คุณสามารถสร้างตัวกรองในระดับบัญชี จากนั้นจึงใช้ตัวกรองเหล่านี้กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ 1 หรือหลายรายการ
คุณสามารถสร้างตัวกรองในระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่ใช้กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นเท่านั้น รวมทั้งจัดการตัวกรองในระดับบัญชีที่มีการนำไปใช้กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นได้
บทความนี้ประกอบด้วยสิทธิ์
ผู้ใช้ที่มีบทบาทผู้แก้ไขที่ระดับบัญชีจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- สร้าง/แก้ไขตัวกรองที่ระดับบัญชี
- สร้าง/แก้ไขตัวกรองที่ระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- ใช้ตัวกรองกับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใดก็ได้ในบัญชี
ผู้ใช้ที่มีบทบาทผู้แก้ไขที่ระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้จะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ใช้ตัวกรองที่มีอยู่กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นๆ หรือลบตัวกรองออกจากข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้น แต่ไม่สามารถสร้างตัวกรองใหม่หรือแก้ไขตัวกรองที่มีอยู่ได้
สร้างตัวกรองในระดับบัญชี
วิธีสร้างตัวกรองในระดับบัญชี
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วไปที่บัญชีที่คุณต้องการสร้างตัวกรอง
- ในคอลัมน์บัญชี ให้คลิกตัวกรองทั้งหมด
- คลิก + เพิ่มตัวกรอง (หากไม่เห็นปุ่มนี้ แสดงว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จำเป็น)
- ป้อนชื่อสำหรับตัวกรอง
- เลือกกำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อเลือกจากประเภทตัวกรองที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- เลือกกำหนดเองเพื่อสร้างต้วกรองที่กำหนดเองจากตัวเลือกที่เรามีให้ หากคุณสร้างตัวกรองที่กำหนดเอง ให้ดูคำจำกัดความของช่องตัวกรอง
หมายเหตุ: Chrome นำการอัปเดตต่างๆ มาปรับใช้เพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการลดรายละเอียดของข้อมูลที่ใช้ได้ผ่านเบราว์เซอร์ การอัปเดตเหล่านี้อาจส่งผลให้ช่องต่างๆ ต่อไปนี้มีข้อมูลจํากัดหรือไม่มีข้อมูล
- แบรนด์ของอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ชื่อทางการตลาดของโทรศัพท์มือถือ
- รุ่นโทรศัพท์มือถือ
- ตัวเลือกวิธีป้อนข้อมูลมือถือ
- เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ
- ความละเอียดของหน้าจอ
- จากรายการข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่มี ให้เลือกข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการใช้ตัวกรอง จากนั้นคลิกเพิ่ม
- คลิกบันทึก
โดยค่าเริ่มต้น ตัวกรองของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้จะถูกนำไปใช้กับข้อมูลโดยเรียงตามลำดับที่ตัวกรองถูกเพิ่มลงไป ดังนั้น หากมีตัวกรองอยู่แล้วในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ตัวกรองใหม่ของคุณจะถูกใช้หลังจากตัวกรองเหล่านั้น หากต้องการจัดลำดับตัวกรองของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใหม่ โปรดทำตามคำแนะนำด้านล่าง
สร้างตัวกรองในระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
วิธีสร้างตัวกรองในระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วไปที่ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการสร้างตัวกรอง
- ในคอลัมน์ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ คลิกตัวกรอง
- คลิก + เพิ่มตัวกรอง (หากไม่เห็นปุ่มนี้ แสดงว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จำเป็น)
- เลือกสร้างตัวกรองใหม่
- ป้อนชื่อสำหรับตัวกรอง
- เลือกกำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อเลือกจากประเภทตัวกรองที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- เลือกกำหนดเองเพื่อสร้างต้วกรองที่กำหนดเองจากตัวเลือกที่เรามีให้ หากคุณสร้างตัวกรองที่กำหนดเอง ให้ดูคำจำกัดความของช่องตัวกรอง
หมายเหตุ: Chrome นำการอัปเดตต่างๆ มาปรับใช้เพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการลดรายละเอียดของข้อมูลที่ใช้ได้ผ่านเบราว์เซอร์ การอัปเดตเหล่านี้อาจส่งผลให้ช่องต่างๆ ต่อไปนี้มีข้อมูลจํากัดหรือไม่มีข้อมูล
- แบรนด์ของอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ชื่อทางการตลาดของโทรศัพท์มือถือ
- รุ่นโทรศัพท์มือถือ
- ตัวเลือกวิธีป้อนข้อมูลมือถือ
- เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ
- ความละเอียดของหน้าจอ
- จากรายการข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่มี ให้เลือกข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการใช้ตัวกรอง จากนั้นคลิกเพิ่ม
- คลิกบันทึก
เปลี่ยนลำดับตัวกรองของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- เลือกแท็บผู้ดูแลระบบ แล้วไปยังข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการสร้างตัวกรองไว้
- ในคอลัมน์ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ คลิกตัวกรอง
- คลิกกำหนดลำดับตัวกรอง เลือกตัวกรองที่คุณต้องการย้าย แล้วคลิกเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลง คลิกบันทึกเมื่อเสร็จสิ้น
- หากคุณต้องการนำตัวกรองออกจากข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ให้คลิกนำออกในแถวของตัวกรองนั้น
เพิ่มหรือนำตัวกรองที่มีอยู่ออกจากข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วไปที่ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการเพิ่มหรือนำตัวกรองออก
- ในคอลัมน์ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ คลิกตัวกรอง
- คลิก + เพิ่มตัวกรอง
- เลือกใช้ตัวกรองที่มีอยู่
- เพิ่มหรือลบตัวกรองตามความจำเป็น
- คลิกบันทึก