[GA4] เกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ควบรวม

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมมีให้ใช้เฉพาะในบัญชี Google Analytics 360 ซึ่งลิงก์กับองค์กรที่เป็นลูกค้า Google Marketing Platform และมีคําสั่งซื้อ 360 ที่ใช้งานอยู่เท่านั้น เฉพาะพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 360 เท่านั้นที่เป็นแหล่งที่มาของพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมแสดงมุมมองอย่างกว้างของธุรกิจในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ หรือภูมิภาคต่างๆ โดยการรวบรวมข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาหลายรายการไว้เป็นพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมรายการเดียว ตัวอย่างเช่น หากคุณมีพร็อพเพอร์ตี้แยกกันสําหรับแต่ละแบรนด์ที่บริษัทของคุณเป็นเจ้าของ ก็สามารถควบรวมพร็อพเพอร์ตี้เหล่านั้นเป็นพร็อพเพอร์ตี้เดียวซึ่งจะแสดงให้เห็นประสิทธิภาพโดยรวมของแบรนด์เหล่านั้น

ข้อจำกัด

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมอยู่ภายใต้ขีดจํากัดฟีเจอร์เช่นเดียวกับพร็อพเพอร์ตี้ 360 อื่นๆ

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมมีพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาได้สูงสุด 200 รายการ

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่สามารถเป็นแหล่งที่มาให้พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมรายการอื่น

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมจะมีทั้งพร็อพเพอร์ตี้ย่อยและพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาเป็นแหล่งที่มาไม่ได้ พร็อพเพอร์ตี้ย่อยหรือพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาเป็นแหล่งที่มาของพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้ แต่ไม่ใช่ทั้ง 2 ประเภทพร้อมกัน

พร็อพเพอร์ตี้ย่อยจะสร้างจากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่ได้

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาอื่นๆ เท่านั้น โดยจะไม่รวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง

การตั้งค่าที่คุณกําหนดให้พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมในหน้าผู้ดูแลระบบจะไม่มีผลต่อการกําหนดค่าของพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา ในทํานองเดียวกัน การตั้งค่าที่คุณกําหนดให้พร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาในหน้าผู้ดูแลระบบจะไม่มีผลต่อการกําหนดค่าของพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

สิทธิ์เข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมของผู้ใช้

พร็อพเพอร์ตี้ควบรวมไม่ได้รับช่วงผู้ใช้มาจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ลงในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมและกําหนดค่าสิทธิ์การเข้าถึงแยกจากผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา

ผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาโดยอัตโนมัติ

ผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาไม่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมโดยอัตโนมัติ

ผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาไม่ได้รับช่วงสิทธิ์ใดๆ จากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

ข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

ปัจจุบันพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่ได้รับมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา แต่คุณสามารถสร้างใหม่ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้

เมื่อสร้างพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม ให้เลือกพร็อพเพอร์ตี้ 360 ที่มีอยู่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูลสำหรับจัดทำภาพรวม ข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทั้งหมดจะรายงานเป็นชุดข้อมูลเดียวในภาพรวม ตัวอย่างเช่น

  • รายงานแบบเรียลไทม์แสดงจํานวนผู้ใช้ทั้งหมดในช่วง 30 นาทีที่ผ่านมาจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทุกรายการ
  • รายงานภาพรวมการสร้างรายได้แสดงรายได้ทั้งหมดจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทุกรายการ
  • รายงานภาพรวมการมีส่วนร่วมแสดงเวลาในการมีส่วนร่วมเฉลี่ยของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทุกรายการ

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมจะเริ่มรวบรวมข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาตั้งแต่วันที่เพิ่มพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาแต่ละรายการลงในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่สามารถมีเหตุการณ์ของตัวเองได้ ทุกเหตุการณ์ต้องมีอยู่ในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาก่อน ดังนั้นคุณจะเพิ่มหรือลบสตรีมข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม นําเข้าเหตุการณ์ออฟไลน์ หรือแก้ไขและสร้างเหตุการณ์ผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้ไม่ได้ แต่สามารถใช้ทริกเกอร์กลุ่มเป้าหมายในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่สร้างโดยทริกเกอร์กลุ่มเป้าหมายได้รับการประมวลผลแยกจากเหตุการณ์ที่รวบรวมฝั่งไคลเอ็นต์

เมื่อข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมแสดงในภาพรวม สําเนาของข้อมูลจะเป็นไปตามการกําหนดค่าของพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม (เช่น การตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้และข้อมูล ข้อมูลระบุตัวตนในการรายงาน การตั้งค่าการระบุแหล่งที่มา)

เมื่อคุณยกเลิกการเชื่อมต่อพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มากับภาพรวม ข้อมูลย้อนหลังจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาจะยังแสดงอยู่ในภาพรวม

หากคุณผสานรวมพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมกับผลิตภัณฑ์อื่น (เช่น Google Ads) ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทุกรายการจะส่งออกไปยังผลิตภัณฑ์ที่ลิงก์นั้นได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผสานรวมผลิตภัณฑ์ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมในหัวข้อถัดไป

เมื่อคุณส่งคําขอลบข้อมูลของพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา ระบบจะลบข้อมูลเดียวกันออกจากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมด้วย เมื่อคุณส่งคําขอลบข้อมูลของพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม ระบบจะลบข้อมูลดังกล่าวออกจากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมเท่านั้น

การลิงก์ผลิตภัณฑ์ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

คุณลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมและพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มากับบัญชี Google Ads ได้สูงสุด 400 รายการที่ไม่ซ้ำกัน ลิงก์ที่ไม่ซ้ำกันประกอบด้วยลิงก์ที่มาจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาแต่ละรายการ และลิงก์ที่สร้างขึ้นภายในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม (ระบบจะนับการลิงก์กับบัญชี Google Ads เดียวกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น) หากลิงก์ทั้งหมดเกิน 400 รายการ Analytics จะปิดใช้ลิงก์ที่สร้างขึ้นล่าสุดจนกว่าจะอยู่ในขีดจํากัด 400 รายการ (ลิงก์ที่ปิดใช้งานแล้วจะแสดงในแท็บไม่ได้ใช้งานในตารางลิงก์ที่ไม่ซ้ำกัน)

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมต้องมีลิงก์ของตัวเองไปยังผลิตภัณฑ์นั้น เพื่อให้ส่งออกข้อมูลไปยังผลิตภัณฑ์ได้ เช่น หากต้องการส่งออกกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไปยัง Google Ads คุณต้องสร้างลิงก์ระหว่างพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมกับบัญชี Google Ads

สําหรับการรายงาน การลิงก์พร็อพเพอร์ตี้แต่ละรายการ (ภาพรวมหรือแหล่งที่มา) จะนําเข้าข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ที่ลิงก์ (หากมี) เพื่อขยายข้อมูลเหตุการณ์ที่มีอยู่ให้กว้างขึ้น เช่น เมื่อคุณลิงก์กับ Google Ads และเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ พร็อพเพอร์ตี้จะนําเข้ามิติข้อมูลของ Google Ads เช่น ประเภทเครือข่ายโฆษณา Google Ads และชื่อกลุ่มโฆษณา Google Ads เพื่อให้คุณประเมินเมตริกการได้ผู้ใช้ในบริบทของมิติข้อมูลเหล่านั้นได้

หากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไม่ได้ลิงก์กับผลิตภัณฑ์ แต่พร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาหลายรายการลิงก์กับผลิตภัณฑ์/บัญชีเดียวกันและมีการกําหนดค่าต่างกัน Analytics จะใช้การกําหนดค่าที่มีสิทธิ์สูงสุดของการลิงก์หลายรายการเหล่านั้น เช่น หากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา 2 รายการลิงก์กับบัญชี Google Ads เดียวกัน โดยที่การลิงก์รายการหนึ่งเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ ส่วนการลิงก์อีกรายการไม่เปิดใช้ ระบบจะเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติสําหรับการลิงก์ Google Ads ทั้ง 2 รายการในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม รวมทั้งนำเข้าข้อมูลค่าใช้จ่ายและข้อมูลแคมเปญของ Google Ads จากการผสานรวมข้อมูลของ Google Ads ทั้ง 2 รายการ

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมและพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาต่างก็มีการลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์เดียวกันได้อย่างอิสระ เช่น กับบัญชี Google Ads เดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์บางอย่างสามารถลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics เพียงรายการเดียว

  • ในบางกรณี Analytics จะจํากัดการผสานรวมกับพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาของ Analytics ตัวอย่างเช่น เมื่อลิงก์ Firebase กับ Analytics คุณจะต้องลิงก์โปรเจ็กต์ Firebase กับพร็อพเพอร์ตี้ทั่วไปของ Analytics 1 รายการ (ซึ่งอาจเป็นพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาได้ด้วย)
  • ในกรณีอื่นๆ คุณจะลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมหรือพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาได้ แต่ Analytics แนะนําให้ลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา ตัวอย่างเช่น เมื่อลิงก์ Search Console กับ Analytics คุณจะลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ Search Console กับสตรีมข้อมูลเว็บของ Analytics 1 รายการ แม้ว่าจะลิงก์กับสตรีมข้อมูลที่รับช่วงมาในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้ แต่เราขอแนะนําให้ลิงก์กับสตรีมข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา

จากทั้ง 2 กรณีที่อธิบายข้างต้น การลิงก์กับพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาทําให้การลิงก์และข้อมูลมีความสมบูรณ์

สร้างลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ

หากต้องการลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมกับผลิตภัณฑ์อื่น โปรดดูวิธีการลิงก์ของผลิตภัณฑ์นั้น

ข้อมูลทั้งหมดจากการผสานรวมผลิตภัณฑ์ของพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาจะอยู่ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

ปัจจุบันคุณสามารถลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมกับผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้

การรายงานในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

คอลเล็กชันของรายงาน

ระบบไม่นําเข้าคอลเล็กชันจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาไปยังพร็อพเพอร์ตี้ควบรวม

มิติข้อมูลและเมตริกที่กำหนดเอง

คุณสามารถสร้างมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้

กลุ่มเป้าหมาย

คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายในพร็อพเพอร์ตี้ควบรวมได้ กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นจะส่งออกผ่านการลิงก์ผลิตภัณฑ์เมื่อการลิงก์รองรับการส่งออกกลุ่มเป้าหมาย

เหตุการณ์สำคัญ

คุณทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมได้ แต่การดำเนินการนี้ไม่ได้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เดียวกันเป็นเหตุการณ์สําคัญในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา

เมื่อพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมผสานรวมกับผลิตภัณฑ์อื่น (เช่น Google Ads) ระบบจะส่งออกเหตุการณ์สำคัญจากพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมไปยังผลิตภัณฑ์อื่นเมื่อการผสานรวมนั้นรองรับการส่งออกเหตุการณ์สำคัญ (เช่นในกรณีของ Google Ads)

การประมวลผลผู้ใช้/ข้อมูลระบุตัวตน

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมจะกรองข้อมูลผู้ใช้ที่ซ้ำกันออกจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาเมื่อผู้ใช้ปรากฏโดยมีข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานเดียวกันในพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการ เช่น เมื่อผู้ใช้มีรหัสผู้ใช้เดียวกันหรือลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เดียวกัน เมื่อกรองข้อมูลผู้ใช้ที่ซ้ำกันออกแล้ว ระบบจะนับผู้ใช้ดังกล่าวเพียงครั้งเดียวสําหรับเมตริกผู้ใช้ (เช่น ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่) และสําหรับเมตริกที่คํานวณจากจํานวนผู้ใช้ (เช่น เวลาในการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ย เซสชันที่มีส่วนร่วมต่อผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่) ผู้ใช้ที่ผ่านการกรองข้อมูลแล้วจะรวมอยู่ในการดําเนินการ เช่น การป้อนข้อมูลล่วงหน้าหรือทดแทนข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย เพียงครั้งเดียวด้วย

Google Signals

หากต้องการประมวลผลข้อมูล Google Signals ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม คุณต้องเปิดใช้งาน Google Signals ในพร็อพเพอร์ตี้นั้นเช่นเดียวกับที่เปิดใช้งานในพร็อพเพอร์ตี้อื่นๆ เมื่อมีการเปิดใช้งานแล้ว หากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มารวบรวมข้อมูล Google Signals พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมก็จะประมวลผลข้อมูลนั้นด้วย

หากไม่เปิดใช้งาน Google Signals ในพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม พร็อพเพอร์ตี้นั้นจะไม่ประมวลผลข้อมูล Google Signals ที่ได้จากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา

ความคลาดเคลื่อนของข้อมูลระหว่างพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มากับพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวม

ความคาดหวังของลูกค้า

พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมจะกรองผู้ใช้ที่ซ้ำกันออกจากโดเมนต่างๆ เมื่อมีการวัดโดเมนเหล่านั้นด้วยสตรีมข้อมูลที่ต่างกัน

สาเหตุที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง

  • การใช้งานการติดตามผลแบบข้ามโดเมนในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาที่ไม่ถูกต้อง ระบบจึงไม่ได้กรองผู้ใช้ที่ซ้ำกันออกจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาอย่างถูกต้อง
  • ระบบรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ในโดเมนต่างๆ ในสตรีมข้อมูลที่ต่างกัน การวัดผลแบบข้ามโดเมนได้รับการกําหนดค่าภายในสตรีมข้อมูลเดียว ดังนั้น ระบบจะนับผู้ใช้รายเดียวที่ข้อมูลของผู้ใช้ได้รับการรวบรวมไว้ในสตรีมข้อมูลหลายรายการเป็นผู้ใช้แยกต่างหากในสตรีมข้อมูลแต่ละรายการ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลแบบข้ามโดเมน

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
10213840992612758555
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false
false
false