ดูข้อมูลคุณภาพเซสชัน
วิธีเปิดรายงานคุณภาพเซสชัน
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- ไปที่ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- เปิดรายงาน
- เลือกกลุ่มเป้าหมาย > พฤติกรรม > คุณภาพเซสชัน
ข้อมูลคุณภาพเซสชันจะล่าช้าไป 24 ชั่วโมง โดยรายงานนี้ต้องอาศัยการประมวลผลที่สมบูรณ์ของตารางรวมรายวัน
พร็อพเพอร์ตี้ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับข้อมูลเพื่อให้รายงานแสดงขึ้นในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับพร็อพเพอร์ตี้นั้น
ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานรายการใดมีรายงาน
ถ้าพร็อพเพอร์ตี้มีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้น้อยกว่า 15 รายการ รายงานจะแสดงขึ้นในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมด
ถ้าพร็อพเพอร์ตี้มีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ 15 รายการขึ้นไป รายงานจะแสดงขึ้นในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เริ่มต้น (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เริ่มต้น)
หากมีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นอกเหนือจากข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เริ่มต้นที่ลิงก์กับ BigQuery รายงานจะแสดงขึ้นในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ดังกล่าวด้วย
เกี่ยวกับคุณภาพเซสชัน
Analytics ใช้แมชชีนเลิร์นนิงที่คล้ายกับในสมาร์ทลิสต์และเป้าหมายสมาร์ทในการคำนวณมิติข้อมูลคุณภาพเซสชันและเมตริกคุณภาพเซสชันโดยเฉลี่ยเพื่อประมาณความใกล้เคียงที่ผู้ใช้จะทำ Conversion ระบบจะประเมินการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในแต่ละเซสชัน และแสดงผลความใกล้เคียงที่จะเกิด Conversion เป็นคะแนน 1-100 ในแต่ละเซสชันในระหว่างช่วงวันที่นั้นๆ โดย 1 หมายถึงระยะห่างที่ไกลที่สุด ขณะที่ 100 หมายถึงระยะห่างที่ใกล้ที่สุดที่จะเกิดธุรกรรม ค่า 0 หมายความว่าไม่มีการคำนวณเมตริกในช่วงเวลาที่เลือก
คุณภาพเซสชันจะคำนวณสำหรับเซสชันแต่ละรายการ
คุณภาพเซสชันโดยเฉลี่ยจะคำนวณสำหรับเซสชันทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมิติข้อมูลในช่วงวันที่ที่คุณใช้อยู่ ตัวอย่างเช่น
- คะแนนของเซสชันทั้งหมดโดยที่ Source = google ในระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม
- คะแนนของเซสชันทั้งหมดโดยที่ Country = India ในระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม
มิติข้อมูลคุณภาพเซสชันจะแสดงในรายงานคุณภาพเซสชัน รวมทั้งในกลุ่ม กลุ่มเป้าหมายรีมาร์เก็ตติ้ง และรายงานที่กำหนดเองของ Analytics
เมตริกคุณภาพเซสชันโดยเฉลี่ยจะแสดงในรายงานคุณภาพเซสชัน และในรายงานที่กำหนดเอง
ข้อกำหนดเบื้องต้น
Analytics ต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้เพื่อคำนวณมิติข้อมูลและเมตริก
- ธุรกรรมอีคอมเมิร์ซขั้นต่ำ 1,000 รายการต่อเดือน คุณต้องใช้การติดตามอีคอมเมิร์ซ
- เมื่อคุณมีธุรกรรมอีคอมเมิร์ซถึงเกณฑ์เริ่มต้น 1,000 รายการแล้ว Analytics จะต้องใช้ข้อมูลเป็นเวลา 30 วันเพื่อสร้างแบบจำลอง
รายงานคุณภาพเซสชัน
รายงานคุณภาพเซสชันช่วยให้เห็นข้อมูลต่อไปนี้
- การกระจายของเซสชันที่มีและไม่มีธุรกรรม ในที่เก็บข้อมูลคุณภาพเซสชัน (ฮิสโตแกรม) ทั้ง 5 รายการ
- เมตริกการกระทำ พฤติกรรม และ Conversion สำหรับเซสชันในมิติข้อมูลของการจัดกลุ่มแชแนลเริ่มต้น แหล่งที่มา และสื่อ (ตาราง)
การใช้ข้อมูลคุณภาพเซสชัน
กลุ่ม
กลุ่มช่วยให้คุณสามารถดูที่ข้อมูลใดก็ได้ในบริบทของเกณฑ์คุณภาพเซสชัน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างกลุ่มสำหรับคุณภาพเซสชันที่มากกว่า 75 และตรวจสอบสิ่งต่างๆ เช่น
- ผู้ใช้ที่แสดงแนวโน้มสูงที่จะทำ Conversion เป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับฐานผู้ใช้โดยรวม พวกเขาเป็นส่วนน้อยของผู้ใช้ทั้งหมดของคุณ หรือการโฆษณาและไซต์ของคุณรวมกันเพื่อดึงดูดเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้จำนวนมากหรือไม่
- คีย์เวิร์ดและแคมเปญรายการใดทำให้เกิดผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมสูง
- เส้นทาง Conversion ใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด และจุดใดในระหว่างเส้นทางที่คุณสามารถนำเสนอการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ในทางกลับกัน คุณสามารถใช้เกณฑ์ที่ต่ำเพื่อตรวจสอบผู้ใช้ในฝั่งตรงกันข้ามได้
- ผู้ใช้ที่มีเซสชันคุณภาพต่ำมีจำนวนคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
- คีย์เวิร์ดและแคมเปญที่ดึงดูดผู้ใช้ที่มีเซสชันคุณภาพต่ำแตกต่างจากที่ดึงดูดผู้ใช้ที่มีคุณค่ามากกว่าหรือไม่ หากใช่ ควรลดงบประมาณของคีย์เวิร์ดและแคมเปญดังกล่าวหรือไม่
- เส้นทาง Conversion ใดที่ผู้ใช้ที่มีคะแนนต่ำติดตาม มีโอกาสนำเสนอการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระหว่างเส้นทางเหล่านั้นหรือไม่
กลุ่มเป้าหมายรีมาร์เก็ตติ้ง
มีแนวโน้มที่จะโน้มน้าวผู้ใช้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะทำ Conversion ให้ทำ Conversion เหล่านั้นให้เสร็จได้ง่ายกว่า ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ที่ได้ศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์หรือเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้งมีแนวโน้มสูงว่าจะได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นแล้ว การติดตามเชิงชักชวนจากคุณผ่านทางแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งที่สร้างขึ้นอย่างดีอาจให้แรงกระตุ้นสุดท้ายที่จำเป็นเพื่อทำให้ผู้ใช้ดำเนินการจนเสร็จได้
การสร้างกลุ่มเป้าหมายรีมาร์เก็ตติ้งตามผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมสูง และเผยแพร่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นไปยังแพลตฟอร์มการตลาดต่างๆ เช่น Google Ads และ Display & Video 360 ช่วยให้คุณดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้กลับมาอีกครั้งในทุกๆ ที่ที่คุณแสดงตัวตนทางออนไลน์
และคุณยังเผยแพร่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ไปยัง Optimize ได้ เพื่อทำความเข้าใจที่แท้จริงว่าการปรับแต่งเนื้อหาเว็บไซต์ส่วนใดทำให้เกิดแนวโน้มที่จะทำ Conversion สูงที่สุด