ควบคุมการแจ้งเตือนใน Android

คุณเปลี่ยนการตั้งค่าของบางแอปหรือของโทรศัพท์ทั้งเครื่องได้ โดยขึ้นอยู่กับการแจ้งเตือนที่คุณต้องการ การแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเลื่อนนิ้วลงจากด้านบนของหน้าจอ การแจ้งเตือนบางอย่างจะแสดงในหน้าจอล็อกและหน้าจอหลักได้ด้วย

สำคัญ

• ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้กับ Android 10 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
• คุณจำเป็นต้องแตะหน้าจอในบางขั้นตอน

จัดการการแจ้งเตือนในโทรศัพท์

ประวัติการแจ้งเตือน

สำคัญ: อุปกรณ์บางเครื่องอาจไม่มีประวัติการแจ้งเตือนและการตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามแต่ละอุปกรณ์ หากต้องการตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีประวัติการแจ้งเตือนหรือไม่ ให้ไปที่ "การตั้งค่า" จากนั้นไปที่ "การแจ้งเตือน"

คุณสามารถใช้ประวัติการแจ้งเตือนเพื่อค้นหาข้อมูลต่อไปนี้

• การแจ้งเตือนที่มีการเลื่อนการแจ้งเตือน
• การแจ้งเตือนที่ปิดล่าสุด
• ประวัติการแจ้งเตือนของวัน

นอกจากนี้ คุณยังใช้ประวัติการแจ้งเตือนเพื่อจัดการการแจ้งเตือนของคุณได้ด้วย หากต้องการจัดการการแจ้งเตือน ให้แตะการแจ้งเตือนใน "ที่ปิดล่าสุด" ค้างไว้ หรือแตะการแจ้งเตือนใน "24 ชั่วโมงที่ผ่านมา"

เคล็ดลับ: หากปิดการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อกทีละรายการไม่ได้ ให้ปลดล็อกอุปกรณ์แล้วจึงปิดการแจ้งเตือน

ล้างการแจ้งเตือน

• หากต้องการล้างการแจ้งเตือนรายการเดียว ให้เลื่อนไปทางซ้ายหรือขวา
• หากต้องการล้างการแจ้งเตือนทั้งหมด ให้เลื่อนไปที่ด้านล่างของการแจ้งเตือน แล้วแตะล้างทั้งหมด
• หากต้องการล้างการแจ้งเตือนแบบไม่มีเสียงทั้งหมด ให้แตะปิด ข้าง "การแจ้งเตือนแบบไม่มีเสียง"

เคล็ดลับ:

• คุณล้างการแจ้งเตือนบางอย่างได้เฉพาะเวลาที่ทำงานเสร็จแล้วเท่านั้น เช่น คุณจะล้างการแจ้งเตือนของโปรแกรมเล่นเพลงได้เมื่อคุณหยุดเล่นเพลงแล้ว
• หากปิดการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อกหรือผ่านตัวเลือก "ล้างทั้งหมด" ไม่ได้ ให้ปิดการแจ้งเตือนทีละรายการ

เลื่อนการแจ้งเตือน

เปิดการเลื่อนการแจ้งเตือน

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
2. แตะการแจ้งเตือน
3. เปิดอนุญาตการเลื่อนการแจ้งเตือน

เลื่อนการแจ้งเตือน 

หากต้องการปิดการแจ้งเตือนชั่วคราว ให้แตะลูกศรลง แล้วแตะปิดการแจ้งเตือนชั่วคราว หากต้องการเปลี่ยนช่วงเวลาที่จะปิดการแจ้งเตือนชั่วคราว ให้แตะลูกศรลง

ขยาย ตอบ หรือเก็บ

วิธีขยายการแจ้งเตือน

1. แตะลูกศรลง
2. หากต้องการดำเนินการจากการแจ้งเตือนโดยตรง ให้แตะการดำเนินการที่ต้องการ เช่น ตอบหรือเก็บ

ควบคุมการแจ้งเตือนการส่งข้อมูลเตือนภัยฉุกเฉิน

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณเปิดหรือปิดประเภทการแจ้งเตือน ดูการแจ้งเตือนที่ผ่านมา รวมทั้งควบคุมเสียงและการสั่นได้

1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. แตะการแจ้งเตือน การแจ้งเหตุฉุกเฉินแบบไร้สาย
3. เลือกความถี่ที่ต้องการรับการแจ้งเตือนและการตั้งค่าที่ต้องการเปิด

คุณใช้การตั้งค่านี้เพื่อจัดการข้อความฉุกเฉินบางกรณีได้ เช่น คำเตือนภัยพิบัติ การแจ้งเตือนภัยคุกคาม และการแจ้งเตือนเด็กหาย Amber Alert

เปลี่ยนการตั้งค่าการแจ้งเตือน

ลดจำนวนการแจ้งเตือน

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
2. แตะการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนในหน้าจอล็อก
   • เลือกค่าเริ่มต้นสำหรับการแจ้งเตือนดังนี้
     • แสดงการสนทนา ค่าเริ่มต้น และการแจ้งเตือนที่ปิดเสียง
     • ซ่อนการสนทนาและการแจ้งเตือนที่ปิดเสียง
     • ไม่ต้องแสดงการแจ้งเตือนใดๆ
   • หากต้องการอัปเดตค่ากําหนดการแจ้งเตือนอื่นๆ เพิ่มเติม ให้เปิดหรือปิดการแจ้งเตือนในส่วน "ทั่วไป" ดังนี้
     • ซ่อนการแจ้งเตือนที่ปิดเสียงในแถบสถานะ
     • อนุญาตให้ใช้เลื่อนการแจ้งเตือน
     • เครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือนบนไอคอนแอป
     • การแจ้งเตือนที่เพิ่มประสิทธิภาพ

เปิดหรือปิดการแจ้งเตือนสำหรับบางแอป

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวเลือกที่ 1: ในแอปการตั้งค่า

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
2. แตะการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนของแอป
3. หาแอปที่ส่งการแจ้งเตือนล่าสุดให้คุณในส่วน "ล่าสุด"
   • หากต้องการดูแอปเพิ่มเติม ให้แตะแอปทั้งหมดในเมนูแบบเลื่อนลง
4. แตะแอป
5. เปิดหรือปิดการแจ้งเตือนของแอป
   • คุณสามารถปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดสำหรับแอปที่อยู่ในรายการหรือจะเลือกจากหมวดหมู่ที่เจาะจงก็ได้

เคล็ดลับ: ถ้าไม่เห็น "ส่งล่าสุด" แสดงว่าคุณใช้ Android เวอร์ชันเก่า ให้แตะการแจ้งเตือนของแอป แล้วแตะแอป คุณจะเปิดหรือปิดการแจ้งเตือน เครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือน และหมวดหมู่การแจ้งเตือนได้ หากแอปมีหมวดหมู่ คุณก็แตะหมวดหมู่เพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติมได้

ตัวเลือกที่ 2: ในการแจ้งเตือน

1. หากต้องการค้นหาการแจ้งเตือน ให้ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ
2. แตะการแจ้งเตือนค้างไว้ จากนั้นแตะการตั้งค่า
3. เลือกการตั้งค่าดังนี้
   • หากต้องการปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด ให้ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด
   • เปิดหรือปิดการแจ้งเตือนที่ต้องการหรือไม่ต้องการรับ
   • หากต้องการอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือน ให้เปิดอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือน

ตัวเลือกที่ 3: ในบางแอป

คุณควบคุมการแจ้งเตือนต่างๆ ของแอปได้จากเมนูการตั้งค่าในแอป เช่น แอปอาจมีการตั้งค่าให้เลือกเสียงสำหรับการแจ้งเตือนของแอป หากต้องการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ให้เปิดแอปแล้วค้นหาเมนูการตั้งค่า 

เปิดหรือปิดเครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือน

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
2. แตะการแจ้งเตือน
3. เปิดหรือปิดเครื่องหมายจุดแสดงการแจ้งเตือนในไอคอนแอป

เลือกว่าจะให้การแจ้งเตือนส่งเสียงหรือไม่ส่งเสียง

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ในอุปกรณ์ Android บางรุ่น คุณจะเลือกประเภทการแจ้งเตือนที่แอปส่งให้คุณได้

• แจ้งเตือน: คุณจะได้ยินเสียง ได้รับข้อความในหน้าจอล็อก และเห็นไอคอนของแอปในแถบสถานะ
• ไม่มีเสียง: โทรศัพท์จะไม่ส่งเสียงหรือสั่น แต่การแจ้งเตือนจะแสดงขึ้นเมื่อคุณเลื่อนลงจากด้านบนของหน้าจอ

ตัวเลือกที่ 1: ในแอปการตั้งค่า

1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. แตะแอปและการแจ้งเตือน   การแจ้งเตือน
3. แตะแอปที่ต้องการในส่วน "ส่งล่าสุด" 
4. แตะประเภทการแจ้งเตือน
5. เลือกตัวเลือกที่ต้องการดังต่อไปนี้
   • เลือกแจ้งเตือนหรือไม่มีเสียง
   • หากต้องการดูแบนเนอร์ของการแจ้งเตือนที่เป็นคำเตือนเมื่อโทรศัพท์ปลดล็อกอยู่ ให้เปิดแสดงบนหน้าจอ
   • หากเลือก “ไม่มีเสียง” คุณจะเปิดหรือปิดย่อเล็กสุดได้

ตัวเลือกที่ 2: ในการแจ้งเตือน 

1. หลังจากเลื่อนนิ้วลงจากด้านบนของหน้าจอ ให้ลากการแจ้งเตือนไปทางซ้ายหรือขวาเล็กน้อย แล้วแตะ "การตั้งค่า"
2. แตะการแจ้งเตือนหรือไม่มีเสียง นำไปใช้  

ควบคุมวิธีแสดงการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อกของโทรศัพท์

ตัวเลือกที่ 1: ไม่แสดงการแจ้งเตือน

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. แตะแอปและการแจ้งเตือน  การแจ้งเตือน
3. ในส่วน "หน้าจอล็อก" ให้แตะการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อกหรือในหน้าจอล็อก
4. เลือกไม่แสดงการแจ้งเตือน

สำคัญ: หากคุณเลือกตัวเลือกนี้เป็นค่าเริ่มต้น การตั้งค่าจะใช้กับแอปทั้งหมด หากต้องการบล็อกการแจ้งเตือนจากบางแอปเท่านั้น โปรดดูวิธีเปลี่ยนการแจ้งเตือนของแต่ละแอป

ตัวเลือกที่ 2: แสดงการแจ้งเตือนทั้งหมด

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. แตะแอปและการแจ้งเตือน  การแจ้งเตือน
3. ในส่วน "หน้าจอล็อก" ให้แตะการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อกหรือในหน้าจอล็อก
4. เลือกแสดงการแจ้งเตือนที่เป็นคำเตือนและการแจ้งเตือนแบบไม่มีเสียง
   • ในโทรศัพท์บางรุ่น ให้เลือกแสดงเนื้อหาการแจ้งเตือนทั้งหมด

เคล็ดลับ: หากเลือกตัวเลือกนี้เป็นค่าเริ่มต้น คุณจะยังจำกัดการแจ้งเตือนของบางแอปในหน้าจอล็อกได้ โดยกำหนดให้บางแอป "ซ่อนเนื้อหาการแจ้งเตือนที่ละเอียดอ่อน" หรือ "ไม่แสดงการแจ้งเตือนเลย" ในหน้าจอล็อก ดูวิธีเปลี่ยนการแจ้งเตือนของแต่ละแอป 

ตัวเลือกที่ 3: แสดงการแจ้งเตือนที่สำคัญเท่านั้น

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
2. แตะการแจ้งเตือน
3. ในส่วน "ความเป็นส่วนตัว" ให้เปิดหรือปิดการแจ้งเตือนที่มีความละเอียดอ่อน

ตัวเลือกที่ 4: ซ่อนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนจากการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อก

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
2. แตะแอปและการแจ้งเตือน  การแจ้งเตือน 
3. ในส่วน "หน้าจอล็อก" ให้ปิดการแจ้งเตือนที่ละเอียดอ่อน

เคล็ดลับ: หากปิดตัวเลือกนี้ คุณจะยังจำกัดให้บางแอป "ไม่แสดงการแจ้งเตือน" ในหน้าจอล็อกได้ ดูวิธีเปลี่ยนการแจ้งเตือนของแต่ละแอป

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

• ดูวิธีใช้การปิดล็อก
• เปลี่ยนการตั้งค่าระดับเสียง เสียง และการสั่น
• ปิดเสียงโทรศัพท์โดยใช้โหมดห้ามรบกวน
• ค้นหาแชทและข้อความอย่างรวดเร็ว