอนสุดท้าย
วิธีนี้จะรีเซ็ตอุปกรณ์ Chromecast เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น คุณจะต้องตั้งค่าอุปกรณ์ เชื่อมต่อ Wi-Fi ใหม่ และตั้งค่าโหมดแอมเบียนท์อีกครั้ง (หากมี) หากคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเราเตอร์หลังจากตั้งค่าอุปกรณ์ Chromecast การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในการตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
คุณรีเซ็ต Chromecast เป็นค่าเริ่มต้นได้โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งที่แสดงด้านล่าง
สำคัญ: การดำเนินการนี้จะล้างข้อมูลของคุณและยกเลิกไม่ได้
Chromecast ที่มี Google TV
Chromecast ที่มี Google TVด้วย Chromecast Voice Remote
- ที่ด้านขวาบนของหน้าจอทีวี ให้เลือกโปรไฟล์ของคุณ
การตั้งค่า
- เลือกระบบ
การตั้งค่า จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวีและเปิดอยู่ ให้กดปุ่มด้านหลัง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED ควรเริ่มกะพริบเป็นสีเหลือง
- เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาวติดสว่าง ให้ปล่อยมือ จากนั้น Chromecast ควรรีเซ็ต
Chromecast (รุ่นที่ 2), Chromecast หรือ Chromecast Ultra
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า
จากอุปกรณ์ Chromecast
ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มที่อยู่ด้านข้าง Chromecast ค้างไว้ ไฟ LED จะกะพริบเป็นสีส้ม เมื่อไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ปล่อยปุ่ม จากนั้น Chromecast จะรีสตาร์ท
Chromecast (รุ่นที่ 1)
จากแอป Google Home
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายที่ตั้งค่า Chromecast ไว้
- เปิดแอป Google Home
- แตะการ์ดของอุปกรณ์
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะการตั้งค่า
จากอุปกรณ์ Chromecast
- ในขณะที่ Chromecast เสียบอยู่กับทีวี ให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ Chromecast ค้างไว้อย่างน้อย 25 วินาที หรือจนกว่าไฟ LED ที่ติดอยู่จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีแดง
- เมื่อไฟ LED กะพริบเป็นสีขาวและทีวีแสดงหน้าจอว่าง ให้ปล่อยปุ่มดังกล่าว อุปกรณ์จะรีสตาร์ท
- ปิดทีวี (ปิดเครื่องและถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟ)
- ถอด Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI หากเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟอยู่ ให้ถอดปลั๊กออก
- เปิดทีวีและเสียบสายไฟอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง แต่อย่าเสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี
- รอประมาณ 30 วินาที
- เสียบอุปกรณ์ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี
- เปลี่ยนอินพุตของทีวีให้เป็นอินพุต HDMI เดียวกับ Chromecast
- หากยังไม่มีสัญญาณ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง
หากคุณมีทีวีแบบ HDMI อีกเครื่อง ให้ลองตั้งค่า Chromecast ในทีวีเครื่องนั้น
หากยังพบปัญหาอยู่ โปรดทำแบบสำรวจสั้นๆ และกรอกรายงานความคิดเห็นเพื่อให้ทีม Chromecast เข้าใจปัญหาที่คุณพบได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่คุณให้จะช่วยให้วิศวกรตรวจสอบปัญหาและหาทางแก้ไขได้
หากลองเสียบปลั๊ก Chromecast จากทั้งแหล่งจ่ายไฟและจากพอร์ต USB แล้ว แต่ไฟ LED บนอุปกรณ์ไม่ติดสว่าง ให้ทำดังนี้
- ตรวจสอบว่าพอร์ต USB ทำงานกับอุปกรณ์อื่นเป็นปกติ (เช่น ลองเสียบปลั๊กโทรศัพท์กับเต้ารับหรือ USB แล้วดูว่าชาร์จได้หรือไม่)
- ลองเปิด Chromecast โดยใช้แหล่งจ่ายไฟอื่น (เช่น เต้ารับติดผนัง)
- ลองใช้สายไฟแบบอื่น (สายเชื่อม USB กับไมโคร USB และอะแดปเตอร์) แทนสายที่ให้มาในกล่องพร้อมกับอุปกรณ์ Chromecast
"Chromecast..." ตามด้วยโลโก้ Chrome ที่หมุนอยู่
ปิดทีวี
- ปิดทีวี (ปิดเครื่องและถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟ)
- ถอด Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI หากเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟอยู่ ให้ถอดปลั๊กออก
- เปิดทีวีและเสียบสายไฟอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง แต่อย่าเสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี
- รอประมาณ 30 วินาที
- เสียบอุปกรณ์ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี
- เปลี่ยนอินพุตของทีวีให้เป็นอินพุต HDMI เดียวกับ Chromecast
- หากทีวียังคงแสดงแต่หน้าจอสีดำ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง
ทดสอบ Chromecast กับทีวีแบบ HDMI เครื่องอื่น
หากยังพบปัญหาอยู่ โปรดทำแบบสำรวจสั้นๆ และกรอกรายงานความคิดเห็นเพื่อให้ทีม Chromecast เข้าใจปัญหาที่คุณพบได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่คุณให้จะช่วยให้วิศวกรตรวจสอบปัญหาและหาทางแก้ไขได้
- ปิดทีวี (ปิดเครื่องและถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟ)
- ถอด Chromecast ออกจากพอร์ต HDMI หากเสียบปลั๊ก Chromecast กับแหล่งจ่ายไฟอยู่ ให้ถอดปลั๊กออก
- เปิดทีวีและเสียบสายไฟอุปกรณ์ Chromecast อีกครั้ง แต่อย่าเสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI ของทีวี
- รอ 30 วินาที
- เสียบอุปกรณ์ Chromecast เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี
- เปลี่ยนอินพุตของทีวีให้เป็นอินพุต HDMI เดียวกับ Chromecast
- หากยังไม่มีสัญญาณ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง
หากคุณมีทีวีแบบ HDMI อีกเครื่อง ให้ลองตั้งค่า Chromecast ในทีวีเครื่องนั้น
หากยังพบปัญหาอยู่ โปรดทำแบบสำรวจสั้นๆ และกรอกรายงานความคิดเห็นเพื่อให้ทีม Chromecast เข้าใจปัญหาที่คุณพบได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่คุณให้จะช่วยให้วิศวกรตรวจสอบปัญหาและหาทางแก้ไขได้
หากยังคงพบปัญหาในการตั้งค่า Chromecast โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Chromecast