การยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจ

Google แปลเนื้อหาในศูนย์ช่วยเหลือไว้หลายภาษา โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของนโยบาย อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันทางการที่เราบังคับใช้นโยบายคือเวอร์ชันภาษาอังกฤษ หากต้องการดูบทความนี้ในภาษาอื่น โปรดเลือกภาษาจากเมนูแบบเลื่อนลงท้ายหน้า

Google Ads Business Operations Verification (BOV) Process: Overview

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


การยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจคืออะไร

Google กำหนดให้ผู้ลงโฆษณาทำโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานโฆษณาที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย เราอาจขอให้คุณยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจในโปรแกรมนี้ ซึ่งอาจรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น

  • โมเดลธุรกิจ (เช่น ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต แอฟฟิลิเอต ผู้จัดหาสินค้าหรือบริการโดยตรง)
  • ข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจ
  • สินค้า/บริการที่เสนอ
  • การดำเนินธุรกิจ
  • ความสัมพันธ์กับแบรนด์ที่โฆษณาหรือบุคคลที่สาม (หากมี)

จากนั้น Google จะใช้ข้อมูลที่คุณให้มาในการยืนยันการดำเนินธุรกิจของคุณ และแสดงการเปิดเผยโฆษณาโดยมีชื่อของคุณ ชื่อธุรกิจที่คุณเป็นตัวแทน และสถานที่ตั้งซึ่งลิงก์มาจากโฆษณาที่คุณแสดง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในความโปร่งใสของโฆษณา

ใครควรยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจ

ผู้ลงโฆษณาทุกรายที่ได้รับเลือกให้ยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจจะได้รับแจ้งทางอีเมลและการแจ้งเตือนในบัญชี และต้องดำเนินการยืนยันดังกล่าว

ตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจทำให้คุณได้รับเลือกให้ยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจ

  • คุณลงโฆษณาตามคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือคำค้นหาของผู้ใช้ในประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการละเมิด การฉ้อโกง และกลโกง (เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว บริการให้ความช่วยเหลือลูกค้าหรือการสนับสนุนด้านเทคนิค และบริการทางการเงิน)
  • ระบบชี้ว่าลักษณะการลงโฆษณาของคุณไม่ชัดเจน หรือเนื้อหาโฆษณาเข้าข่ายทำให้เกิดความเข้าใจผิด
  • บัญชีของคุณถูกระงับเนื่องจากละเมิดนโยบาย Google Ads เราอาจขอให้คุณทำการยืนยันนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยื่นอุทธรณ์การระงับบัญชีและขั้นตอนการแก้ไข บัญชีของคุณจะยังถูกระงับต่อไปจนกว่าจะดำเนินการตามโปรแกรมการยืนยันเสร็จสมบูรณ์

บุคคลที่ทำการยืนยันควรเป็นผู้ดูแลบัญชีซึ่งคุ้นเคยกับการดำเนินธุรกิจและการโฆษณาของบัญชี Google Ads นั้น

ในบางกรณี เราอาจระงับบัญชีของผู้ลงโฆษณาชั่วคราวทันทีที่เริ่มโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณา ซึ่งหมายความว่าโฆษณาของผู้ลงโฆษณาจะไม่สามารถแสดงได้จนกว่าจะดําเนินการตามโปรแกรมเสร็จสมบูรณ์ ดูเหตุผลเพิ่มเติมในการระงับบัญชีชั่วคราวโดยทันทีเพื่อการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาได้ที่นี่

คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาให้เรียบร้อย บัญชีจึงจะกลับมาแสดงโฆษณาอีกครั้งได้ ผู้ลงโฆษณาไม่ควรสร้างบัญชีใหม่ในระหว่างหรือหลังจากที่ทำกระบวนการยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ เนื่องจากระบบอาจระงับบัญชีที่สร้างใหม่ไว้ชั่วคราวด้วย

ฉันจะยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร

ผู้ลงโฆษณาจะเริ่มกระบวนการยืนยันตัวตน ตรวจสอบสถานะและความคืบหน้าของการยืนยันตัวตน รวมไปถึงดูเหตุผลของการยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ (หากมี) ได้ในบัญชี Google Ads โปรดดูคำแนะนำทีละขั้นตอนด้านล่าง

คำแนะนำทีละขั้นตอน

  1. คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน ไอคอนการเรียกเก็บเงิน ในบัญชี Google Ads แล้วคลิกการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณา หน้านี้ยังเข้าได้จากข้อความแจ้งและการแจ้งเตือนในบัญชีอีกด้วย

รูปภาพนี้แสดงการยืนยันการดำเนินธุรกิจในแท็บการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาใน Google Ads

  1. ตรวจสอบว่าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งต่อไปนี้ปรากฏในส่วน "สถานะของคุณ" ในหน้านั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นการระบุว่าคุณต้องยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์
    • ยืนยันการดำเนินธุรกิจของคุณ
    • ยืนยันการดำเนินธุรกิจของลูกค้า

หากขั้นตอนข้างต้นไม่ปรากฏในหน้านั้น เป็นไปได้ว่าคุณไม่ต้องยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจ

  1. คลิกเริ่มต้นข้างขั้นตอนนั้น แล้วกรอกแบบฟอร์มใบสมัครให้เสร็จ

สิ่งที่ควรทำขณะกรอกแบบฟอร์มใบสมัคร

  • แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอต่อการยืนยันตัวตน เช่น ในกรณีองค์กร ให้แนบใบทะเบียนพาณิชย์ด้วย เราอาจขอให้คุณแนบใบอนุญาตหากดำเนินธุรกิจประเภทที่ต้องมีการจดทะเบียน (เช่น การดูแลสุขภาพ การเช่ารถ การเงิน)
  • กรอกชื่อและ/หรือประเทศให้ตรงกันในคำตอบทั้งหมดและเอกสารทุกฉบับ
  • กรอกข้อมูลผู้จัดหาสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้าปลายทางอย่างเพียงพอ หากคุณเป็นตัวแทนจำหน่ายและ/หรือนักการตลาดแบบแอฟฟิลิเอต ให้กรอกรายละเอียด (เช่น ชื่อ ข้อมูลติดต่อ และเอกสารที่แสดงความสัมพันธ์) ของธุรกิจที่จัดส่งสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้าปลายทาง
  • กรอกรายละเอียดความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ (เช่น เอเจนซีการตลาดที่เข้าถึงบัญชี Google Ads ของคุณ ผู้ให้บริการปลายทาง โฮสต์หรือเจ้าของโดเมน) จากนั้นยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับแต่ละฝ่าย (เช่น ข้อตกลงหรือสัญญาอย่างเป็นทางการ เอกสารที่ระบุความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีหัวจดหมายเป็นของบริษัทนั้นๆ)
  • คำตอบในแบบฟอร์มการยืนยันต้องตรงกันและตรงกับข้อมูลที่คุณให้ไว้ในบัญชี Google Ads เช่น ใส่เว็บไซต์ที่ถูกต้องและเชื่อมโยงกับบัญชี Google Ads ของคุณ
  • เอกสารที่แนบมาจะต้องไม่มีปัญหาด้านเทคนิค ทั้งนี้ Google จะไม่รับเอกสารที่เป็นไฟล์ ZIP, ลิงก์ไปยังโฟลเดอร์ หรือภาพหน้าจอของหน้าเว็บ เอกสารยังต้องอ่านออกได้ง่าย ไม่มีแสงสะท้อนหรือข้อความเบลอ

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันไม่ยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาที่กำหนด

บัญชี Google Ads จะถูกระงับชั่วคราวหากคุณไม่ทำการยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจและการยืนยันอื่นๆ ทั้งหมดที่ขอในโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณา (หากมี) ให้เสร็จสมบูรณ์ภายในกำหนดเวลา ในบางกรณี เราอาจระงับบัญชี Google Ads ชั่วคราวทันทีที่เริ่มโปรแกรมการยืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าโฆษณาจะไม่สามารถแสดงได้จนกว่าคุณจะทำการยืนยันในโปรแกรมเสร็จสมบูรณ์

ฉันได้รับแจ้งว่ายืนยันข้อมูลการดำเนินธุรกิจไม่สำเร็จ ข้อความนี้หมายความว่าอะไร

หากเรายืนยันการดำเนินธุรกิจของคุณไม่ได้หลังจากตรวจสอบข้อมูลที่ส่งเข้ามาแล้ว เราจะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลและข้อความแจ้งในบัญชีพร้อมระบุเหตุผลที่ยืนยันไม่สำเร็จ โปรดดูคำอธิบายเหตุผลที่ยืนยันไม่สำเร็จแต่ละข้อด้านล่าง

ข้อมูลไม่ตรงกันหรือไม่ตรงกับบัญชี Google Ads ของคุณ

ข้อมูลที่คุณส่งเข้ามาในแบบฟอร์มการยืนยันไม่ตรงกับข้อมูลในเอกสารที่แนบมาด้วย ข้อมูลไม่ตรงกันที่เราพบอาจเกิดจากสาเหตุที่พบบ่อยบางส่วนต่อไปนี้
  • ชื่อองค์กรที่ส่งไม่ตรงกับชื่อองค์กรในเอกสารการจดทะเบียนที่ส่งเข้ามา
  • ชื่อที่ส่งไม่ตรงกับชื่อในบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการที่ส่งเข้ามา

นอกจากนี้ คำตอบในแบบฟอร์มการยืนยันไม่ควรขัดแย้งกับข้อมูลเดิมในบัญชี Google Ads ของคุณ

ข้อมูลไม่ตรงกันที่เราพบอาจเกิดจากสาเหตุที่พบบ่อยบางส่วนต่อไปนี้

  • รายละเอียดในแบบฟอร์มการยืนยัน (เช่น ชื่อในการเปิดเผยโฆษณา ที่อยู่บริษัท ฯลฯ) ไม่ตรงกับชื่อในบัญชี Google Ads ของคุณ
  • เว็บไซต์ที่แนบมาไม่ถูกต้องหรือไม่เชื่อมโยงกับบัญชี Google Ads ของคุณ (กล่าวคือ เว็บไซต์ไม่เชื่อมโยงกับโฆษณาใดเลยในบัญชีของคุณ)

มีข้อมูลความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกับบัญชีไม่เพียงพอ

เมื่อส่งแบบฟอร์มการยืนยันแล้ว ถือว่าคุณระบุว่าบริษัทของคุณมีความสัมพันธ์กับธุรกิจอื่นๆ หรือมีการระบุความสัมพันธ์นั้นๆ ในการตรวจสอบข้อมูลแล้ว แต่คุณไม่ได้ให้ข้อมูลเพียงพอให้เรายืนยันความสัมพันธ์นี้ได้อย่างถูกต้อง
ขณะกรอกแบบฟอร์มการยืนยัน ให้ใส่รายละเอียดความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงฝ่ายต่อไปนี้
  • เอเจนซีการตลาดที่เข้าถึงบัญชี Google Ads
  • ผู้ให้บริการปลายทาง หากไม่ใช่เอเจนซีการตลาดข้างต้น
  • เจ้าของโดเมน หากไม่ใช่เอเจนซีการตลาดข้างต้น
  • ฝ่ายอื่นที่อาจเกี่ยวข้องกับบัญชี Google Ads (ผู้ที่เข้าสู่ระบบบัญชี Google Ads)

นอกจากนี้ เรายังกำหนดให้ระบุข้อมูลที่ใช้ยืนยันความสัมพันธ์กับแต่ละฝ่าย โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องดังตัวอย่างบางส่วนต่อไปนี้

  • เอกสารที่เป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์กับแบรนด์หรือคู่สัญญาฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อตกลงหรือสัญญาอย่างเป็นทางการ
  • เอกสารอธิบายความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์ที่มีหัวจดหมายเป็นของบริษัทนั้นๆ
  • เอกสารอื่นที่ใช้ได้ เช่น ใบแจ้งหนี้หรืออีเมลจากบริษัทอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เรายืนยันการอ้างความสัมพันธ์ได้

หากไม่มีเอกสารที่กล่าวมาข้างต้น ให้ระบุตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันและเว็บไซต์ยืนยัน เพื่อใช้ยืนยันความสัมพันธ์ดังกล่าว

หมายเหตุ: คุณสามารถซ่อนหรือตัดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือข้อมูลส่วนบุคคลออกได้

มีข้อมูลผู้จัดหาสินค้าหรือบริการไม่เพียงพอ

รายละเอียดที่ให้ไว้ในแบบฟอร์มการยืนยันไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะช่วยให้เราเข้าใจว่าใครคือผู้จัดหาสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้าปลายทาง
ยกตัวอย่าง หากคุณเป็นตัวแทนจำหน่ายและ/หรือนักการตลาดแบบแอฟฟิลิเอต โปรดระบุรายละเอียดของธุรกิจที่จัดส่งสินค้าและบริการให้ลูกค้าปลายทางดังตัวอย่างบางส่วนต่อไปนี้
  • ชื่อ
  • ข้อมูลติดต่อ
  • เอกสารที่เป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์กับแบรนด์หรือคู่สัญญาฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อตกลงหรือสัญญาอย่างเป็นทางการ
หมายเหตุ: คุณสามารถซ่อนหรือตัดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือข้อมูลส่วนบุคคลออกได้

มีเอกสารระบุตัวตนและใบอนุญาตไม่เพียงพอ 

เมื่อส่งแบบฟอร์มการยืนยัน เราขอให้คุณระบุว่าเป็นองค์กร บุคคลธรรมดา หรือธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียน

เราขอให้คุณแนบเอกสารเพิ่มเติมโดยขึ้นอยู่กับสถานะที่คุณเลือก เพื่อยืนยันตัวตนของคุณเอง

หากคุณเป็นองค์กร โปรดแนบเอกสารดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • ใบทะเบียนพาณิชย์/ใบทะเบียนที่ทางราชการออกให้
  • ใบอนุญาตที่ต้องใช้หากดำเนินธุรกิจประเภทที่ต้องมีการจดทะเบียน (เช่น การดูแลสุขภาพ การเช่ารถยนต์ การเงิน)

หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาหรือธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียน ให้แนบเอกสารที่ระบุในแบบฟอร์มการยืนยัน

หมายเหตุ: คุณสามารถซ่อนหรือตัดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือข้อมูลส่วนบุคคลออกได้

เอกสารที่ส่งมีปัญหา

เอกสารที่ส่งต้องเป็นไปตามเกณฑ์ต่อไปนี้

  • เอกสารต้องอยู่ในรูปแบบที่เรารับ ได้แก่ PDF, JPG, JPEG หรือ PNG
  • เอกสารที่ขอต้องเป็นที่ยอมรับและใช้ได้
  • เอกสารต้องลงนามและวันที่
  • เอกสารที่อัปโหลดต้องเป็นเอกสารสี หากต้นฉบับเป็นเอกสารสี
  • แนบเอกสารทุกหน้า

เอกสารที่ไม่รับในกระบวนการยืนยันตัวตน

  • เอกสารที่เป็นไฟล์ ZIP หรือลิงก์ไปยังโฟลเดอร์
  • เอกสารที่อ่านไม่ออกหรือเบลอ เอกสารต้องอ่านออกได้ง่าย ไม่มีแสงสะท้อนหรือข้อความเบลอ
  • ภาพหน้าจอของหน้าเว็บ
หมายเหตุ: คุณสามารถซ่อนหรือตัดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือข้อมูลส่วนบุคคลออกได้

ไม่สามารถยืนยันตัวตนของคุณได้

เรายืนยันตัวตนของคุณไม่ได้เนื่องจากเหตุผลอย่างน้อย 1 ข้อต่อไปนี้
  • ชื่อองค์กรที่ส่งไม่ตรงกับชื่อองค์กรในเอกสารการจดทะเบียนที่ส่งเข้ามา
  • ชื่อที่ส่งไม่ตรงกับชื่อในบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการที่ส่งเข้ามา
  • ชื่อในการเปิดเผยโฆษณาที่ระบุในแบบฟอร์มการยืนยันไม่ตรงกับชื่อในบัญชี Google Ads ของคุณ
  • ประเทศในโปรไฟล์การชำระเงินไม่ตรงกับประเทศในเอกสารจดทะเบียนและ/หรือบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ส่งเข้ามา

หากต้องการความช่วยเหลือ

หากมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายของเรา โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุน Google Ads

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก