[UA] เกี่ยวกับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

เข้าถึง ปรับแต่ง และวิเคราะห์ข้อมูลในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
บทความนี้เกี่ยวข้องกับวิธีการใช้ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใน Universal Analytics หากต้องการเปรียบเทียบการกําหนดค่าและฟีเจอร์ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใน Universal Analytics รวมถึงการกําหนดค่าและฟีเจอร์เดียวกันหรือที่คล้ายกันใน Google Analytics 4 ให้ไปที่ [UA→GA4] ฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics ในพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4

ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานคือระดับในบัญชี Google Analytics ที่คุณเข้าถึงรายงานและเครื่องมือวิเคราะห์ได้

Analytics จะสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่ไม่มีตัวกรองขึ้น 1 รายการสำหรับแต่ละพร็อพเพอร์ตี้ในบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการในพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งๆ เองได้ ข้อมูลใดก็ตามที่คุณส่งไปยังพร็อพเพอร์ตี้ Analytics จะปรากฏในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับพร็อพเพอร์ตี้นั้นโดยอัตโนมัติ เช่น หากคุณรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ 2 แห่งแล้วส่งไปยังพร็อพเพอร์ตี้หนึ่ง ข้อมูลจากเว็บไซต์ทั้งสองจะปรากฏในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานทั้งหมดในพร็อพเพอร์ตี้นั้น ข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปก็เช่นเดียวกัน หากคุณรวบรวมข้อมูลจากแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และจากเว็บไซต์ และหาก SDK กับโค้ดติดตามของคุณส่งข้อมูลไปยังพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งในบัญชี Analytics ข้อมูลทั้งหมด (ทั้ง Hit ในเว็บไซต์และแอป) จะแสดงในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับพร็อพเพอร์ตี้นั้น

คุณสามารถใช้ตัวกรองในการปรับแต่งข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เพื่อดูเฉพาะข้อมูลชุดที่ต้องการในรายงานได้ เช่น คุณอาจมีข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้รายการหนึ่งที่กรองการเข้าชมภายในทั้งหมดออก และอีกรายการหนึ่งที่มีเฉพาะกิจกรรมจากไดเรกทอรีหรือโดเมนย่อยของเว็บไซต์ที่เจาะจงเท่านั้น หากส่งข้อมูลจากเว็บและแอปไปยังพร็อพเพอร์ตี้เดียวกัน คุณควรใช้ตัวกรองเพื่อยกเว้นไม่ให้แสดงข้อมูลจากเว็บหรือแอปในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ระบบจะนำเครื่องมือการรายงานอื่นๆ ของ Analytics เช่น เป้าหมาย กลุ่ม และการแจ้งเตือนมาใช้กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แต่ละรายการทั้งหมด คุณยังสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้บางรายการเพื่อให้ควบคุมการดูข้อมูลของบุคคลต่างๆ ได้อีกด้วย

ไม่ควรลบหรือเพิ่มตัวกรองลงในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เริ่มแรก หากคุณลบข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใด มุมมองข้อมูลย้อนหลังก็จะหายไปด้วย เมื่อคุณเพิ่มตัวกรองลงในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ข้อมูลที่คุณยกเว้นจะใช้งานไม่ได้ หากต้องการรักษาข้อมูลเริ่มแรกทั้งหมดของคุณเอาไว้และควบคุมมุมมองเฉพาะของข้อมูลนั้น ให้สร้างสำเนาของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เริ่มแรกหรือสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อื่นเพิ่มเติม แล้วปรับแต่งให้ตรงกับเป้าหมายการรายงาน

ความแตกต่างระหว่างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เว็บไซต์และข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แอป

ในขณะที่สร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ คุณสามารถเลือกได้ระหว่างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แอปและข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เว็บ ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ทั้ง 2 ประเภทนี้จะให้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่เหมือนกันโดยมีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย

ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ทั้ง 2 ประเภทแสดงข้อมูลที่คุณส่งไปยังพร็อพเพอร์ตี้ได้โดยไม่คำนึงถึงวิธีการรวบรวม Hit เหล่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูข้อมูลเว็บในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แอปและข้อมูลแอปในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เว็บ

หากคุณรวบรวมและส่งข้อมูลเพียงประเภทเดียวไปยัง Google เราขอแนะนำให้ใช้ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่จะให้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ดีที่สุด เช่น หากรวบรวมข้อมูลจากแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างเดียว ให้เลือกแอปเมื่อสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ และหากรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเดียว ก็ให้เลือกเว็บไซต์

เมื่อข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้เว็บได้รับ Hit จากแอป เบราว์เซอร์จะแสดงเป็น Google Analytics ในรายงานเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการ (ในส่วนกลุ่มเป้าหมาย > เทคโนโลยี) 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10785866259787236277
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false