เพิ่มความเร็วให้อุปกรณ์ Android ที่ช้า

ลองทำตามขั้นตอนต่างๆ ในหน้านี้ หากโทรศัพท์ของคุณมีปัญหาดังนี้

  • ทำงานช้ามาก
  • มีการหน่วงเวลา
  • ใช้เวลาในการตอบสนองนาน

หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้รีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่อดูว่าแก้ปัญหาได้ไหม

สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android 8.0 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android

แก้ปัญหาการเชื่อมต่อช้า

  1. ตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่ายและการเชื่อมต่อ ดูวิธีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  2. หากยังคงประสบปัญหาในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ให้ติดต่อผู้ดูแลเครือข่าย, ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หรือผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ

แก้ปัญหาโทรศัพท์ทำงานช้า

รีสตาร์ทโทรศัพท์
  1. ในโทรศัพท์ส่วนใหญ่ ให้กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีจนกว่าโทรศัพท์จะรีสตาร์ท
  2.  คุณอาจต้องแตะ "รีสตาร์ท" รีสตาร์ท ในหน้าจอ
ตรวจหาอัปเดต Android

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
  2. ที่บริเวณด้านล่าง ให้แตะระบบ จากนั้น การอัปเดตซอฟต์แวร์
    • อาจต้องแตะเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือเกี่ยวกับแท็บเล็ตก่อน
  3. ทำตามขั้นตอนเมื่อสถานะการอัปเดตปรากฏบนหน้าจอ
ตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูลและเพิ่มพื้นที่ว่าง
ในโทรศัพท์ส่วนใหญ่ คุณจะตรวจสอบปริมาณพื้นที่เก็บข้อมูลที่เหลืออยู่ได้ในแอปการตั้งค่า แต่การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์อาจเริ่มมีปัญหาเมื่อพื้นที่เก็บข้อมูลเหลือไม่ถึง 10% หากคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลเหลือน้อย โปรดดูวิธีเพิ่มพื้นที่ว่าง

แก้ปัญหาแอปในโทรศัพท์ทำงานช้า

ตรวจหาอัปเดตแอป

ตรวจสอบว่ามีการอัปเดตสำหรับแอปกล้องหรือไม่ โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Play Store Google Play
  2. แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
  3. แตะจัดการแอปและอุปกรณ์
  4. ในส่วน "มีการอัปเดต" ให้ติดตั้งอัปเดตที่พร้อมใช้งานสำหรับกล้อง Pixel

ตรวจสอบว่ามีการอัปเดตระบบ Android หรือไม่ โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
  2. แตะระบบ
  3. แตะการอัปเดตซอฟต์แวร์
  4. แตะการอัปเดตระบบ
  5. แตะตรวจหาการอัปเดต
ปิดแอปที่คุณไม่ใช้
โดยปกติแล้ว คุณบังคับให้แอปหยุดโดยใช้แอปการตั้งค่าของโทรศัพท์ได้ แต่การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

เคล็ดลับ: จดรายชื่อแอปที่คุณบังคับให้หยุด ซึ่งจะช่วยให้ระบุได้ว่าแอปใดก่อให้เกิดปัญหา

ดูว่าแอปทำให้เกิดปัญหาหรือไม่

รีสตาร์ทในโหมดปลอดภัย

สำคัญ: โหมดปลอดภัยจะปิดแอปทั้งหมดที่ดาวน์โหลดมาไว้ชั่วคราว

การรีสตาร์ทในโหมดปลอดภัยจะแตกต่างกันไปในโทรศัพท์แต่ละรุ่น หากต้องการดูวิธีรีสตาร์ทโทรศัพท์ในโหมดปลอดภัย ให้ไปที่เว็บไซต์การสนับสนุนของผู้ผลิต

ตรวจดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วหรือไม่

ตรวจสอบดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่ หากไม่มีปัญหาแล้ว แสดงว่าแอปใดแอปหนึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหา ไปที่ขั้นตอนต่อไป หากปัญหายังคงอยู่ ให้ข้ามไปที่การแก้ปัญหาขั้นสูง

รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติและตรวจสอบแอป

  1. รีสตาร์ทโทรศัพท์
  2. นำแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุดออกทีละแอป ดูวิธีลบแอป
  3. หลังจากที่นำแอปออกในแต่ละครั้ง ให้รีสตาร์ทโทรศัพท์ตามปกติ ดูว่าการนำแอปนั้นออกช่วยแก้ปัญหาหรือไม่
  4. หลังจากนำแอปที่ก่อให้เกิดปัญหาออกไปแล้ว คุณเพิ่มแอปอื่นๆ ที่นำออกไปกลับเข้ามาใหม่ได้ ดูวิธีติดตั้งแอปอีกครั้ง

การแก้ปัญหาขั้นสูง

ลองรีเซ็ตโทรศัพท์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น
สำคัญ: การรีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้นจะนำข้อมูลทั้งหมดออกจากโทรศัพท์ คุณคืนค่าข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบัญชี Google ได้ แต่ระบบจะถอนการติดตั้งแอปทั้งหมดรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องของแอป ก่อนรีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น ให้สำรองข้อมูลในโทรศัพท์ก่อน

เคล็ดลับ

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2956847827620556407
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false