การแจ้งเตือน

หากต้องทํางานกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานจากระยะไกลและในสํานักงาน โปรดดูวิธีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการทํางานแบบผสมผสาน

จัดกิจกรรมทางไกลที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

บทแนะนําทางธุรกิจของ Google Workspace

 สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้มีดังนี้

วิธีจัดกิจกรรมออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น การประชุมทางวิดีโอและสตรีมแบบสดโดยใช้ Google Meet 

สิ่งที่ต้องมี

10 นาที

บัญชี บัญชี Google Workspace หากยังไม่มี ให้เริ่มช่วงทดลองใช้ 14 วันได้เลย

" "

ในบทแนะนำนี้

สร้างกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมภายในและภายนอก สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล
" "

1. สร้างกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมภายในและภายนอก

ขยายทั้งหมด  |  ยุบทั้งหมดยุบทั้งหมด

ภาพรวม

วิดีโอต่อไปนี้แสดงวิธีสร้างกิจกรรมการประชุมทางวิดีโอสําหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 500 คน หากมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คน ให้สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดแทน

1.1 สร้างกิจกรรมในปฏิทิน
  1. เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
  2. ไม่บังคับ: หากต้องการเพิ่มผู้เข้าร่วมในกิจกรรม ให้คลิกค้นหาผู้คนทางด้านซ้าย แล้วพิมพ์ชื่อของผู้เข้าร่วม
  3. คลิกเวลาในปฏิทินที่ยังไม่ได้กำหนดเวลากิจกรรมไว้
  4. ใส่ชื่อและรายละเอียดกิจกรรม
  5. คลิกบันทึก

เคล็ดลับ: หากต้องการสร้างกิจกรรมที่ใช้เวลานานขึ้น ให้ลากเมาส์ลงมาที่ด้านล่างของหน้าเมื่อเลือกเวลา

1.2 สร้างกิจกรรมสำหรับการทำงานร่วมกัน

ก่อนเริ่มกิจกรรม: สร้างกำหนดการและแชร์เนื้อหา

  1. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในหน้าแรกของ Google เอกสาร 

    • หากต้องการเริ่มต้นด้วยเอกสารเปล่า ให้คลิกสร้าง

    • หากต้องการใช้เทมเพลต ให้คลิกแกลเลอรีเทมเพลต คุณอาจลองใช้เทมเพลตบันทึกการประชุม
  2. เพิ่มรายละเอียดกำหนดการโดยใส่ลิงก์ของไฟล์ที่ต้องการทำงานร่วมกันด้วย

    หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่แชร์ในระดับที่เหมาะสม

  3. คลิกแชร์เพื่อเริ่มแชร์กำหนดการ
  4. แนบกำหนดการไว้ที่กิจกรรมในปฏิทิน
    1. ดับเบิลคลิกกิจกรรมดังกล่าวในตารางปฏิทิน
    2. คลิกเพิ่มไฟล์แนบ แล้วเลือกกำหนดการ
    3. คลิกบันทึก
    4. คลิกส่ง

โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับการแชร์และระดับการเข้าถึงได้ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งาน Google เอกสาร

ระหว่างจัดกิจกรรม: เปิด 2 หน้าต่างใน Chrome

  1. เข้าร่วมกิจกรรมใน Google Meet ในหน้าต่างแรก และใช้หน้าต่างนี้โต้ตอบกับผู้เข้าร่วม 

  2. แทนที่จะนำเสนอกำหนดการและเนื้อหาที่แชร์ใน Google Meet ให้เปิดกำหนดการหรือเนื้อหาที่แชร์ในอีกหน้าต่างเพื่อดูและทำงานร่วมกับแบบเรียลไทม์  

  3. เปิดหน้าต่างทั้งสองไว้ข้างกันเพื่อดูทั้งเนื้อหาและผู้เข้าร่วมพร้อมกัน
  4. แนะนำให้ผู้เข้าร่วมจัดหน้าจอแบบเดียวกัน

หมายเหตุ: ผู้นำเสนอกิจกรรมจะต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนหน้าเนื้อหาตามการนำเสนอ เช่น “คราวนี้ให้ดูสไลด์ที่ 5”

ไม่บังคับ: แชร์กระดานไวท์บอร์ดออนไลน์ระหว่างจัดกิจกรรม

หากองค์กรใช้ Jamboard คุณอาจให้ผู้เข้าร่วมระดมสมองกันโดยใช้ไวท์บอร์ดออนไลน์ได้ เปิดเว็บแอป Jamboard โดยไปที่ https://jamboard.google.com หรือเปิด Jam ในแอป Jamboard บนอุปกรณ์เคลื่อนที่แล้วแชร์ในระหว่างจัดกิจกรรม ทุกคนจะวาดเขียน เพิ่มรูปภาพ หรือเปิดไฟล์ของ Google ในระหว่างที่ใช้ Jam อยู่ได้
 

1.3 เข้าร่วมกิจกรรม

เข้าร่วมกิจกรรมจาก Gmail

  1. เปิด Gmail แล้วคลิก Meet ในแถบด้านข้าง
  2. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • คลิกการประชุมใหม่เพื่อเริ่มการประชุมใหม่เข้าร่วมเลย
    • คลิกเข้าร่วมการประชุม แล้วป้อนชื่อเล่นหรือรหัสการประชุมเข้าร่วม
    • หากต้องการเข้าร่วมการประชุมที่กําหนดเวลาไว้ ให้ชี้ไปที่การประชุมในส่วนการประชุมของฉันเข้าร่วมเลย

เข้าร่วมกิจกรรมจากปฏิทิน

  1. คลิกกิจกรรมที่ต้องการเข้าร่วมใน Google ปฏิทิน
  2. คลิกเข้าร่วมด้วย Google Meet
  3. ในหน้าต่างที่เปิดขึ้นมา ให้คลิกเข้าร่วมเลย 

เข้าร่วม Hangouts Meet.

เข้าร่วมกิจกรรมจาก Meet

หากการประชุมอยู่ในรายการกิจกรรมที่กำหนดเวลาไว้ใน Meet ให้เลือกการประชุมนั้นแล้วคลิกเข้าร่วมเลย หรือจะเข้าร่วมโดยใช้รหัสการประชุมก็ได้ โดยทำดังนี้

  1. ป้อน https://meet.google.com ในเว็บเบราว์เซอร์
  2. คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นจากนั้นป้อนรายละเอียดจากนั้นคลิกเข้าร่วม
    • รหัสการประชุมคือชุดตัวอักษรที่อยู่ท้ายลิงก์การประชุม โดยคุณไม่จำเป็นต้องป้อนเครื่องหมายขีดกลาง
    • คุณจะใช้ชื่อเล่นการประชุมได้เฉพาะกับคนในองค์กรของคุณเท่านั้น ฟีเจอร์นี้มีให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Google Workspace เท่านั้นในขณะนี้
    • หากองค์กรซื้อและติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet คุณก็จะพิมพ์รหัสหรือชื่อเล่นการประชุมลงในอุปกรณ์นั้นได้เช่นกัน

  3. คลิกเข้าร่วมเลย

หากพบปัญหาในการเข้าร่วมการประชุม โปรดดูหัวข้อการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าร่วมและการสร้างการประชุม

1.4 นำเสนอระหว่างจัดกิจกรรม
ผู้จัดการประชุมที่มี Google Workspace for Education สามารถป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมแชร์หน้าจอของตนเองได้ 
  1. ใน Google ไดรฟ์ ให้เปิดไฟล์ Google เอกสาร, Google ชีต หรือ Google สไลด์ที่ต้องการแชร์หรือนำเสนอ
  2. (ไม่บังคับ) หากต้องการแก้ไขเอกสาร สเปรดชีต หรืองานนำเสนอพร้อมกันกับผู้เข้าร่วม ให้ดำเนินการดังนี้
    1. ที่มุมขวาบน ให้คลิกแชร์
    2. เพิ่มชื่อในเอกสาร แล้วคลิกบันทึก
    3. เพิ่มผู้เข้าร่วมการประชุมและให้สิทธิ์เอดิเตอร์กับทุกคน
    4. คลิกส่ง
  3. เปิด Google Meet และเข้าร่วมการประชุม
  4. คลิกนำเสนอทันทีแล้วเลือกสิ่งที่ต้องการแชร์ดังนี้
    • ทั้งหน้าจอ
    • หน้าต่าง
    • แท็บ
  5. คลิกแชร์

เคล็ดลับ: หากคุณไม่ได้ใช้เบราว์เซอร์ Chrome (ซึ่งจะซ่อนการแจ้งเตือนป๊อปอัปโดยอัตโนมัติ) ให้ปิดเสียงหรือปิดการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้ปรากฏขึ้นในระหว่างที่คุณนำเสนอ

หากกล้องเปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมจะยังคงเห็นวิดีโอในขณะที่คุณกำลังนำเสนอ

หากพบปัญหาในการนําเสนอ โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับกล้องและงานนําเสนอ

เข้าร่วมเพื่อนำเสนอเท่านั้น

เมื่อคุณเข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอ ระบบจะแสดงเฉพาะหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังการประชุม โดยจะไม่มีการรับหรือส่งเสียงและภาพอย่างอื่น

  1. ไปที่ https://meet.google.com/
  2. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • เลือกการประชุมที่กำหนดเวลาไว้
    • คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นจากนั้นป้อนรายละเอียดจากนั้นคลิกเข้าร่วม
  3. คลิกนำเสนอ
  4. เลือกหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันที่ต้องการ
  5. เลือกแชร์

หยุดนำเสนอ

เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใน Meet ตามวิธีที่ต้องการแชร์เนื้อหา

  • ทั้งหน้าจอหรือหน้าต่าง - คลิกหยุดนำเสนอที่ด้านบน หรือคลิกหยุดแชร์ที่ด้านล่าง
  • แท็บใน Chrome - คลิกหยุดที่ด้านบน
1.5 บันทึกวิดีโอกิจกรรม

การบันทึกใช้งานได้ใน Meet เวอร์ชันคอมพิวเตอร์เท่านั้น ผู้ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับแจ้งเตือนเมื่อเริ่มหรือหยุดการบันทึก แต่จะควบคุมการบันทึกไม่ได้

คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ
  1. เปิด Meet
  2. ที่ด้านล่างในการประชุมวิดีโอ ให้คลิกกิจกรรม จากนั้นการบันทึกจากนั้นเริ่มบันทึกจากนั้นเริ่ม
    ไปที่หัวข้อไม่พบปุ่มบันทึก หากจำเป็น
  3. รอให้การบันทึกเริ่มต้นขึ้น
    ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการบันทึกเริ่มขึ้นหรือหยุดลง
  4. คลิกหยุดการบันทึก เมื่อต้องการ
    หรือการบันทึกจะหยุดลงเมื่อทุกคนออกจากการประชุม
  5. คลิกหยุดการบันทึกอีกครั้งเพื่อยืนยัน

เมื่อระบบเตรียมไฟล์บันทึกพร้อมแล้ว ไฟล์นั้นจะถูกบันทึกไว้ไนโฟลเดอร์บันทึกของ Meet ในโฟลเดอร์ไดรฟ์ของฉันของผู้จัดการประชุม นอกจากนี้ระบบจะส่งอีเมลที่มีลิงก์ของไฟล์บันทึกให้กับผู้จัดการประชุมและบุคคลที่เริ่มการบันทึกด้วย

บันทึกการประชุม

↑ กลับไปด้านบน

" "

2 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด


 
ภาพรวม

คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานสตรีมแบบสดที่อัปเดตแล้ว

คุณสามารถเพิ่มสตรีมมิงแบบสดที่ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียวลงในกิจกรรมได้ เช่น การประชุมสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กร โดยผู้ใช้ในองค์กรจะเข้าร่วมได้สูงสุด 100,000 คน

สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอซึ่งจะเริ่มและหยุดสตรีมแบบสดระหว่างการประชุม รวมทั้งบันทึกวิดีโอกิจกรรมได้ จากนั้นก็สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวอีกรายการให้ผู้เข้าร่วม

2.1 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอ
  1. เปิด Google ปฏิทิน
  2. คลิกสร้างจากนั้นกิจกรรมจากนั้นตัวเลือกเพิ่มเติม
  3. เพิ่มรายละเอียดกิจกรรม เช่น วันที่ เวลา และคำอธิบาย
  4. เพิ่มผู้เข้าร่วมซึ่งจะมีสิทธิ์เต็มรูปแบบในการประชุมทางวิดีโอ
    • ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เพิ่มไว้ในกิจกรรมนี้จะเปิดกล้อง เปิดไมค์ และนำเสนอหน้าจอของตนเองได้
    • เพิ่มผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นและโดเมนที่น่าเชื่อถือได้ เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้นที่จะบันทึกและควบคุมสตรีมมิงได้
  5. คลิกลูกศรลงถัดจากเข้าร่วมด้วย Google Meet จากนั้น เพิ่มสตรีมแบบสด
  6. คลิกเพิ่มสตรีมแบบสดอีกครั้งเพื่อยืนยัน
  7. คลิกบันทึกจากนั้น ส่ง
    หมายเหตุ: สตรีมมิงจะไม่เริ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากต้องการเริ่มสตรีมมิงในระหว่างการประชุม ให้คลิก ที่ด้านขวาล่าง แล้วคลิกสตรีมมิงแบบสดจากนั้นเริ่มสตรีมมิง
2.2 สร้างกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว

หากต้องการเชิญเฉพาะคนที่คุณต้องการให้เข้าร่วมสตรีมสดแบบดูอย่างเดียว โปรดสร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียว ระบบจะเพิ่มกิจกรรมนี้ไปยังปฏิทินของผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว พร้อมระบุลิงก์การประชุม

ผู้เข้าร่วมจะไม่เห็นหรือได้ยินเสียงของคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และผู้ที่ได้รับเชิญจะนำเสนอ บันทึก หรือควบคุมสตรีมมิงไม่ได้ด้วย

เคล็ดลับ: หากได้รับเชิญ ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะเข้าร่วมสตรีมแบบสดได้ แม้ว่าบัญชีของผู้เข้าร่วมจะไม่รองรับสตรีมมิงแบบสดหรือองค์กรของผู้เข้าร่วมปิดสตรีมมิงแบบสดอยู่ก็ตาม

  1. เปิด Google ปฏิทิน
  2. คลิกกิจกรรมสตรีมแบบสดที่คุณสร้าง จากนั้น แก้ไข
  3. คลิกการดำเนินการเพิ่มเติม จากนั้นสร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวที่ด้านบน
  4. เพิ่มผู้เข้าร่วมหรือห้องประชุมที่มีสิทธิ์เข้าถึงแบบดูอย่างเดียว และรายละเอียดอื่นๆ เช่น คำอธิบาย
  5. คลิกบันทึกจากนั้น ส่ง
2.3 เริ่มกิจกรรมสตรีมแบบสด

หากผู้ดูแลระบบอนุญาต ผู้เข้าร่วมทุกคนที่อยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะมีสิทธิ์เริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ สตรีมแบบสดจะหยุดโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมง เนื่องจากสตรีมแบบสดมีเวลาจำกัดที่ 8 ชั่วโมง 

คุณเริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ในกรณีต่อไปนี้

  • คุณคือผู้จัด
  • คุณอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัด
  • ผู้ดูแลระบบอนุญาตให้คุณเข้าร่วมในสตรีมแบบสด
  • คุณเข้าร่วมในฐานะผู้เข้าร่วมเต็มรูปแบบ

ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูได้แต่จะควบคุมสตรีมแบบสดไม่ได้

  1. เปิด Google ปฏิทินและเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
  2. เลือกเพิ่มเติม จากนั้น เริ่มสตรีมมิง
  3. ยืนยันว่าคุณต้องการเริ่มสตรีมมิง เมื่อสตรีมมิงเปิดอยู่ ที่ด้านบนซ้ายระบบจะมีคำว่า “สด” แสดงอยู่ และผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูการประชุมได้โดยใช้ URL ของสตรีม
  4. เลือกเพิ่มเติม จากนั้น หยุดสตรีมมิง
  5. ยืนยันว่าคุณต้องการหยุดสตรีมมิง
หากพบปัญหาในการสตรีมมิง โปรดดูหัวข้อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสตรีมแบบสด
2.4 บันทึกวิดีโอกิจกรรมสตรีมแบบสด

ผู้เข้าร่วมที่มีสิทธิ์เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะบันทึกสตรีมแบบสดเพื่อให้ผู้คนรับชมกิจกรรมดังกล่าวหลังจากที่การประชุมสิ้นสุดแล้วได้ ระบบจะไม่บันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสดโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องเริ่มและหยุดการบันทึกด้วยตนเอง

หากต้องการบันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสด ให้คลิกเพิ่มเติม เพิ่มเติมจากนั้นบันทึกการประชุมในการประชุมดังกล่าว

โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อบันทึกการประชุมทางวิดีโอ

หากพบปัญหาเกี่ยวกับการบันทึก โปรดดูหัวข้อเล่น แชร์ ดาวน์โหลด หรือบันทึกวิดีโอการประชุม

2.5 ดูกิจกรรมสตรีมแบบสด
ผู้ที่ใช้ลิงก์สตรีมแบบสดจะโต้ตอบกับผู้เข้าร่วมการประชุมหรือคนอื่นๆ ที่กำลังดูสตรีมนี้ไม่ได้

ผู้เข้าร่วมจะดูกิจกรรมสตรีมแบบสดได้โดยวิธีต่อไปนี้

  • คลิกลิงก์สตรีมแบบสดในกิจกรรมของปฏิทินหรืออีเมล
  • ดูจากห้องประชุมที่เพิ่มลงในกิจกรรมและตั้งค่าด้วย Chromebox หรือ Chromebase สำหรับการประชุม

เมื่อดูกิจกรรมสตรีมแบบสด คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • แสดงหรือหยุดการเล่นสตรีมแบบสด
  • ปรับความเร็วในการเล่นและคุณภาพของวิดีโอ
  • เล่นวิดีโอในทีวี
  • เปลี่ยนเป็นโหมดเต็มหน้าจอ

หมายเหตุ: หากต้องการรับชมกิจกรรมนี้ในภายหลัง โปรดสอบถามผู้จัดการประชุมว่ามีไฟล์บันทึกหรือไม่ คุณจะรับชมสตรีมแบบสดได้ในขณะที่กำลังมีการถ่ายทอดสดอยู่เท่านั้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสตรีมมิงแบบสดได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Meet

↑ กลับไปด้านบน

" "

3. แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล


 
3.1 ตั้งค่าและทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต (หากมี) หากไม่มี ให้ใช้ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz (ส่วนความถี่ย่าน 2.4 GHz มักมีการใช้งานเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การเชื่อมต่อวิดีโอไม่เสถียร)
  • หากใช้ Wi-Fi ให้สร้างการประชุมทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าได้รับสัญญาณที่แรงเพียงพอในตำแหน่งที่จะใช้งาน หากคุณมองเห็นเราเตอร์ได้โดยตรง แปลว่าคุณได้รับสัญญาณแรงที่สุดแล้ว
  • หากการเชื่อมต่อช้า ให้ใช้การทดสอบความเร็วเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 3.2 Mbps
  • ขณะที่กำลังประชุมทางวิดีโอ ให้ลดกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีแบนด์วิดท์เพียงพอ
3.2 เลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
  • นั่งในบริเวณที่มีแสงเพียงพอโดยให้แสงกระทบใบหน้าและไม่ย้อนแสง เพื่อไม่ให้หน้ามีความมืดเกินไป ทำการทดสอบโดยลองเข้าร่วมประชุมกับเพื่อนร่วมงานเพื่อจัดตำแหน่งกล้องและแสงให้เหมาะสม
  • การใช้ฉากหลังเรียบๆ และห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเหมาะสมกับการประชุมทางธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด
  • ควรใช้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรอบข้างดัง ให้ปิดเสียงไมโครโฟนในขณะที่ไม่ได้พูด นอกจากนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์คำบรรยายสดของ Meet เพื่อแสดงคำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
3.3 เคล็ดลับเกี่ยวกับอุปกรณ์

หูฟัง ไมโครโฟน และกล้อง

  • ลองใส่หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยลดเสียงสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมได้
  • หากคุณต้องการพิมพ์ไปด้วยในขณะที่กำลังสนทนาอยู่ ให้ใช้ไมโครโฟนภายนอก เช่น ไมโครโฟนของชุดหูฟังหรือไมโครโฟน USB สำหรับพอดแคสต์
  • ชุดหูฟังและไมโครโฟนแบบมีสายมักให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย
  • อัปเกรดชุดหูฟัง ไมโครโฟน และกล้องให้เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิต
  • ตรวจสอบว่า Meet ใช้กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ถูกต้อง เช่น แม้คุณจะสวมชุดหูฟัง แต่ Meet อาจกำลังใช้ไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่

จัดการกับอุปกรณ์ที่ทำงานช้าหรือประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี

  • อัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
  • ลองนำเสนอจากแล็ปท็อปเครื่องอื่น (หากมี) หรือใช้สมาร์ทโฟน (ที่มีแอป Meet สำหรับ iOS หรือ Android ) เพื่อลดการใช้งาน CPU
  • ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการรับส่งข้อมูลของ Meet (เช่น ไฟร์วอลล์ในเครื่องและซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) อาจลดคุณภาพของวิดีโอ โปรดระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้รบกวนการประชุมทางวิดีโอ 
  • ใช้จอภาพเดียว การใช้จอภาพ 2 จอขึ้นไปอาจทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักเกินไป

    หากยังคงพบปัญหาคุณภาพของการประชุมทางวิดีโอของ Meet โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของวิดีโอและเสียงในการประชุม หรือรายงานปัญหา

3.4 ทดสอบการใช้งาน

สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 1 วัน

  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
  • เข้าร่วมการประชุมแบบทดสอบจากสถานที่ที่จะประชุมเพื่อตรวจสอบว่ากล้องและไมโครโฟนเชื่อมต่อดีแล้วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเสถียร

สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 10 นาที

  • ปิดแท็บทั้งหมดและรีสตาร์ทเบราว์เซอร์
  • หากต้องการนำเสนองาน ให้เปิดสไลด์แล้วเตรียมงานนำเสนอไว้ล่วงหน้า (การโหลดสไลด์จะทำให้ CPU ทำงานหนักขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอและเสียง)
  • หากต้องการเห็นผู้เข้าร่วมการประชุมพร้อมๆ กับดูงานนำเสนอ ให้เปลี่ยนเลย์เอาต์ของหน้าจอ
3.5 เคล็ดลับเกี่ยวกับการเตรียมตัวและมารยาท
  • ขอให้ผู้เข้าร่วมปิดเสียงเมื่อไม่ได้พูดเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน หากต้องการปิดหรือเปิดเสียงของคุณเอง ให้คลิกปิดเสียง หรือใช้แป้นพิมพ์ลัด ⌘/Ctrl + D
  • สร้างกฎในการประชุม เช่น กลับมาร่วมประชุมให้ตรงเวลาหลังจากพักเบรก หรือเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดบ้างตามความเหมาะสม
  • กำหนดวิธีขอโอกาสพูด เช่น ส่งข้อความแชทระหว่างการประชุมเพื่อเสนอหัวข้อหรือขอแสดงความคิดเห็น
  • ยอมรับหรือปฏิเสธผู้เข้าร่วมจากภายนอกตามความเหมาะสม ผู้ใช้ภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในกิจกรรมในปฏิทินจะต้องขออนุญาตเพื่อเข้าร่วมการประชุม โดยผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอที่อยู่ในโดเมนเดียวกับผู้จัดการประชุมจะต้องยอมรับคำขอดังกล่าวก่อน ผู้ใช้ภายนอกจึงจะเข้าร่วมได้ ดังนั้นโปรดขอให้ทุกคนเข้าร่วมการประชุมก่อนเวลา 10 นาทีเพื่อไม่ให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้า


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
พิมพ์ บันทึก หรือปรับแต่งคู่มือสำหรับศูนย์การเรียนรู้

ดูวิธีพิมพ์คู่มือสำหรับศูนย์การเรียนรู้ บันทึกคู่มือเป็นไฟล์ PDF หรือปรับแต่งคู่มือให้องค์กรของคุณ

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
11993745133333529518
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false