[UA] วิธีกําหนดเซสชันของเว็บใน Universal Analytics

บทความนี้เกี่ยวข้องกับวิธีกําหนดเซสชันของเว็บใน Universal Analytics ดูแหล่งข้อมูลต่อไปนี้สำหรับข้อมูลที่คล้ายกันที่เกี่ยวข้องกับ Google Analytics 4
ข้อมูลในบทความนี้ใช้กับการติดตามเว็บเท่านั้น การคำนวณนี้ไม่ได้ใช้กับกรณีที่คุณรวบรวมข้อมูลโดยใช้ Analytics SDK สำหรับระบบปฏิบัติการอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซสชันของแอป

แนวคิดเกี่ยวกับเซสชันใน Analytics เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ เนื่องจากฟีเจอร์ รายงาน และเมตริกจำนวนมากมีความเกี่ยวข้องกับวิธีที่ Analytics คำนวณเซสชัน

บทความนี้ประกอบด้วย

ภาพรวม

เซสชันคือกลุ่มของการโต้ตอบที่ผู้ใช้ทำกับเว็บไซต์ของคุณซึ่งเกิดขึ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น เซสชันหนึ่งอาจประกอบด้วยการดูหน้าเว็บ เหตุการณ์ การโต้ตอบทางโซเชียล และธุรกรรมอีคอมเมิร์ซหลายอย่าง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอประเภทต่างๆ ใน Analytics

คุณสามารถเปรียบเทียบเซสชันเป็นภาชนะบรรจุการดำเนินการต่างๆ ที่ผู้ใช้ทำในเว็บไซต์ของคุณ

Many interactions can happen within one visit.

ผู้ใช้รายหนึ่งสามารถเปิดเซสชันขึ้นได้หลายเซสชัน เซสชันดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ในวันเดียวกันหรือในช่วงหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน เมื่อเซสชันหนึ่งสิ้นสุดลง จะมีโอกาสที่เริ่มต้นเซสใหม่ทันที การสิ้นสุดเซสชันมี 2 วิธี ได้แก่

  • การหมดเวลาตามเวลา:
    • เมื่อไม่มีการโต้ตอบเป็นระยะเวลา 30 นาที
    • ตอนเที่ยงคืน
  • การเปลี่ยนแคมเปญ:
    • ถ้าผู้ใช้มายังเว็บไซต์ผ่านทางแคมเปญหนึ่ง ออกจากเว็บไซต์ แล้วกลับเข้ามาใหม่ผ่านทางแคมเปญอื่น

การหมดเวลาตามเวลา

เซสชันหนึ่งมีระยะเวลานานเท่าใด

โดยค่าเริ่มต้น เซสชันจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีการทำกิจกรรมใดๆ เป็นเวลา 30 นาที แต่คุณสามารถปรับให้เซสชันมีระยะเวลาเพียง 2-3 วินาทีหรือหลายชั่วโมงก็ได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับการตั้งค่าเซสชัน

เมื่อผู้ใช้ชื่อบัญชาเข้ามายังไซต์ของคุณ Analytics จะเริ่มนับการเข้าชมตั้งแต่ตอนนั้น หากเวลาผ่านไป 30 นาทีโดยไม่มีการโต้ตอบใดจากบัญชาเลย เซสชันจะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่บัญชาโต้ตอบกับองค์ประกอบของไซต์ (เช่น เหตุการณ์ การโต้ตอบทางโซเชียล หรือเปิดหน้าใหม่) Analytics จะรีเซ็ตเวลาสิ้นสุดการเข้าชมใหม่โดยต่อเวลาให้อีก 30 นาทีนับตั้งแต่มีการโต้ตอบ

ตัวอย่าง

สมมติว่าบัญชาโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณในช่วงเวลาต่อไปนี้

A series of standard interactions and the visit expiry.

หลังจากเหตุการณ์ที่ 2 เซสชันจะถูกตั้งค่าให้หมดอายุในเวลา 14:34

เมื่อบัญชามาถึงเว็บไซต์ของคุณในครั้งแรก เซสชันถูกตั้งค่าให้หมดเวลาที่ 14:31 ขณะที่บรมทำสิ่งต่างๆ ในไซต์ของคุณ เช่น ดูหน้าเว็บและสร้างเหตุการณ์ แต่ละคำขอที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านี้จะเลื่อนการหมดอายุไปเป็น 30 นาทีหลังเวลาขณะนั้น

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าในระหว่างเซสชันที่บัญชาเข้าชมเว็บไซต์ของฉัน เขาเปิดหน้าเว็บทิ้งไว้ขณะที่ออกไปพักกลางวันเป็นเวลา 31 นาที แล้วกลับมาเรียกดูไซต์ต่อ

ในกรณีนี้ เซสชันแรกที่เปิดขึ้นเมื่อบัญชามาที่ไซต์จะสิ้นสุดลงใน 30 นาทีระหว่างที่เขาพักกลางวัน เมื่อเขากลับจากพักกลางวันและเรียกดูเว็บไซต์ต่อ Analytics จะตั้งค่าเวลาหมดอายุ 30 นาทีใหม่และเซสชันใหม่จะเริ่มขึ้น

A new visit starts if a user doesn't interact with content for a specific period of time.

เมื่อบรมมาถึงครึ่งทางของกระบวนการซื้อผลิตภัณฑ์ เขาก็ออกจากเว็บไซต์ของคุณเพื่อพักรับประทานอาหาร จากนั้นเขาจึงกลับมาทำธุรกรรมให้เสร็จเรียบร้อย ตอนนี้หน้า Landing Page ของเซสชันใหม่คือหน้าเพิ่มลงในตะกร้า

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบัญชาเปิดหน้าเว็บทิ้งไว้ในเว็บไซต์ของฉัน แต่เขาออกไปพักกลางวันเพียง 29 นาทีก่อนที่จะกลับมาเรียกดูไซต์ต่อ

เมื่อบัญชากลับเข้ามา เซสชันที่เปิดอยู่จะดำเนินต่อไปจากหน้าสุดท้ายที่เขาเปิดดูทิ้งไว้ในไซต์ (สมมติว่าเขาไม่ได้กลับมาทางแหล่งที่มาแคมเปญอื่น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้ด้านล่าง) Analytics รู้เพียงว่าบัญชาไม่ได้ออกจากเว็บไซต์ของคุณ

If a user continuous interacts with content and only pauses within the specified time limit, the visit keeps going.

เมื่อบรมมาถึงครึ่งทางของกระบวนการซื้อผลิตภัณฑ์ เขาก็ออกจากเว็บไซต์ของคุณเพื่อพักรับประทานอาหาร สิ่งที่แตกต่างในคราวนี้คือ เนื่องจากเขากลับมาภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที เซสชันเก่าจึงยังเปิดอยู่ โปรดสังเกตว่าเวลาในหน้าเว็บในการดูหน้าเว็บที่ 2 (ผลิตภัณฑ์) คือ 29 นาที เนื่องจากเวลาในหน้าเว็บคำนวณจากค่าต่างระหว่างจุดเริ่มต้นของการดูหน้าเว็บที่ต่อเนื่องกัน นั่นคือ การดูหน้าเว็บที่ 3 - การดูหน้าเว็บที่ 2 (14:31-14:02 = 00:29)

การหมดอายุเมื่อสิ้นวัน

บัญชาเปิดเว็บไซต์ของคุณเวลา 23:50 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม และออกจากเว็บไซต์เวลา 00:10 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม

เซสชันแรกสิ้นสุดเมื่อเวลา 23:59:59 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม และเซสชันที่ 2 เริ่มต้นเมื่อเวลา 24:00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม

เวลาสิ้นวันจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเขตเวลาในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

การหมดเวลาตามแคมเปญ

Analytics จะเปิดเซสชันใหม่ทุกครั้งที่แหล่งที่มาแคมเปญของผู้ใช้มีการเปลี่ยนแปลง จึงจำเป็นต้องชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าเซสชันที่มีอยู่จะยังคงเปิดอยู่ (นั่นคือ เวลาผ่านไปน้อยกว่า 30 นาที) หากมีการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาแคมเปญในระหว่างเซสชัน เซสชันแรกจะปิดลงและมีการเปิดเซสชันใหม่

สมมติว่าบัญชาเปิดเว็บไซต์ของคุณตามลำดับต่อไปนี้

Two separate sessions, with two unrelated interactions.

Analytics จะจัดเก็บข้อมูลแหล่งที่มาแคมเปญเอาไว้ ทุกครั้งที่ค่าแคมเปญมีการอัปเดต Analytics จะเปิดเซสชันใหม่ ในตัวอย่างข้างต้น บัญชามาถึงเว็บไซต์ของคุณในครั้งแรกโดยผ่านคำหลัก Red Widgets ในการค้นหาทั่วไปของ Google จากนั้นเขาจึงกลับเข้ามาใหม่ผ่านคำหลัก Blue Widgets ที่ได้ซื้อไว้ของ Google

ข้อความค้นหาแต่ละคำทำให้เกิดการอัปเดตแคมเปญ ดังนั้นคำหลักแต่ละคำจึงมีเซสชันใหม่ของตัวเอง

การอัปเดตแคมเปญเกิดจากอะไร

โดยทั่วไปแล้ว แคมเปญมีการอัปเดตทุกครั้งที่ผู้ใช้มาถึงเว็บไซต์ของคุณโดยผ่านเครื่องมือค้นหา เว็บไซต์อ้างอิง หรือ URL ที่ติดแท็กแคมเปญ อย่างไรก็ตาม การเข้าชมโดยตรงจะไม่อัปเดตหรือแทนที่แหล่งที่มาแคมเปญที่มีอยู่ เช่น เครื่องมือค้นหา เว็บไซต์อ้างอิง หรือข้อมูลที่ติดแท็กแคมเปญ

การติดแท็กอัตโนมัติของ Google Ads

ในกรณีของการติดแท็กอัตโนมัติของ Google Ads การคลิกแต่ละครั้งจะสร้างค่าแคมเปญที่ไม่ซ้ำกัน (ค่า gclid) เนื่องจากการคลิกแต่ละครั้งมีค่า gclid ของตัวเอง ดังนั้นแต่ละคลิกจึงถือเป็นแคมเปญที่แยกจากกันและทำให้เกิดเซสชันใหม่

การอ้างอิง

ระบบจะระบุแหล่งที่มาของแคมเปญใหม่ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกลิงก์จากเว็บไซต์อ้างอิงมายังเว็บไซต์ของคุณ

ถ้าบัญชาไปที่ a.com แล้วคลิกลิงก์มาที่เว็บไซต์ของคุณ เท่ากับว่าเขาได้เริ่มเซสชันใหม่ที่ระบุแหล่งที่มาว่าเป็นการอ้างอิงจาก a.com ถ้าเขาไปที่ b.com ทันทีแล้วคลิกลิงก์มาที่เว็บไซต์ของคุณ จะเป็นการเริ่มเซสชันใหม่ที่ระบุแหล่งที่มาว่าเป็นการอ้างอิงจาก b.com

คุณสามารถใช้การยกเว้นการอ้างอิงเพื่อป้องกันไม่ให้การอ้างอิงจากบางเว็บไซต์สร้างเซสชันใหม่ได้

แท็กแคมเปญ

แนวทางปฏิบัติแนะนำคือการใช้การติดแท็กอัตโนมัติแทนการติดแท็กแคมเปญด้วยตนเอง แต่สมมติว่าคุณได้ทําการติดแท็กให้แคมเปญ Google Ads ด้วยตนเองโดย URL ปลายทางมีลักษณะดังนี้

http://www.example.com/?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=camp1&utm_term=keyword&utm_content=content

บัญชาคลิกโฆษณาของคุณ ซึ่งจะบันทึกเป็นเซสชันใหม่สำหรับคลิกแรกนี้ อย่างไรก็ตาม ค่าพารามิเตอร์ของแคมเปญที่ติดแท็กด้วยตนเองจะยังคงเป็นค่าเดิมสำหรับทุกๆ คลิก แคมเปญจึงไม่อัปเดตเมื่อมีการคลิกแต่ละครั้ง ซึ่งต่างจากการติดแท็กอัตโนมัติที่การคลิกหลายครั้งในโฆษณาสามารถทำให้เกิดการเข้าชมหลายเซสชันด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ที่จะมีการคลิกโฆษณาหลายครั้งแต่ได้รับการเข้าชมแค่เซสชันเดียว

หากคุณโฆษณาในเครือข่ายโฆษณาของบุคคลที่สามและใช้การติดแท็กแคมเปญด้วยตนเอง คุณควรตระหนักว่าแต่ละคลิกจากผู้ใช้ 1 รายในเครือข่ายเหล่านี้อาจไม่ได้สร้างเซสชันสำหรับคลิกนั้นๆ (หากคลิกอื่นๆ เหล่านี้เกิดขึ้นภายในกรอบเวลา 30 นาที) นี่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลระหว่าง Analytics กับการรายงานของผลิตภัณฑ์อื่นๆ

การเข้าชมโดยตรง

สุดท้ายนี้ เราจะกล่าวสั้นๆ เกี่ยวกับการเข้าชมโดยตรงใน Analytics แหล่งที่มาแคมเปญแบบโดยตรงจะไม่ลบล้างแหล่งที่มาแคมเปญที่ระบบทราบอยู่เป็นอันขาด ซึ่งต่างจากกรณีของเครื่องมือค้นหา การอ้างอิง หรือแหล่งที่มาแคมเปญ

การเข้าชมโดยตรงที่โต้ตอบกับเนื้อหาของคุณภายในกรอบเวลาเซสชัน 30 นาทีจะมีผลเช่นเดียวกับการออกจากเว็บไซต์เป็นเวลาไม่ถึง 30 นาที นั่นคือ เซสชันจะเปิดขึ้นและดำเนินต่อไปจากจุดที่มีการออกจากเว็บไซต์

โปรดทราบว่ารายงานช่องทางหลากหลายแชแนลจะปฏิบัติกับการเข้าชมโดยตรงแตกต่างจากรายงานอื่นๆ ของ Analytics

การคำนวณเมตริก: เซสชันและผู้ใช้ใหม่

ค่าของเมตริกเซสชันอาจต่ำกว่าค่าผู้ใช้ใหม่ได้ เนื่องจากเซสชันจะไม่เพิ่มขึ้นในกรณีที่เซสชันมีแต่เหตุการณ์ที่ไม่มีการโต้ตอบ ในขณะที่ผู้ใช้ใหม่จะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีเซสชันผู้ใช้ใหม่เกิดขึ้น แม้ว่าเซสชันนั้นจะมีแต่เหตุการณ์ที่ไม่มีการโต้ตอบก็ตาม

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16837167268058021929
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false