[GA4] การจัดการการเข้าถึงและข้อจํากัดด้านข้อมูล

ดูวิธีกำหนดบทบาทและข้อจํากัดด้านข้อมูลในบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics เพื่อจัดการการเข้าถึง

บทความนี้ครอบคลุมเรื่องการจัดการการเข้าถึงและข้อจำกัดด้านข้อมูลสำหรับ Google Analytics 4 และ Universal Analytics ใน Analytics ทั้ง 2 เวอร์ชัน คุณจัดการการเข้าถึงได้โดยการกำหนดบทบาท ใน Google Analytics 4 คุณจัดการข้อจำกัดด้านข้อมูลได้โดยการเลือกตัวเลือกข้อจำกัดด้านข้อมูลตามที่อธิบายไว้ด้านล่างมา 1 รายการ หรือเลือกทั้ง 2 รายการก็ได้ ใน Universal Analytics คุณจัดการข้อจำกัดด้านข้อมูลได้โดยการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานต่างๆ

บทความนี้ประกอบด้วย

Google Analytics 4

คุณจัดการการเข้าถึงและข้อจำกัดด้านข้อมูลได้ที่ระดับบัญชีและระดับพร็อพเพอร์ตี้

วิธีกำหนดบทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูล

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ภายในบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ ให้คลิกการจัดการการเข้าถึงบัญชีหรือการจัดการการเข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้
  2. กำหนดบทบาทให้สมาชิกใหม่หรือสมาชิกที่มีอยู่ (เช่น ผู้ใช้และกลุ่ม) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มและการแก้ไขผู้ใช้

สิทธิ์ที่มีผลหมายถึงบทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูลที่สมาชิกได้รับผ่านแหล่งข้อมูลอื่นๆ (เช่น องค์กร กลุ่มผู้ใช้ หรือบัญชีที่มีพร็อพเพอร์ตี้ปัจจุบัน) และสิทธิ์โดยตรงทั้งหมดที่กำหนดโดยชัดแจ้งสำหรับแหล่งข้อมูลปัจจุบัน

สิทธิ์โดยตรงหมายถึงบทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูลที่สมาชิกได้รับโดยชัดแจ้งสำหรับแหล่งข้อมูลปัจจุบัน (เช่น องค์กร บัญชี พร็อพเพอร์ตี้)

โดยมีทั้งหมด 5 บทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูล 2 ประการดังนี้

บทบาท คำอธิบาย
ผู้ดูแลระบบ

ควบคุม Analytics โดยสมบูรณ์ สามารถจัดการผู้ใช้ (เพิ่ม/ลบผู้ใช้ กำหนดบทบาทหรือข้อจำกัดด้านข้อมูลใดๆ ก็ตาม) สามารถให้สิทธิ์โดยสมบูรณ์แก่ผู้ใช้รวมถึงตนเองสำหรับบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ใดก็ตามที่บุคคลเหล่านั้นมีบทบาทนี้

รวมสิทธิ์ของบทบาทผู้แก้ไข

(แทนที่สิทธิ์จัดการผู้ใช้)

ผู้แก้ไข

ควบคุมการตั้งค่าที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้โดยสมบูรณ์ แต่จัดการผู้ใช้ไม่ได้

รวมสิทธิ์ของบทบาทนักวิเคราะห์

(ชื่อใหม่สำหรับสิทธิ์แก้ไข)

นักการตลาด

สร้าง แก้ไข และลบกลุ่มเป้าหมาย, Conversion, รูปแบบการระบุแหล่งที่มา, เหตุการณ์ และกรอบเวลา Conversion ได้

รวมสิทธิ์ของบทบาทนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์

สร้าง แก้ไข และลบองค์ประกอบพร็อพเพอร์ตี้บางรายการได้ รวมถึงทำงานร่วมกันในองค์ประกอบที่แชร์ได้

รวมสิทธิ์ของบทบาทผู้ดู

(ชื่อใหม่ของสิทธิ์ทำงานร่วมกัน)

องค์ประกอบพร็อพเพอร์ตี้ประกอบด้วยสิ่งต่างๆ เช่น การสํารวจ

ผู้ดู

ดูการตั้งค่าและข้อมูลได้ เปลี่ยนได้ว่าจะให้ข้อมูลใดปรากฏในรายงาน (เช่น เพิ่มการเปรียบเทียบ เพิ่มมิติข้อมูลรอง) ดูองค์ประกอบที่แชร์ผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้หรือ API ได้ แต่ไม่สามารถทำงานร่วมกันบนองค์ประกอบที่แชร์ได้ เช่น ผู้ที่มีบทบาทผู้ดูจะดูการสํารวจที่แชร์ได้ แต่จะแก้ไขไม่ได้ 

(ชื่อใหม่สำหรับสิทธิ์อ่านและวิเคราะห์)

ไม่มี ผู้ใช้ไม่มีบทบาทสำหรับแหล่งข้อมูลนี้ ผู้ใช้อาจมีบทบาทสำหรับแหล่งข้อมูลอื่น

 

ข้อจำกัดด้านข้อมูล คำอธิบาย
ไม่มีเมตริกค่าใช้จ่าย

ดูเมตริกที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายไม่ได้

เมตริกค่าใช้จ่ายไม่มีอยู่ในรายงาน การสำรวจ กลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลเชิงลึก และการแจ้งเตือน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง

ไม่มีเมตริกรายได้

ดูเมตริกที่เกี่ยวกับรายได้ไม่ได้

เมตริกรายได้ไม่มีอยู่ในรายงาน การสำรวจ กลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลเชิงลึก และการแจ้งเตือน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง

 

เมตริกค่าใช้จ่ายและรายได้

นอกจากเมตริกที่แสดงในส่วนต่อไปนี้แล้ว เมตริกค่าใช้จ่ายและรายได้ยังรวมเมตริกที่กำหนดเองที่ระบบระบุว่าเป็นเมตริกค่าใช้จ่ายหรือรายได้ และเมตริกใดก็ตามที่มาจากเมตริกค่าใช้จ่ายหรือรายได้

ระบบจะอัปเดตรายการเหล่านี้หาก Analytics มีเมตริกค่าใช้จ่ายหรือรายได้เพิ่มเข้ามา

เมตริกค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายใน Google Ads

ต้นทุนต่อคลิกใน Google Ads

ค่าใช้จ่ายของวิดีโอ Google Ads

ต้นทุนต่อ Conversion

ราคาที่ไม่ใช่ของ Google

ต้นทุนต่อคลิกที่ไม่ใช่ของ Google

ต้นทุนต่อ Conversion ที่ไม่ใช่ของ Google

ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา

ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาที่ไม่ใช่ของ Google

เมตริกรายได้

รายได้จากโฆษณา

รายได้ที่มีการระบุแหล่งที่มาของคลิกสุดท้ายเฉพาะจาก Google Ads

รายได้รายวันเฉลี่ย

รายได้จากเหตุการณ์โดยเฉลี่ย

รายได้จากผลิตภัณฑ์โดยเฉลี่ย

มูลค่าโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์

รายได้จากการซื้อโดยเฉลี่ย

รายได้จากการซื้อโดยเฉลี่ยต่อผู้ใช้

รายได้เฉลี่ยต่อผู้ซื้อ

รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ที่ชำระเงิน (ARPPU)

รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU)

รายได้รวมต่อการเปิดครั้งแรกทั้งหมดของกลุ่มประชากรตามรุ่น

รายได้รวมต่อการเข้าชมครั้งแรกทั้งหมดของกลุ่มประชากรตามรุ่น

รายได้รวมต่อการเข้าชมครั้งแรกและการเปิดครั้งแรกทั้งหมดของกลุ่มประชากรตามรุ่น

รายได้จากการระบุแหล่งที่มาจากข้อมูล

จำนวนการซื้อแบบอีคอมเมิร์ซ

รายได้จากอีคอมเมิร์ซ

มูลค่าของเหตุการณ์

รายได้จากเหตุการณ์

รายได้ที่มีการระบุแหล่งที่มาของคลิกแรก

ราคาสินค้า

การคืนเงินของสินค้า

รายได้จากสินค้า

รายได้ที่มีการระบุแหล่งที่มาของคลิกสุดท้าย

รายได้จากโฆษณาตลอดอายุการใช้งาน

มูลค่าตลอดอายุการใช้งาน (LTV)

รายได้ที่ระบุแหล่งที่มาแบบเชิงเส้น

รายได้รายวันสูงสุด

รายได้รายวันต่ำสุด

รายได้ที่มีการระบุแหล่งที่มาตามตำแหน่ง

รายได้ที่คาดการณ์

รายได้จากผลิตภัณฑ์

รายได้จากการซื้อ

การคืนเงิน

ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา

ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาที่ไม่ใช่ของ Google

รายได้

รายได้ที่มีการระบุแหล่งที่มาแบบลดลงตามเวลา

รายได้จากโฆษณาทั้งหมด

รายได้ทั้งหมด

โดยค่าเริ่มต้น บทบาทหลักจะมีการรับช่วงต่อกันไป (เช่น บัญชี > พร็อพเพอร์ตี้) เช่น เมื่อคุณมอบบทบาทที่ระดับบัญชีให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้ดังกล่าวก็จะมีบทบาทเดียวกันสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดในบัญชีนั้น

สิทธิ์ที่มีผลของผู้ใช้จะเทียบเท่ากับบทบาทที่มีสิทธิ์สูงสุดสำหรับแหล่งข้อมูลนั้นๆ

เช่น หากผู้ใช้มีบทบาทเป็นผู้แก้ไขสำหรับบัญชี ผู้ใช้นั้นก็จะมีบทบาทเป็นผู้แก้ไขสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดในบัญชีนั้นด้วยเช่นกัน โดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้จะได้รับบทบาทที่มีสิทธิ์น้อยลงเช่นกันสำหรับพร็อพเพอร์ตี้รายการใดรายการหนึ่งหรือไม่

นอกจากนี้ หากผู้ใช้ได้รับบทบาทที่มีสิทธิ์ในพร็อพเพอร์ตี้มากกว่าที่ผู้ใช้มีที่ระดับบัญชี บทบาทที่มีสิทธิ์มากกว่านั้นจะมีผลสำหรับพร็อพเพอร์ตี้นั้นด้วย

คุณเพิ่มข้อจำกัดด้านข้อมูลเป็นสิทธิ์โดยตรงได้ แต่จะนำข้อจำกัดด้านข้อมูลออกไม่ได้หากมีผลบังคับในฐานะสิทธิ์ที่รับช่วงต่อกันมา เช่น หากมีการกำหนดไม่มีเมตริกค่าใช้จ่ายที่ระดับบัญชีให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้รายดังกล่าวก็จะไม่เห็นเมตริกค่าใช้จ่ายสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ใดๆ ในบัญชีนั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพิ่มข้อจำกัดไม่มีเมตริกรายได้สำหรับพร็อพเพอร์ตี้อย่างน้อย 1 รายการในบัญชีได้

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณมี 2 ตัวเลือกในการดูว่าผู้ใช้รายใดมีบทบาทใดบ้าง จากหน้าการจัดการผู้ใช้ที่ระดับบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ ให้ทำดังนี้

  • ค้นหาชื่อผู้ใช้ที่ต้องการเพื่อดูบทบาทของผู้ใช้รายดังกล่าว
  • คลิกส่วนหัวคอลัมน์บทบาทในบัญชีเพื่อจัดเรียงรายการตามบทบาท

ข้อจำกัดด้านข้อมูลส่งผลต่อฟีเจอร์อื่นๆ ของ Analytics อย่างไร

ระบบบังคับใช้ข้อจำกัดด้านข้อมูลทั้งในอินเทอร์เฟซของ Analytics และการเรียกใช้ Analytics API ที่คล้ายกัน

ระบบจะสร้างข้อจำกัดด้านข้อมูลและนำมาใช้ผ่านการจัดการการเข้าถึงของ Analytics ผู้ใช้อาจไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้หากมีสิทธิ์สำหรับ Analytics โดยอิงตามสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ที่ลิงก์กับ Analytics

ฟีเจอร์ ผลกระทบ
รายงาน

ค่าเมตริกที่ถูกจำกัดและค่าที่มาจากเมตริกที่ถูกจำกัดจะไม่ปรากฏในรายงาน ผู้ใช้จะเห็นเป็น 0 แทน

เมตริกที่ถูกจำกัดอยู่ในเครื่องมือเลือกเมตริกที่เชื่อมโยงกับรายงาน (เช่น เมื่อปรับแต่งรายงาน) ผู้ใช้ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านข้อมูลสามารถเพิ่มเมตริกเหล่านั้นได้ แต่จะดูผลลัพธ์ไม่ได้ (เช่น เพิ่มเมตริกในรายงานที่กำหนดเองได้ แต่จะไม่เห็นค่าเมตริกในรายงานเหล่านั้น)

การสำรวจ

เมตริกที่ถูกจำกัดจะไม่ปรากฏในการสำรวจ

เมตริกที่ถูกจำกัดอยู่ในเครื่องมือเลือกเมตริกที่เชื่อมโยงกับการสำรวจ (เช่น เมื่อสร้างการสำรวจ) ผู้ใช้ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านข้อมูลจะเพิ่มเมตริกเหล่านั้นได้ แต่จะดูผลลัพธ์ไม่ได้ (เช่น เพิ่มเมตริกในการสำรวจได้ แต่จะไม่เห็นค่าเมตริกในการสำรวจเหล่านั้น)

กลุ่มเป้าหมาย

เมตริกที่ถูกจำกัดอยู่ในเครื่องมือเลือกเมตริกที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านข้อมูลจะสร้างกลุ่มเป้าหมายตามเมตริกที่ถูกจำกัด และแก้ไขชื่อกลุ่มเป้าหมายหลังจากการสร้างได้ แต่ผู้ใช้เหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่แสดงไว้ด้านล่าง

ใช้กลุ่มเป้าหมาย (เช่น เป็นตัวกรองมิติข้อมูล) ที่รวมเมตริกที่ถูกจำกัดไม่ได้

ดูจำนวนกลุ่มเป้าหมายสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่รวมเมตริกที่ถูกจำกัดไม่ได้

เพิ่มทริกเกอร์กลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายตามเมตริกที่ถูกจำกัดไม่ได้

ข้อมูลเชิงลึกแบบอัตโนมัติ ดูข้อมูลเชิงลึกแบบอัตโนมัติตามเมตริกที่ถูกจำกัดในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ไม่ได้
ข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดเอง

ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถสร้างและแก้ไขข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดเองได้ตามเมตริกที่ถูกจำกัด

ดูข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดเองในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ไม่ได้ และไม่สามารถรับข้อมูลเชิงลึกดังกล่าวผ่านทางอีเมลได้

เมตริกที่กำหนดเอง ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถสร้างเมตริกที่กำหนดเอง และระบุว่าเมตริกเหล่านั้นมีข้อมูลค่าใช้จ่ายหรือรายได้ ผู้ใช้ที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถลบตัวบ่งชี้ว่าเมตริกที่กำหนดเองมีข้อมูลค่าใช้จ่ายหรือรายได้รวมอยู่ด้วยได้ การเข้าถึงเมตริกที่กำหนดเองเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทั้งหมดที่แสดงไว้ในบทความนี้
การลิงก์ Analytics-Firebase

ผู้ใช้โปรเจ็กต์ Firebase จะได้รับบทบาท Analytics โดยอัตโนมัติเมื่อคุณลิงก์โปรเจ็กต์ Firebase กับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ดังต่อไปนี้

  • ผู้ใช้ Firebase ในโปรเจ็กต์จะได้รับมอบหมายเป็น 1 ใน 4 บทบาทผู้ใช้เสมือนของ Firebase ตามสิทธิ์สูงสุดใน Firebase Analytics
    • ผู้แก้ไขโปรเจ็กต์ Firebase <project number>
    • นักการตลาดโปรเจ็กต์ Firebase <project number>
    • ผู้ดูโปรเจ็กต์ Firebase <project number> (ไม่มีข้อจํากัดด้านข้อมูล)
    • ผู้ดูโปรเจ็กต์ Firebase <project number> (ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายหรือรายได้)
  • และในทางกลับกัน ผู้ใช้เสมือนของ Firebase ก็จะได้รับมอบหมายบทบาทเริ่มต้นตามที่ลิงก์ไว้ในพร็อพเพอร์ตี้ Analytics
หากคุณมีบทบาท/สิทธิ์ Firebase นี้ คุณจะได้รับมอบหมายเป็นผู้ใช้เสมือนประเภทนี้ใน Firebase ซึ่งได้รับมอบหมายบทบาทนี้ใน Analytics

firebaseanalytics.resources.

googleAnalyticsEdit

ผู้แก้ไขโปรเจ็กต์ Firebase <project number>

ผู้แก้ไข

ไม่มีข้อจํากัดด้านข้อมูล

firebaseanalytics.resources.

googleAnalyticsAdditionalAccess

นักการตลาดโปรเจ็กต์ Firebase <project number> นักการตลาด

firebaseanalytics.resources.

googleAnalyticsReadAndAnalyze

ผู้ดูโปรเจ็กต์ Firebase <project number>

ผู้ดู

ไม่มีข้อจํากัดด้านข้อมูล

firebaseanalytics.resources.

googleAnalyticsRestricedAccess

ผู้ดูโปรเจ็กต์ Firebase <project number>

ผู้ดู

ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายหรือรายได้

 

ในการจัดการการเข้าถึง Analytics ผู้ใช้เสมือนของ Firebase แต่ละรายจะแสดงแทนกลุ่มผู้ใช้ในโปรเจ็กต์ Firebase ที่ลิงก์ไว้

ในฐานะผู้ดูแลระบบ Analytics คุณสามารถเปลี่ยนแปลงบทบาท Analytics และข้อจํากัดด้านข้อมูลที่มอบหมายให้กับผู้ใช้เสมือนของ Firebase ในพร็อพเพอร์ตี้ได้ การเปลี่ยนบทบาท Analytics และข้อจํากัดด้านข้อมูลที่มอบหมายให้กับผู้ใช้เสมือนของ Firebase จะส่งผลต่อผู้ใช้ทุกรายในโปรเจ็กต์ Firebase ที่มอบหมายให้กับผู้ใช้เสมือนรายดังกล่าว

การมอบหมายบทบาทและข้อจํากัดด้านข้อมูลจะยังคงมีอยู่จนกว่าจะมีการลบการลิงก์โปรเจ็กต์ Firebase กับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics

ผู้ดูแลระบบ Analytics สามารถแก้ไขสิทธิ์เข้าถึงของบทบาท Firebase ได้ในผู้ดูแลระบบ > พร็อพเพอร์ตี้ที่ลิงก์ > การจัดการการเข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้

หากคุณลิงก์โปรเจ็กต์ Firebase กับพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ก่อนวันที่ 4 มกราคม 2023 ผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Firebase อาจมีบทบาทและการเข้าถึงข้อมูลใน Analytics ต่างจากที่อธิบายไว้ในตารางด้านบน

 

การลิงก์ระหว่าง Analytics-Google Ads

ผู้ใช้ Google Ads จะได้รับบทบาท Analytics โดยอัตโนมัติเมื่อคุณลิงก์บัญชี Google Ads กับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics คุณจะจัดการสิทธิ์เข้าถึงเพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ Google Ads ใช้ฟีเจอร์ Analytics จากใน Google Ads ได้ เช่น การสร้างกลุ่มเป้าหมาย Analytics จาก Google Ads

  • ผู้ใช้ในบัญชี Google Ads จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads 1 ใน 5 ประเภทต่อไปนี้ ตามระดับสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Google Ads
    • ผู้ดูแลบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>
    • ผู้ใช้ทั่วไปของบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>
    • ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์อ่านอย่างเดียวในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>
    • ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงการเรียกเก็บเงินในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>
    • ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงอีเมลเท่านั้นในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>
  • ผู้ดูแลระบบ Analytics ก็จะมอบหมายบทบาทในพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ที่ลิงก์ให้กับผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads
    • ผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads ต้องเป็นผู้ดูแลระบบ ผู้แก้ไข หรือนักการตลาดในพร็อพเพอร์ตี้ที่ลิงก์จึงจะสร้างกลุ่มเป้าหมาย Analytics จากใน Google Ads ได้
หากคุณมีสิทธิ์เข้าถึงระดับนี้ในบัญชี Google Ads คุณจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วประเภทนี้ใน Google Ads ซึ่งมีการมอบหมายบทบาทที่แนะนํานี้ใน Analytics

ผู้ดูแลระบบ

ผู้ดูแลบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>

ผู้แก้ไข

มาตรฐาน

ผู้ใช้ทั่วไปของบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>

นักการตลาด

อ่านอย่างเดียว

ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์อ่านอย่างเดียวในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>

ผู้ดู

การเรียกเก็บเงิน

ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงการเรียกเก็บเงินในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>

ผู้ดู

อีเมลเท่านั้น

ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงอีเมลเท่านั้นในบัญชี Google Ads <หมายเลขบัญชี>

ผู้ดู

 

ในการจัดการการเข้าถึง Analytics ผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads แต่ละรายจะแสดงแทนกลุ่มผู้ใช้ในบัญชี Google Ads ที่ลิงก์ไว้

ในฐานะผู้ดูแลระบบ Analytics คุณสามารถเปลี่ยนแปลงบทบาท Analytics และข้อจํากัดด้านข้อมูลที่มอบหมายให้กับผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads ของพร็อพเพอร์ตี้ได้ หากคุณเปลี่ยนบทบาท Analytics และข้อจํากัดด้านข้อมูลที่มอบหมายให้กับผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads การเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อผู้ใช้ทุกรายในบัญชี Google Ads ซึ่งมอบหมายให้เป็นผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วดังกล่าว

การมอบหมายบทบาทและข้อจํากัดด้านข้อมูลจะยังคงมีอยู่จนกว่าจะมีการลบลิงก์ระหว่างบัญชี Google Ads กับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics

ในฐานะผู้ดูแลระบบ Analytics คุณสามารถดูและแก้ไขสิทธิ์เข้าถึงของผู้ใช้ที่ลิงก์แล้วของ Google Ads ได้ในส่วนผู้ดูแลระบบ > พร็อพเพอร์ตี้ที่ลิงก์ > ลิงก์ Google Ads นอกจากนี้คุณยังกําหนดค่าสิทธิ์เข้าถึงได้เช่นเดียวกับที่กําหนดสําหรับผู้ใช้ทุกคน

คุณมี 2 ตัวเลือกในการดูว่าผู้ใช้รายใดมีบทบาทใดบ้าง จากหน้าการจัดการการเข้าถึงบัญชีที่ระดับบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ ให้ทําดังนี้

  • ค้นหาชื่อผู้ใช้ที่ต้องการเพื่อดูสิทธิ์ของผู้ใช้รายดังกล่าว
  • คลิกส่วนหัวคอลัมน์สิทธิ์ใช้งานบัญชีเพื่อจัดเรียงรายการตามสิทธิ์

 

Universal Analytics

คุณกำหนดสิทธิ์ของผู้ใช้ใน Analytics ได้ที่ระดับบัญชี พร็อพเพอร์ตี้ และข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

วิธีให้สิทธิ์

  1. คลิกผู้ดูแลระบบ
  2. คลิกการจัดการการเข้าถึงในคอลัมน์บัญชี พร็อพเพอร์ตี้หรือข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
  3. กำหนดบทบาทให้สมาชิกใหม่หรือสมาชิกที่มีอยู่ (เช่น ผู้ใช้และกลุ่ม) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มและการแก้ไขผู้ใช้

สิทธิ์ที่มีผลหมายถึงบทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูลที่สมาชิกได้รับผ่านแหล่งข้อมูลอื่นๆ (เช่น องค์กร กลุ่มผู้ใช้ หรือบัญชีที่มีพร็อพเพอร์ตี้ปัจจุบัน) และสิทธิ์โดยตรงทั้งหมดที่กำหนดโดยชัดแจ้งสำหรับแหล่งข้อมูลปัจจุบัน

สิทธิ์โดยตรงหมายถึงบทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูลที่สมาชิกได้รับโดยชัดแจ้งสำหรับแหล่งข้อมูลปัจจุบัน (เช่น องค์กร บัญชี พร็อพเพอร์ตี้)

โดยมีทั้งหมด 5 บทบาทและข้อจำกัดด้านข้อมูล 2 ประการดังนี้

บทบาท คำอธิบาย
ผู้ดูแลระบบ

ควบคุม Analytics โดยสมบูรณ์ สามารถจัดการผู้ใช้ (เพิ่ม/ลบผู้ใช้ กำหนดบทบาทหรือข้อจำกัดด้านข้อมูลใดๆ ก็ตาม) สามารถให้สิทธิ์โดยสมบูรณ์แก่ผู้ใช้รวมถึงตนเองสำหรับบัญชีหรือพร็อพเพอร์ตี้ใดก็ตามที่บุคคลเหล่านั้นมีบทบาทนี้

รวมบทบาทผู้แก้ไขด้วย

(แทนที่สิทธิ์จัดการผู้ใช้)

ผู้แก้ไข

ควบคุมการตั้งค่าที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้โดยสมบูรณ์ แต่จัดการผู้ใช้ไม่ได้

รวมบทบาทนักวิเคราะห์ด้วย

(ชื่อใหม่สำหรับสิทธิ์แก้ไข)

นักการตลาด

ทำหน้าที่เหมือนกับบทบาทนักวิเคราะห์ใน Universal Analytics

นักวิเคราะห์

สร้าง แก้ไข ลบ และแชร์องค์ประกอบพร็อพเพอร์ตี้ได้ รวมถึงทำงานร่วมกันในองค์ประกอบที่แชร์ได้

รวมบทบาทผู้ดูด้วย

(ชื่อใหม่ของสิทธิ์ทำงานร่วมกัน)

องค์ประกอบพร็อพเพอร์ตี้มีสิ่งต่อไปนี้

ผู้ดู

สามารถดูรายงานและข้อมูลการกำหนดค่า จัดการข้อมูลภายในรายงาน (เช่น เพิ่มการเปรียบเทียบ เพิ่มมิติข้อมูลรอง) ได้ สร้างองค์ประกอบของคุณเอง รวมถึงแชร์และดูองค์ประกอบที่แชร์ผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้หรือ API ได้ แต่ไม่สามารถทำงานร่วมกันบนองค์ประกอบที่แชร์ได้ 

(ชื่อใหม่สำหรับสิทธิ์อ่านและวิเคราะห์)

ไม่มี ผู้ใช้ไม่มีบทบาทสำหรับออบเจ็กต์นี้ ผู้ใช้อาจมีบทบาทสำหรับออบเจ็กต์อื่น

 

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณมี 2 ตัวเลือกในการดูว่าผู้ใช้รายใดมีบทบาทใดบ้าง จากหน้าการจัดการการเข้าถึงบัญชีที่ระดับบัญชี พร็อพเพอร์ตี้ หรือข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ให้ทําดังนี้

  • ค้นหาชื่อผู้ใช้ที่ต้องการเพื่อดูสิทธิ์ของผู้ใช้รายดังกล่าว
  • คลิกส่วนหัวคอลัมน์สิทธิ์ใช้งานบัญชีเพื่อจัดเรียงรายการตามสิทธิ์

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
6855380324381670131
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false