เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำและชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ (Universal Analytics)

บทความนี้ประกอบด้วย

• เกี่ยวกับเมตริกเหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ
• เกี่ยวกับเมตริกชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ
• การใช้เมตริกแบบต่างๆ ในการรายงาน

 

เกี่ยวกับเมตริกเหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ

เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำเป็นการโต้ตอบกับเนื้อหาโดยผู้ใช้รายเดียวภายในเซสชันเดียว ซึ่งสามารถติดตามแยกจากการดูหน้าเว็บหรือการดูหน้าจอได้ ตัวอย่างการโต้ตอบที่คุณอาจต้องการติดตามเป็นเหตุการณ์ ได้แก่ การดาวน์โหลด การคลิกโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การเล่นวิดีโอ การโต้ตอบกับแกดเจ็ต องค์ประกอบ Flash และองค์ประกอบ AJAX ที่ฝังไว้

Analytics จะนับเมตริก "เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ" เพิ่ม 1 หน่วยเฉพาะครั้งแรกภายในเซสชันที่ได้รับเหตุการณ์ซึ่งมีชุดค่าผสมที่ไม่ซ้ำของหมวดหมู่/การกระทำ/ป้ายกำกับ และจะไม่นับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาในเซสชันนั้นซึ่งมีชุดค่าผสมของหมวดหมู่/การกระทำ/ป้ายกำกับเดียวกัน

ขณะที่เมตริก "เหตุการณ์ทั้งหมด" จะนับทุกเหตุการณ์โดยไม่สนใจชุดค่าผสมของหมวดหมู่/การกระทำ/ป้ายกำกับ

ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้คลิกปุ่มเล่นวิดีโอเดิม 5 ครั้งภายในเซสชันเดียวกัน

• เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ = 1
• เหตุการณ์ทั้งหมด = 5

ตารางต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นว่าระบบนับข้อมูลเหตุการณ์ภายในเซสชันต่างๆ อย่างไรสำหรับชุดค่าผสมของหมวดหมู่/การกระทำ/ป้ายกำกับของวิดีโอรายการหนึ่ง วิดีโอเพลเยอร์ได้รับการติดแท็กด้วยการกระทำเล่น หยุดชั่วคราว และหยุด

หมวดหมู่/การกระทำ/ป้ายกำกับ	เซสชัน/เหตุการณ์	ยอดรวมเมตริก
วิดีโอ/เล่น/วิดีโอ ก	10 เซสชัน 22 คลิก	เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ: 10 เหตุการณ์ทั้งหมด: 22
วิดีโอ/หยุดชั่วคราว/วิดีโอ ก	8 เซสชัน 16 คลิก	เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ: 8 เหตุการณ์ทั้งหมด: 16
วิดีโอ/หยุด/วิดีโอ ก	3 เซสชัน 4 คลิก	เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ: 3 เหตุการณ์ทั้งหมด: 4
		เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ: 21 เหตุการณ์ทั้งหมด: 42

เกี่ยวกับเมตริกชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ

เมตริก "ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ" จะนับจำนวนชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำสำหรับแต่ละมิติข้อมูลในรายงาน เมตริกนี้เป็นเหมือนการประมวลผลมิติข้อมูลแบบผสม (ต่อกัน) ภายหลังจากได้ข้อมูลชุดแรกแล้ว ซึ่งทำให้การรายงานยืดหยุ่นขึ้นโดยไม่ต้องอัปเดตโค้ดติดตามหรือใช้ช่องมิติข้อมูลที่กำหนดเองเพิ่มเติมเลย

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีมิติข้อมูลภูมิภาค ภาษา และข้อมูลอุปกรณ์เคลื่อนที่ในรายงาน และรวมชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำให้เป็นเมตริกหนึ่ง Analytics จะนับจำนวนครั้งที่พบชุดค่าผสมของมิติข้อมูลเดียวกันนั้นสำหรับแต่ละแถวในรายงาน (ตัวอย่างเช่น Analytics จะนับจำนวนชุดค่าผสมที่ไม่ซ้ำของ "ประเทศไทย + th-TH + Google Nexus 5X")

การเข้าใจว่าชุดค่าผสมของมิติข้อมูลหนึ่งๆ เกิดขึ้นบ่อยเพียงใดเมื่อเทียบกับมิติข้อมูลเดี่ยวจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น หากคุณทำการตลาดรถยนต์ด้วยตัวเลือกสีและชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะที่ต่างกันซึ่งผู้ใช้เลือกได้ในเว็บไซต์ของคุณ การเข้าใจว่าชุดค่าผสมใดที่ผู้ใช้นิยมเลือกมากที่สุดจะช่วยให้คุณกำหนดออเดอร์รถยนต์ที่ต้องสั่งล่วงหน้าและย่นเวลาส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์มิติข้อมูลแบบแยกกับแบบผสม

หากดูค่าแต่ละค่าในมิติข้อมูล "สี" แน่นอนว่าคุณควรโปรโมตสีแดงมากที่สุด

สี	เซสชัน
แดง	100
น้ำเงิน	75
ดำ	75

 

หากดูค่าแต่ละค่าในมิติข้อมูล "ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ" คุณก็คงโปรโมตตัวเลือกคอมฟอร์ต

ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ	เซสชัน
คอมฟอร์ต	100
สปอร์ต	75
แทร็ก	75

 

แต่หากเพิ่มเมตริก "ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ" คุณอาจพบข้อมูลที่ต่างออกไป นั่นคือผู้ใช้เลือกสีน้ำเงินและชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะแทร็กร่วมกันมากที่สุด

สี	ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ	ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ
น้ำเงิน	แทร็ก	75
แดง	คอมฟอร์ต	50
แดง	สปอร์ต	50
ดำ	คอมฟอร์ต	50
ดำ	สปอร์ต	25

 

ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณมีโอกาสตั้งค่าวิดเจ็ตตัวเลือกรถยนต์ให้แสดงสีน้ำเงินกับชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะแทร็กเป็นค่าเริ่มต้น และทำให้คุณส่งมอบรถยนต์ในชุดค่าผสมดังกล่าวถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

การใช้เมตริกแบบต่างๆ ในการรายงาน

เมตริกที่ใช้ได้ใน Analytics

โดยค่าเริ่มต้น เมตริก "เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ" จะใช้ได้ในรายงานมาตรฐานทั้งหมด

"ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ" สามารถใช้เป็นเมตริกเสริมในรายงานมาตรฐานทั้งหมด

ท้้งสองเมตริกสามารถใช้ได้ในรายงานที่กำหนดเอง

เมื่อใดที่ควรใช้เมตริกแต่ละแบบ

ใช้ "เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ" เมื่อต้องการเน้นการวิเคราะห์เหตุการณ์ เมตริกนี้จะตัดข้อมูลเหตุการณ์ที่ซ้ำกันออกในชุดค่าผสมของหมวดหมู่ การกระทำ และป้ายกำกับในเซสชันเดียวกัน โดยไม่สนว่าคุณจะติดแท็กเหตุการณ์ไว้อย่างไร ดังนั้นการรายงานและวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำจึงได้ผลลัพธ์ที่ตรงไปตรงมา

ใช้ "ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ" เมื่อคุณต้องการเน้นข้อมูลที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ แต่เน้นที่ผลลัพธ์ของพฤติกรรมผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำ คุณสามารถใช้เมตริกนี้กับชุดค่าผสมของมิติข้อมูลแบบใดก็ได้ ตลอดจนวิเคราะห์ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไป คุณไม่น่าจะต้องใช้เมตริกหลายแบบร่วมกันในรายงานเดียวกัน แต่ตัวอย่างต่อไปนี้จะชี้ให้เห็นว่าแต่ละเมตริกทำงานต่างกันอย่างไรเมื่อนับข้อมูลเดียวกัน รายงานที่กำหนดเองในตัวอย่างใช้เมตริกมิติข้อมูลต่อไปนี้

• มิติข้อมูล: หน้าเว็บ หมวดหมู่เหตุการณ์ การกระทำของเหตุการณ์ ป้ายกำกับเหตุการณ์
• เมตริก: เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ

มิติข้อมูลและเมตริกจะติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ต่อไปนี้

• เซสชัน 1
  • หน้าการแสดงผล: ผลิตภัณฑ์_ก.html
    • เหตุการณ์เริ่มทำงาน
      • หมวดหมู่: กิจกรรมการซื้อ
      • การกระทำ: เพิ่มในรถเข็นช็อปปิ้ง
      • ป้ายกำกับ: ไซส์ M
  • หน้าการแสดงผล: ผลิตภัณฑ์_ก.html
    • เหตุการณ์เริ่มทำงาน
      • หมวดหมู่: กิจกรรมการซื้อ
      • การกระทำ: เพิ่มในรถเข็นช็อปปิ้ง
      • ป้ายกำกับ: ไซส์ L
• เซสชัน 2
  • หน้าการแสดงผล: ผลิตภัณฑ์_ข.html
    • เหตุการณ์เริ่มทำงาน
      • หมวดหมู่: กิจกรรมการท่องเว็บ
      • การกระทำ: เพิ่มในรายการของที่อยากได้
      • ป้ายกำกับ: ไซส์ L

 

ข้อมูลที่ได้เมื่อรวมมิติข้อมูลทั้งหมด

หน้าเว็บ	หมวดหมู่เหตุการณ์	การกระทำของเหตุการณ์	ป้ายกำกับเหตุการณ์	เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ	ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ
ผลิตภัณฑ์_ก	กิจกรรมการซื้อ	เพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง	ไซส์ M	1	1
ผลิตภัณฑ์_ก	กิจกรรมการซื้อ	เพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง	ไซส์ L	1	1
ผลิตภัณฑ์_ข	กิจกรรมการท่องเว็บ	เพิ่มในรายการของที่อยากได้	ไซส์ L	1	1
รวม				3	3

 

ข้อมูลที่ได้เมื่อมีการตัดมิติข้อมูลหนึ่งออก (ป้ายกำกับเหตุการณ์)

หน้าเว็บ	หมวดหมู่เหตุการณ์	การกระทำของเหตุการณ์	เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ	ชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำ
ผลิตภัณฑ์_ก	กิจกรรมการซื้อ	เพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง	2	1
ผลิตภัณฑ์_ข	กิจกรรมการท่องเว็บ	เพิ่มในรายการของที่อยากได้	1	1
รวม			3	2

 

เห็นได้ว่าจำนวน "เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ" เท่ากันในรายงานทั้งสอง (3) เนื่องจาก "เหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำ" ยังคงติดตาม "ป้ายกำกับเหตุการณ์" ไม่ว่าจะรวมในรายงานหรือไม่ ดังนั้นจึงนับเหตุการณ์ที่รวมป้ายกำกับเหตุการณ์ไซส์ M และไซส์ L เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำในทั้ง 2 รายงาน

จำนวนชุดค่าผสมของมิติข้อมูลที่ไม่ซ้ำมีการเปลี่ยนแปลงจากรายงานแรก (3) เป็นรายงานที่ 2 (2) เนื่องจากมีการตัดมิติข้อมูลป้ายกำกับเหตุการณ์ออก และในกรณีนี้ เมตริกจะนับเฉพาะชุดค่าผสมที่ไม่ซ้ำ 2 รายการของค่ามิติข้อมูลภายใน 2 เซสชัน