คุณสามารถส่งข้อความส่วนตัวถึงบุคคล 1 คนหรือหลายคนด้วย Google Chat ได้ และหากต้องการสนทนากับทีมอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถสร้างพื้นที่ทํางานเพื่อส่งข้อความให้กับทุกคนพร้อมกันได้
คุณยังใช้แอปเพื่อทํางานโดยอัตโนมัติได้ด้วย (หากมี) หากต้องการใช้แอปใน Google Chat คุณต้องใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน และผู้ดูแลระบบ Google Workspace ต้องให้สิทธิ์ในการติดตั้งแอป
บทนำ
บทความนี้แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ โดยมีหัวเรื่องกำกับไว้ ใช้ลิงก์ด้านล่างเพื่อข้ามไปยังส่วนที่ต้องการของบทความ
- คู่มือเริ่มต้นฉบับย่อ
- เริ่มต้นใช้งาน
- เกี่ยวกับอินเทอร์เฟซของ Chat
- ไปยังส่วนต่างๆ ของเนื้อหาหลักใน Chat
- ทำงานทั่วไปใน Chat ด้วยโปรแกรมอ่านหน้าจอ
คู่มือเริ่มต้นฉบับย่อ
บทความนี้มีไว้สําหรับหน้า chat.google.com และมีข้อมูลดีๆ มากมายที่จะช่วยเหลือคุณในการใช้ Chat ทั้งนี้ การอ่านบทความทั้งหมดอาจใช้เวลานานพอสมควร หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้งานอย่างรวดเร็ว ให้ใช้เคล็ดลับสั้นๆ เหล่านี้เพื่ออ่านและส่งข้อความในข้อความส่วนตัวและพื้นที่ทํางาน
- สําหรับ JAWS: ปิดใช้เคอร์เซอร์เสมือนจริง
- สําหรับ NVDA: เปลี่ยนเป็นโหมดโฟกัส
- สำหรับ ChromeOS: ปิดใช้โหมดกดค้าง
- สําหรับ MacOS: ปิด Quicknav
วิธีอ่านแชทที่ได้รับ
- กดปุ่ม h แล้วตามด้วยปุ่ม c เพื่อย้ายโฟกัสไปยังรายการแชท
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงจนกว่าโฟกัสจะอยู่ในแชทที่ต้องการ
- กดปุ่ม Enter เพื่อเปิดแชทและย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความเพื่อพิมพ์ข้อความ
- กดปุ่ม Escape เพื่อออกจากช่องแก้ไขข้อความและย้ายโฟกัสไปยังรายการข้อความ
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อตรวจสอบข้อความ
- กดปุ่ม r เพื่อย้ายโฟกัสกลับไปที่ช่องแก้ไขข้อความ
หากต้องการตรวจสอบข้อความล่าสุด แต่ให้โฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความ ให้ทำดังนี้
- สําหรับ Windows: กดปุ่ม Alt + {ตัวเลข}
- สําหรับ ChromeOS: กดปุ่ม Alt + Shift + {ตัวเลข}
- สําหรับ MacOS: กดปุ่ม Option + {ตัวเลข}
- แทนที่ {ตัวเลข} ด้วย 1 ถึง 9 สําหรับ 9 ข้อความล่าสุด
เมื่อต้องการเริ่มแชทกับคนอื่น ให้ทำดังนี้
- กดปุ่ม Ctrl + k เพื่อเปิดช่องตัวเลือกรวม "เพิ่มอย่างน้อย 1 คน"
- พิมพ์ชื่อหรืออีเมลของบุคคล หากได้ยินผลลัพธ์ที่ตรงกัน ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter กดปุ่มลูกศรลงเพื่อดูรายการที่ใกล้เคียง
- โฟกัสจะย้ายไปที่ช่องแก้ไขข้อความ พิมพ์ข้อความแล้วกดปุ่ม Enter
วิธีอ่านพื้นที่ทำงาน
- กดปุ่ม h ตามด้วยปุ่ม r เพื่อย้ายโฟกัสไปยังรายการพื้นที่ทํางาน
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อค้นหาพื้นที่ทํางานที่ต้องการ
- กดปุ่ม Enter เพื่อย้ายโฟกัสไปที่รายการหัวข้อสำหรับพื้นที่ทำงาน
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อโฟกัสที่หัวข้ออื่นๆ
- กดปุ่มลูกศรขวาเพื่อเปิดหัวข้อที่ต้องการ ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่ออ่านข้อความในหัวข้อ
- กดปุ่มลูกศรซ้ายเพื่อกลับไปที่รายการหัวข้อ
- กดปุ่ม r เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความ พิมพ์ข้อความ กดปุ่ม Enter เพื่อเพิ่มข้อความในหัวข้อ
- กดปุ่ม Ctrl + s เพื่อเริ่มหัวข้อใหม่
เริ่มต้นใช้งาน
เบราว์เซอร์และโปรแกรมอ่านหน้าจอที่แนะนำ
Google Chat แนะนำให้ใช้ Chrome และรายการต่อไปนี้
- NVDA หรือ JAWS ใน Windows
- ChromeVox ใน Chrome OS
- VoiceOver ใน MacOS
ใช้ Chat เป็นเว็บแอปพลิเคชัน
คุณสามารถใช้ chat.google.com เป็นเว็บแอปพลิเคชันแทนหน้าเว็บได้ เมื่อใช้ chat.google.com เป็นเว็บแอปพลิเคชัน
- ให้ปิดทางลัดการท่องเว็บของโปรแกรมอ่านหน้าจอ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอด้านล่าง
- ใช้แป้นพิมพ์ลัดของ Chat เพื่อไปยังส่วนต่างๆ และอ่านแทนคําสั่งของโปรแกรมอ่านหน้าจอ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อไปยังส่วนต่างๆ ของ Chat ด้านล่าง
เคล็ดลับ: บางครั้งคุณควรใช้ chat.google.com เป็นหน้าเว็บและใช้คำสั่งเบราว์เซอร์ของโปรแกรมอ่านหน้าจอ ทั้งนี้เราจะระบุให้ทราบเมื่อช่วงเวลาเหล่านั้นมาถึง
ตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอ
โปรแกรมอ่านหน้าจอบางรายการจำเป็นต้องได้รับการตั้งค่าเพื่อใช้ Chat เป็นเว็บแอปพลิเคชัน
- JAWS: ปิดใช้เคอร์เซอร์เสมือนจริง กดปุ่ม Insert + z จนกว่าจะได้ยินคําว่า "ปิด"
- NVDA: เปิดโหมดโฟกัส กดปุ่ม Insert + Spacebar จนกว่าจะได้ยินเสียงที่คล้ายกับเสียงกดแป้นพิมพ์
- ChromeVox: ปิดโหมดกดค้าง กดปุ่ม Search 2 ครั้งอย่างรวดเร็วจนกว่าจะได้ยินคําว่า "ปิดใช้โหมดกดค้างแล้ว"
- VoiceOver: ปิดการนำทางด่วน กดปุ่มลูกศรซ้าย + ขวาจนกว่าจะได้ยินคําว่า "ปิด Quicknav แล้ว"
เปิด Chat
ไปที่ chat.google.com เมื่อเปิด Chat การโฟกัสของแป้นพิมพ์จะอยู่ที่เมนูหลักใกล้กับด้านบน ในจุดสังเกตของแบนเนอร์ ในครั้งแรกที่เปิด Chat คุณอาจต้องการทำการสํารวจเหมือนกับหน้าเว็บตามที่อธิบายไว้ในส่วนถัดไป หลังจากที่สํารวจเสร็จแล้ว เราขอแนะนําให้เปลี่ยนไปใช้ Chat เป็นเว็บแอปพลิเคชันตามที่อธิบายไว้ในหัวข้อตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอด้านบน
เกี่ยวกับอินเทอร์เฟซของ Chat
Chat มีอยู่ 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้
- ที่ด้านบน โปรแกรมอ่านหน้าจอจะเป็นจุดสังเกตของแบนเนอร์ ซึ่งจะมีการตั้งค่าและการควบคุมทั่วไป เช่น สถานะ แถบค้นหา และแถบ Google เพื่อสลับไปยังแอปและบัญชีผู้ใช้อื่นๆ
- พื้นที่การนําทางด้านซ้าย ซึ่งแสดงเป็นจุดสังเกตสําหรับการนําทาง: ทางด้านซ้าย คุณจะเห็นการสนทนาของ Chat, เนื้อหาพื้นที่ทํางาน และส่วนหัวของ Meet
- เนื้อหา Chat ซึ่งแสดงเป็นจุดสังเกตหลัก: ประกอบด้วยการสนทนาใน Chat, เนื้อหาพื้นที่ทํางาน หรือข้อมูลการประชุมที่เลือกอยู่ในปัจจุบัน บริเวณนี้ยังมีรายการข้อความที่ผ่านมา ช่องแก้ไขข้อความสำหรับข้อความใหม่ และปุ่มดำเนินการอีกด้วย
- แผงด้านข้างจะแสดงเป็นจุดสังเกตเสริม: มอบการเข้าถึงแบบฝังให้แก่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google เช่น ปฏิทิน, Keep, Tasks และ Contacts
การแชทกับคน 1 คนหรือกลุ่ม 1 กลุ่มจะสร้างรายการข้อความ โดยค่าเริ่มต้น ประวัติจะปิดอยู่ และข้อความจะหายไปเมื่อผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมงหลังจากที่ข้อความมาถึง พื้นที่ทํางานมีไว้สำหรับการสนทนาระยะยาวกับทีมหรือกลุ่มคน ระบบจะเปิดใช้งานประวัติโดยค่าเริ่มต้น คุณสามารถจัดระเบียบพื้นที่ทำงานให้เป็นหัวข้อที่จะสร้างแผนผังการสนทนา 2 ระดับได้
ไปยังส่วนต่างๆ ของเนื้อหาหลักใน Chat
เนื้อหาของ Chat และพื้นที่ทำงานมี 2 โหมด ได้แก่ การแก้ไขและการนําทาง เมื่อโฟกัสอยู่ที่ช่องแก้ไขข้อความ Chat จะอยู่ในโหมดแก้ไข หากต้องการเปลี่ยนจากโหมดแก้ไขเป็นโหมดการนําทาง ให้กดปุ่ม Escape
ปุ่ม Tab และปุ่มลูกศรมีลักษณะการทํางานที่ต่างกันในแต่ละโหมด ดังนี้
- ในโหมดแก้ไข: เมื่อกดปุ่มลูกศรขึ้นจะเป็นการย้ายไปยังข้อความที่โพสต์ล่าสุด และช่วยให้คุณสามารถแก้ไขและส่งอีกครั้งได้
- ในโหมดการไปยังส่วนต่างๆ ให้ทำดังนี้
- เมื่อกดปุ่มลูกศรขึ้นจะเป็นการย้ายไปยังข้อความล่าสุด จากนั้นจะไปยังข้อความที่เก่ากว่า
- ในส่วนของข้อความ การกดปุ่ม Tab จะเป็นการนำไปยังปุ่มต่างๆ เช่น เพิ่มความรู้สึก (อีโมจิ) แก้ไขข้อความ (หากโพสต์ไว้) ทําเครื่องหมายว่ายังไม่อ่าน และดําเนินการเพิ่มเติม
- ในพื้นที่ทํางานที่มีหัวข้อ จะเป็นดังนี้
- ย้ายไปยังหัวข้อต่างๆ ด้วยปุ่มลูกศรขึ้นหรือลง
- ย้ายไปยังรายการหัวข้อด้วยปุ่มลูกศรซ้าย จากนั้นใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อย้ายไปมาระหว่างหัวข้อต่างๆ
- ย้ายไปยังข้อความต่างๆ ในหัวข้อด้วยปุ่มลูกศรขวา
วิธีพื้นฐานในการไปยังส่วนต่างๆ
ปุ่ม Tab และปุ่มลูกศรเหมาะสําหรับการนําทางพื้นฐาน สําหรับการไปยังส่วนต่างๆ ใน Chat เพิ่มเติม คุณสามารถใช้คําสั่งต่อไปนี้ได้
- ในพื้นที่การนําทางด้านซ้ายสําหรับ Chat และพื้นที่ทํางาน ให้ทําดังนี้
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อเลือกการสนทนาอื่น
- กดปุ่ม Shift + ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อย้ายไปยังการสนทนาก่อนหน้าหรือถัดไปที่ยังไม่อ่าน
- กดปุ่ม Ctrl + ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อย้ายไปมาระหว่าง Chat, พื้นที่ทำงาน หรือ Meet
- หากโฟกัสอยู่ที่การสนทนาของ Chat หรือพื้นที่ทำงาน ให้ใช้ปุ่มลูกศรขวาหรือปุ่ม Enter เพื่อเปิดใช้งาน
- ในพื้นที่ข้อความหลัก: กดปุ่ม Tab และปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อไปยังส่วนต่างๆ
- เมื่อโฟกัสอยู่ที่ช่องแก้ไขข้อความ
- กดปุ่มลูกศรขึ้นเพื่อแก้ไขข้อความล่าสุดที่ส่ง
- กดปุ่ม Escape จากนั้นกดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อดูข้อความทั้งหมด
- เมื่อโฟกัสอยู่ที่หัวข้อของพื้นที่ทำงาน
- กดปุ่มลูกศรซ้ายเพื่อย้ายไปยังพื้นที่การนําทางด้านซ้าย
- กดปุ่มลูกศรขวาเพื่อย้ายไปยังข้อความของหัวข้อที่เลือก
- ในพื้นที่ทํางาน หากโฟกัสอยู่ที่ข้อความ: กดปุ่มลูกศรซ้ายเพื่อย้ายโฟกัสไปยังหัวข้อ
- เมื่อเปิดใช้งานพื้นที่ทํางานที่ไม่มีหัวข้อ โฟกัสจะย้ายไปยังช่องแก้ไขข้อความ
การนำทางขั้นสูง
เมื่อคุ้นเคยกับ Chat แล้ว วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดใน Chat คือการใช้แป้นพิมพ์ลัด
แสดงรายการแป้นพิมพ์ลัดทั้งหมดใน Chat
- ปิดใช้เคอร์เซอร์เสมือนจริงหรือโหมดเรียกดูในโปรแกรมอ่านหน้าจอ
- กดปุ่ม Escape หากโฟกัสอยู่ที่ช่องแก้ไขข้อความ
- กดปุ่มคําถาม (Shift + เครื่องหมายทับ)
หากต้องการอ่านแป้นพิมพ์ลัด ให้ใช้ Chat เป็นหน้าเว็บ เปิดใช้เคอร์เซอร์เสมือนจริงหรือโหมดเรียกดูในโปรแกรมอ่านหน้าจอ รายการแป้นพิมพ์ลัดอยู่ในตาราง ดังนั้นให้ใช้คําสั่งคําสั่งอ่านตารางของโปรแกรมอ่านหน้าจอเพื่อการนําทางที่ง่ายขึ้น จุดแรกที่ปุ่ม Tab นำไปคือลิงก์ที่คุณสามารถเปิดใช้งานเพื่อเปิดหรือปิดแป้นพิมพ์ลัดบางอย่างได้ ตรวจสอบว่าลิงก์มีข้อความ "ปิดใช้" เพื่อให้มีแป้นพิมพ์ลัดเพิ่มเติม
คุณจะเปิดแป้นพิมพ์ลัดของ Google Chat ในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่ได้
แป้นพิมพ์ลัดที่นิยมใช้
แป้นพิมพ์ลัดมีไว้สำหรับอุปกรณ์ Chrome และ Windows สําหรับ Mac ให้ใช้ปุ่ม Command แทนปุ่ม Ctrl และปุ่ม Option แทนปุ่ม Alt
- เมื่อใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ คุณจะสามารถอ่านข้อความ 9 รายการล่าสุดในการสนทนาของ Chat หรือหัวข้อพื้นที่ทํางานด้วยปุ่ม Alt + {ตัวเลข} สําหรับ ChromeVox ให้ใช้ปุ่ม Alt + Shift + {ตัวเลข} สําหรับ VoiceOver ให้ใช้ปุ่ม Option + {ตัวเลข} แทนที่ {ตัวเลข} ด้วย 1 สําหรับข้อความล่าสุด แทนที่ {ตัวเลข} 2 สําหรับข้อความล่าสุดลําดับถัดไป เป็นต้น โดยโฟกัสจะไม่ขยับ
- หากต้องการย้ายโฟกัสไปที่ข้อความล่าสุดในการสนทนา ให้กดปุ่ม Ctrl + j วิธีนี้จะใช้ได้โดยไม่คํานึงถึงโหมดแก้ไข และสามารถใช้แทนปุ่ม Escape ตามที่อธิบายไว้ในการนําทางพื้นฐานด้านบน
- หากต้องการย้ายโฟกัสไปยังข้อความ Chat ในพื้นที่นําทางด้านซ้าย ให้กดปุ่ม h ตามด้วยปุ่ม c
- หากต้องการย้ายโฟกัสไปยังข้อความของพื้นที่ทำงานในพื้นที่นําทางด้านซ้าย ให้กดปุ่ม h ตามด้วยปุ่ม r
- หากต้องการเพิ่ม สร้าง หรือค้นหาบุคคล กลุ่ม หรือพื้นที่ทํางาน ให้กดปุ่ม Ctrl + k หากไม่ได้อยู่ในโหมดแก้ไข แป้นพิมพ์ลัด q จะทํางานเหมือนกับปุ่ม Ctrl + k
- หากต้องการเพิ่มหรือสร้าง ให้กดปุ่มลูกศรลงเพื่อไปยังตัวเลือกที่ต้องการ
- หากต้องการค้นหาการสนทนาที่มีอยู่ ให้พิมพ์บางส่วนของชื่อแล้วกดปุ่มลูกศรลงเพื่อไปยังผลลัพธ์ที่ต้องการ
- หากต้องการค้นหาบุคคล พื้นที่ทํางาน หรือข้อความ ให้กดปุ่มเครื่องหมายทับเมื่อไม่ได้อยู่ในโหมดแก้ไข
- หากต้องการเริ่มหัวข้อใหม่ในพื้นที่ทํางาน หรือข้อความใหม่ใน Chat ให้กดปุ่ม Ctrl + s
- หากต้องการเปิดเมนูแชทหรือพื้นที่ทํางาน ให้กดปุ่ม Ctrl + g โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเข้าถึงตัวเลือกข้อความและพื้นที่ทำงานด้านล่าง
- หากต้องการตอบกลับการสนทนาหรือหัวข้อและย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความ ให้กดปุ่ม r
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโต้ตอบกับองค์ประกอบต่างๆ ได้ที่หัวข้อทํางานทั่วไปใน Chat ด้านล่างและอ่านเอกสารประกอบของโปรแกรมอ่านหน้าจอ
ทำงานทั่วไปใน Chat ด้วยโปรแกรมอ่านหน้าจอ
ข้อความส่วนตัว
ข้อความส่วนตัวหรือที่เรียกว่า DM และ Chat คือการสนทนาระหว่างคุณกับผู้ใช้อย่างน้อย 1 คน ในข้อความส่วนตัว รายการข้อความจะมีเพียงระดับเดียวเท่านั้น
อ่านข้อความส่วนตัว
- กดปุ่ม Escape แล้วกดปุ่ม h ตามด้วยปุ่ม c เพื่อเลื่อนไปที่ส่วนของ Chat ในพื้นที่นําทางด้านซ้าย
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อเลือกบุคคลที่ต้องการอ่านข้อความ แล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Escape เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดการนําทาง
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อตรวจสอบข้อความก่อนหน้าในแชท
- หากข้อความมีลิงก์ ให้กดปุ่ม Tab เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ลิงก์ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อเปิดลิงก์
หากต้องการตรวจสอบข้อความล่าสุด แต่ให้โฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความ ให้ทำดังนี้
- สําหรับ Windows: กดปุ่ม Alt + {ตัวเลข}
- สําหรับ ChromeOS: กดปุ่ม Alt + Shift + {ตัวเลข}
- สําหรับ MacOS: กดปุ่ม Option + {ตัวเลข}
- แทนที่ {ตัวเลข} ด้วย 1 ถึง 9 สําหรับ 9 ข้อความล่าสุด
สลับเปิดดูข้อความส่วนตัว
วิธีค้นหาบุคคลหรือกลุ่มที่ส่งข้อความถึง
- กดปุ่ม Ctrl + k เพื่อเปิดช่องตัวเลือกรวม "เพิ่มอย่างน้อย 1 คน"
- พิมพ์ชื่อของบุคคลหรือกลุ่มที่ต้องการค้นหา ขณะพิมพ์ Chat จะอ่านออกเสียงชื่อ
- เลือกชื่อ
- หาก Chat อ่านออกเสียงชื่อที่ต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter
- หาก Chat ไม่พูดชื่อที่คุณต้องการ ให้กดปุ่มลูกศรลงจนกว่าจะได้ยินชื่อ แล้วกดปุ่ม Ctrl + Enter
- หากยังไม่ได้ยินชื่อของบุคคลดังกล่าว ให้พิมพ์ชื่อผู้ใช้ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Enter
หากต้องการเปิดข้อความในรายการข้อความก่อนหน้า ให้ทำดังนี้
- กดปุ่ม Escape แล้วกดปุ่มลูกศรซ้ายเพื่อย้ายไปยังพื้นที่การนําทางด้านซ้าย
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงจนกว่าจะพบบุคคลที่ต้องการส่งข้อความถึง
- กดปุ่ม Enter
เคล็ดลับ: ขณะเลื่อนดูพื้นที่การนําทางด้านซ้าย คุณจะได้รับการแจ้งเตือนหากมีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านสําหรับข้อความส่วนตัวหรือพื้นที่ทํางาน หากต้องการย้ายไปยังข้อความถัดไปที่ยังไม่อ่าน ให้กดปุ่ม Shift + ปุ่มลูกศรลง
ตอบข้อความส่วนตัว
- ใช้ขั้นตอนในส่วนก่อนหน้าเพื่อค้นหาหรือไปยังบุคคลที่คุณต้องการตอบกลับ จากโหมดการนําทาง ให้กดปุ่ม r เพื่อย้ายโฟกัสกลับไปที่ช่องแก้ไขข้อความ
- พิมพ์ข้อความแล้วกดปุ่ม Enter
- เมื่อไม่อยู่ในโหมดแก้ไข คุณจะแสดงความรู้สึกต่อข้อความด้วยอีโมจิได้โดยทำดังนี้
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังปุ่ม "เพิ่มความรู้สึก" แล้วกดปุ่ม Space
- พิมพ์บางส่วนของชื่ออีโมจิ
- กดปุ่ม Tab 2 ครั้งเพื่อดูรายการผลลัพธ์ที่ตรงกัน
- กดปุ่มลูกศรลงไปยังอีโมจิที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter
ใช้ฟีเจอร์ช่วยตอบ
สำคัญ: บางข้อความจะไม่มีฟีเจอร์ช่วยตอบ
- เมื่อโฟกัสอยู่ที่ช่องแก้ไขข้อความ ให้กดปุ่ม Shift + Tab จนกว่าจะถึงปุ่มการตอบกลับที่แนะนํา 1 ใน 3 ปุ่ม
- กดปุ่ม Spacebar เพื่อเลือกคําตอบและนำไปใส่ลงในช่องแก้ไขข้อความ
- เพิ่มเนื้อหาเพิ่มเติมหากต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Enter เพื่อข้อความตอบกลับ
ส่งข้อความส่วนตัวถึงคนหลายคน
- กดปุ่ม Ctrl + k เพื่อเปิดช่องตัวเลือกรวม "เพิ่มอย่างน้อย 1 คน"
- พิมพ์ชื่อของคนที่ต้องการเพิ่ม ขณะพิมพ์ Chat จะอ่านออกเสียงชื่อ
- เลือกชื่อ
- หาก Chat อ่านออกเสียงชื่อที่ต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter
- หาก Chat ไม่พูดชื่อที่คุณต้องการ ให้กดปุ่มลูกศรลงจนกว่าจะได้ยินชื่อ แล้วกดปุ่ม Ctrl + Enter
- หากยังไม่ได้ยินชื่อของบุคคลดังกล่าว ให้พิมพ์ชื่อผู้ใช้ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Enter
- ทําขั้นตอนที่ 3 และ 4 ซ้ำเพื่อเพิ่มทุกคนลงในข้อความ
- กดปุ่ม Enter เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไขข้อความใน Chat ใหม่
- พิมพ์ข้อความแล้วกดปุ่ม Enter
แก้ไขข้อความที่โพสต์
หากต้องการแก้ไขข้อความล่าสุดที่คุณโพสต์ ให้กดปุ่มลูกศรขึ้นจากช่องแก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อโพสต์ซ้ำ หรือกดปุ่ม Escape เพื่อยกเลิกการเปลี่ยนแปลง
เปิดหรือปิดประวัติสําหรับข้อความส่วนตัว
หากผู้ดูแลระบบอนุญาต คุณสามารถเลือกที่จะบันทึกประวัติข้อความได้ คุณจะได้ยินว่าประวัติเปิดหรือปิดอยู่เมื่อโฟกัสอยู่ในช่องแก้ไขข้อความของการสนทนา
- ในพื้นที่นําทางด้านซ้าย ให้เลือกการสนทนาที่คุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าประวัติแล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Ctrl + g เพื่อเปิดเมนูการสนทนา
- กดปุ่มลูกศรลงไปที่ "ประวัติ" แล้วกดปุ่ม Spacebar หรือปุ่ม Enter เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าปัจจุบัน การตั้งค่าประวัติบางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
พื้นที่ทำงาน
พื้นที่ทํางานมีไว้สำหรับการสนทนาระยะยาวกับทีมหรือกลุ่มคน สถานะการเป็นสมาชิกของพื้นที่ทํางานอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากผู้คนเข้าร่วมหรือออกจากการสนทนา
พื้นที่ทํางานอาจมี 1 ระดับหรือ 2 ระดับก็ได้ โดยพื้นที่ทำงานที่ไม่มีหัวข้อจะมี 1 ระดับเหมือนการสนทนาใน Chat และโฟกัสเริ่มต้นจะอยู่ที่ช่องแก้ไขข้อความ พื้นที่ทํางานที่มีหัวข้อจะมี 2 ระดับ ระดับที่ 1 คือรายการหัวข้อในการสนทนา ระดับที่ 2 คือข้อความในหัวข้อ ซึ่งเมื่อเปิดพื้นที่ทำงาน โฟกัสจะอยู่ที่หัวข้อเก่าที่สุดที่ยังไม่อ่าน หากไม่มีหัวข้อที่ยังไม่อ่าน โฟกัสจะอยู่ที่หัวข้อล่าสุด
อ่านข้อความในพื้นที่ทำงาน
- หากโฟกัสอยู่ที่ช่องแก้ไข (โหมดแก้ไข) ให้กดปุ่ม Escape เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดการนําทาง
- กดปุ่ม h ตามด้วยปุ่ม r เพื่อย้ายไปยังส่วนพื้นที่ทํางานของพื้นที่นําทางด้านซ้าย
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงจนกว่าจะถึงพื้นที่ทํางานที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter คุณสามารถใช้ปุ่ม Shift + ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อย้ายไปยังพื้นที่ทํางานซึ่งมีเนื้อหาที่ยังไม่ได้อ่าน
- หากพื้นที่ทํางานไม่มีหัวข้อ โฟกัสจะย้ายไปที่ช่องแก้ไขข้อความ เช่น ข้อความแชท
- หากพื้นที่ทํางานมีหัวข้อ ให้กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อไปยังหัวข้ออื่นๆ
- กดปุ่มลูกศรขวาเพื่อเปิดหัวข้อ
- กดปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่ออ่านข้อความ
- กดปุ่มลูกศรซ้ายเพื่อกลับไปที่ระดับหัวข้อ
หากต้องการตรวจสอบข้อความล่าสุด แต่ให้โฟกัสไปที่ช่องแก้ไข ให้ทำดังนี้
- สําหรับ Windows: กดปุ่ม Alt + {ตัวเลข}
- สําหรับ ChromeOS: กดปุ่ม Alt + Shift + {ตัวเลข}
- สําหรับ MacOS: กดปุ่ม Option + {ตัวเลข}
- แทนที่ {ตัวเลข} ด้วย 1 ถึง 9 สําหรับ 9 ข้อความล่าสุด
ตอบกลับข้อความในพื้นที่ทำงาน
- กดแป้นพิมพ์ลัด r เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไข
- พิมพ์ข้อความแล้วกดปุ่ม Enter
- หากต้องการไปที่หัวข้ออื่น ให้กดปุ่ม Ctrl + j (⌘ + j ใน Mac) เพื่อเลื่อนไปที่หัวข้อสุดท้าย แล้วกดปุ่มลูกศรขึ้นเพื่อไปที่หัวข้อใหม่ หากต้องการตอบกลับหัวข้อนี้ ให้กดแป้นพิมพ์ลัด r เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ช่องแก้ไข
สร้างหัวข้อการสนทนาในพื้นที่ทำงาน
- ย้ายโฟกัสไปที่หัวข้อใดก็ได้
- กดปุ่ม Ctrl + s เพื่อเปิดช่องแก้ไขข้อความ
- พิมพ์ข้อความที่อธิบายหัวข้อใหม่ แล้วกดปุ่ม Enter
ข้อความของคุณจะกลายเป็นข้อความแรกในหัวข้อและชื่อหัวข้อ
เคล็ดลับ: คุณสามารถยืนยันว่าจะสร้างหัวข้อใหม่โดยตั้งชื่อตามช่องที่โฟกัสอยู่ ดังนี้
- หัวข้อใหม่จะมีชื่อว่า "ข้อความ" ตามด้วยชื่อพื้นที่ทำงาน
- การตอบกลับหัวข้อที่มีอยู่จะมีชื่อว่า "ตอบกลับ"
สร้างพื้นที่ทำงาน
- กดปุ่ม Ctrl + i เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ "สร้างพื้นที่ทํางาน"
- พิมพ์ "ชื่อพื้นที่ทำงาน" ที่จำเป็น
- หากต้องการสร้างพื้นที่ทํางานที่มีคุณเป็นสมาชิกเพียงคนเดียว ให้กดปุ่ม Enter
- หากต้องการตัวเลือกอื่นๆ ให้กดปุ่ม Tab เพื่อดําเนินการต่อไปนี้
- เพิ่มคําอธิบายพื้นที่ทํางาน
- เพิ่มบุคคลหรือกลุ่มไปยังพื้นที่ทำงาน
- ระบุว่าใครจะเข้าร่วมพื้นที่ทํางานใหม่ได้บ้าง
- ระบุว่าบุคคลที่อยู่นอกที่ทํางานหรือโรงเรียนจะเข้าร่วมพื้นที่ทํางานนี้ได้หรือไม่
- เปิดใช้งานปุ่มขั้นสูงเพื่อแสดงช่องทำเครื่องหมาย "จัดระเบียบการสนทนาตามหัวข้อ"
- เปิดใช้งานปุ่ม "ยกเลิก" หรือ "สร้าง"
เข้าร่วมพื้นที่ทำงานที่มีอยู่
- กดปุ่ม Ctrl + o
- พิมพ์ส่วนใดก็ได้ของชื่อ
- ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อเลื่อนดูรายการพื้นที่ทํางาน
- เมื่อพบแท็บที่ต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังช่องทําเครื่องหมาย "เข้าร่วมพื้นที่ทํางานแล้ว" จากนั้นกดปุ่ม Spacebar เพื่อทำเครื่องหมาย
- กดปุ่ม Enter เพื่อเข้าร่วมและเปิดพื้นที่ทํางานใหม่
เพิ่มบุคคลในพื้นที่ทำงาน
- เปิดพื้นที่ทำงานที่ต้องการอัปเดต
- กดปุ่ม Ctrl + g เพื่อเปิดเมนูพื้นที่ทํางาน
- กดปุ่มลูกศรลงเพื่อย้ายไปที่ "จัดการสมาชิก" แล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังปุ่ม "เพิ่ม" แล้วกดปุ่ม Enter
- พิมพ์ชื่อของคนที่ต้องการเพิ่ม ขณะที่คุณพิมพ์ คุณจะได้ยินเสียงชื่อแรกที่ตรงกับผลลัพธ์
- เลือกชื่อ
- หาก Chat อ่านออกเสียงชื่อที่ต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter
- หาก Chat ไม่พูดชื่อที่คุณต้องการ ให้กดปุ่มลูกศรลงจนกว่าจะได้ยินชื่อ แล้วกดปุ่ม Ctrl + Enter
- หากยังไม่ได้ยินชื่อของบุคคลดังกล่าว ให้พิมพ์ชื่อผู้ใช้ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Tab จนกว่าจะถึงปุ่ม "เพิ่ม" แล้วกดปุ่ม Enter
ไฟล์ในพื้นที่ทํางาน
คุณสามารถโพสต์ไฟล์ในพื้นที่ทํางานสำหรับการสนทนาหรือแชร์กับสมาชิกของพื้นที่ทํางานได้ เมื่อคุณเปิดพื้นที่ทํางาน โฟกัสจะย้ายไปยังช่องแก้ไขข้อความหรือจุดเริ่มต้นของหัวข้อล่าสุด จากช่องแก้ไข ให้กดปุ่ม Shift + Tab เพื่อย้ายโฟกัสไปที่ปุ่ม "เครื่องมือของ Google Workspace" ซึ่งคุณจะเพิ่มไฟล์ในไดรฟ์หรือคําเชิญในปฏิทินได้
หากต้องการดูไฟล์ที่คนอื่นโพสต์ ให้กดปุ่ม Ctrl + g เพื่อไปยังเมนูพื้นที่ทํางาน แล้วกดปุ่ม Tab หลายๆ ครั้งเพื่อไปยังแท็บ Chat กดปุ่มลูกศรขวาเพื่อไปยังแท็บไฟล์ แล้วกดปุ่ม Enter เมื่อคุณเปิดแท็บไฟล์ โฟกัสจะย้ายไปที่ปุ่ม "เพิ่มไฟล์" หากแชร์ไฟล์อยู่ คุณสามารถกดปุ่ม Tab ผ่านองค์ประกอบทั้ง 3 รายการของแต่ละไฟล์ได้ ดังนี้
- รายละเอียดไฟล์: ชื่อไฟล์ ผู้ที่โพสต์ เวลาที่โพสต์ กดปุ่ม Enter เพื่อเปิดไฟล์ในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่
- ตัวเลือกในการ "ย้ายภายในไดรฟ์" หรือ "เพิ่มทางลัดไปยังไดรฟ์"
- ตัวเลือก "ดูใน Chat" ซึ่งจะย้ายโฟกัสไปยังพื้นที่ที่เพิ่มไฟล์ เพื่อให้เห็นบริบท
แอป
สําคัญ: หากต้องการใช้แอปใน Google Chat คุณต้องใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน และผู้ดูแลระบบ Google Workspace ต้องให้สิทธิ์ในการติดตั้งแอป
แอปเป็นบัญชีพิเศษที่คุณแชทด้วยได้ เหมือนการแชทกับคน คุณสามารถเชื่อมต่อกับแอปได้ด้วยวิธีการสนทนา เพื่อค้นหาข้อมูล กําหนดเวลาการประชุม หรือทํางานอื่นๆ Google สร้างและดูแลรักษาแอปบางแอป เช่น แอป Google Meet และ Google ไดรฟ์ ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามจะสร้างและดูแลแอปอื่นๆ
ค้นหาแอป
- กดปุ่ม Ctrl + k เพื่อเปิดช่องตัวเลือกรวม "เพิ่มอย่างน้อย 1 คน"
- กดปุ่มลูกศรลงจนถึงตัวเลือก "ค้นหาแอป" แล้วกดปุ่ม Enter
- พิมพ์บางส่วนของชื่อหรือใช้ปุ่ม Tab และปุ่มลูกศรเพื่อสํารวจเนื้อหาที่เสนอ
- กดปุ่ม Enter ในแอปและสํารวจคําอธิบายในกล่องโต้ตอบ โฟกัสเริ่มต้นจะอยู่ที่ปุ่มเพื่อเพิ่มแอปไปยัง Chat
- กดปุ่ม Enter เพื่อเพิ่มแอปนี้ในชุดการสนทนาใน Chat
- หากต้องการเพิ่มแอปไปยังพื้นที่ทำงาน ให้ทำดังนี้
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังปุ่ม "เพิ่มไปยังพื้นที่ทํางาน"
- กดปุ่ม Enter เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ "ป้อนชื่อพื้นที่ทํางาน"
- พิมพ์บางส่วนของชื่อหรือกดปุ่มลูกศรลงเพื่อไปยังพื้นที่ทํางานที่ต้องการเพิ่มแอป
- หลังจากเปิดใช้งานปุ่มใดปุ่มหนึ่งแล้ว ระบบจะเพิ่มแอปและกล่องโต้ตอบจะปิดลง
เคล็ดลับ: นี่คือวิธีค้นหาแอปและเพิ่มแอปดังกล่าวไปยัง Chat หรือพื้นที่ทํางาน ส่วนถัดไปคือวิธีเพิ่มแอปไปยังพื้นที่ทํางานปัจจุบันโดยไม่มีขั้นตอนเพิ่มเติม
เพิ่มแอปไปยังพื้นที่ทํางาน
- เปิดพื้นที่ทำงานที่ต้องการอัปเดต
- กดปุ่ม Ctrl + g เพื่อเปิดเมนู
- กดปุ่มลูกศรลงจนถึง "แอปและการผสานรวม" แล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังปุ่ม "เพิ่มแอป" แล้วกดปุ่ม Enter
- พิมพ์ชื่อของแอปที่ต้องการเพิ่ม ขณะที่คุณพิมพ์ คุณจะได้ยินเสียงชื่อแรกที่ตรงกับผลลัพธ์
- เลือกชื่อ
- ถ้าได้ยินชื่อที่ต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Enter
- กดปุ่มลูกศรลงจนกว่าจะได้ยินชื่อที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter
- กดปุ่ม Tab จนกว่าจะถึงปุ่มเพิ่ม แล้วกดปุ่ม Enter
ส่งข้อความถึงแอปในพื้นที่ทำงาน
- เปิดพื้นที่ทํางานที่มีแอปดังกล่าว
- กดปุ่ม Ctrl + s เพื่อเปิดหัวข้อใหม่
- พิมพ์ "@appname" ตามด้วยข้อความของคุณ แทนที่ "appname" ด้วยชื่อแอป
- กดปุ่ม Enter แล้วรอให้ระบบตอบสนอง
ดูคำสั่งที่คุณใช้กับแอปได้
- พิมพ์คําว่า "help" ในข้อความส่วนตัวที่มีแอป
- ในพื้นที่ทำงาน ให้พิมพ์ "@appname help" แทนที่ "appname" ด้วยชื่อแอป
ค้นหา
วิธีค้นหาเนื้อหาภายใน Chat หรือพื้นที่ทำงาน
- กดปุ่มเครื่องหมายทับเมื่อไม่ได้อยู่ในโหมดแก้ไข
- พิมพ์ข้อความค้นหา จากนั้นผลลัพธ์ที่ตรงกันรายการแรกจะเป็นบุคคล กลุ่ม หรือพื้นที่ทํางาน
- กดปุ่มลูกศรขึ้นเพื่อข้ามไปยังตัวเลือกสุดท้ายสําหรับ "ผลการค้นหาเพิ่มเติม"
- กดปุ่ม Enter เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดที่มีข้อความค้นหาของคุณ ระบบจะแสดงผลลัพธ์ตามลําดับเวลา โดยผลลัพธ์ล่าสุดจะแสดงก่อน
- กดปุ่มลูกศรลงเพื่อไปยังข้อความที่มีข้อความค้นหาของคุณ
เคล็ดลับ: เปิดใช้งานผลการค้นหาเพื่อไปยังข้อความแชทหรือหัวข้อพื้นที่ทํางานที่มีผลการค้นหานั้น ใช้แป้นพิมพ์ลัด "ย้อนกลับ" ของเบราว์เซอร์เพื่อกลับไปยังผลการค้นหา ใช้แป้นพิมพ์ลัด "ย้อนกลับ" ของเบราว์เซอร์อีกครั้งเพื่อออกจากผลการค้นหา
เปลี่ยนการตั้งค่าการแจ้งเตือน
คุณสามารถเปลี่ยนวิธีรับการแจ้งเตือนจากแอป Chat หรือตามการสนทนาก็ได้ โปรดดูคำอธิบายตัวเลือกการสนทนาในหัวข้อตัวเลือกการเข้าถึงข้อความและพื้นที่ทำงานด้านล่าง
วิธีเปิดการตั้งค่าสำหรับแอป Chat
- กดปุ่ม Escape เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดการนําทาง
- กดปุ่มเครื่องหมายทับเพื่อย้ายโฟกัสไปยังช่อง "ค้นหาผู้คน พื้นที่ทํางาน และข้อความ"
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังปุ่มการตั้งค่า แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบการตั้งค่าที่มีตัวเลือกการแจ้งเตือน
- จากนั้นแก้ไขตามต้องการ แล้วกดปุ่ม Tab เพื่อไปที่ปุ่ม "เสร็จสิ้น" แล้วกดปุ่ม Enter
เข้าถึงตัวเลือกข้อความและพื้นที่ทำงาน
กดปุ่ม Ctrl + g เพื่อเปิดเมนูตัวเลือกสําหรับข้อความ Chat และพื้นที่ทํางาน ซึ่งเมนูจะมีตัวเลือกต่อไปนี้
- ดูสมาชิกหรือจัดการสมาชิก
- แอปและการผสานรวม
- ปักหมุดการสนทนาไปยัง Chat หรือพื้นที่ทำงาน
- ตัวเลือกการแจ้งเตือนสำหรับการสนทนานี้
- เปิด/ปิดประวัติ
- บล็อกการสนทนา
ใช้ฟีเจอร์ช่วยตอบ
สําหรับข้อความบางอย่างที่คุณได้รับ Chat จะให้คําแนะนําสำหรับการส่งคําตอบด่วน
ตรวจดูว่าฟีเจอร์ช่วยตอบเปิดอยู่หรือไม่
- เปิดการตั้งค่าตามที่อธิบายไว้ในส่วนก่อนหน้า
- กดปุ่ม Tab เพื่อไปยังช่องทําเครื่องหมาย "เปิดใช้ฟีเจอร์ช่วยตอบบนเว็บและเดสก์ท็อป"
- กดปุ่ม Spacebar เพื่อเปิดหรือปิด
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง