ในหน้านี้
เคล็ดลับในการติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน
ดูว่าบุคคลที่ต้องการติดต่อว่างอยู่ไหม
กรณีที่คุณมีคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องการที่จะรอถามในที่ประชุมหรือรอการตอบกลับทางอีเมล คุณก็ตรวจสอบว่าผู้ที่คุณต้องการติดต่อออนไลน์อยู่ใน Google Chat หรือไม่ แล้วจึงส่งข้อความถึงบุคคลดังกล่าวเพื่อให้ตอบกลับได้ทันที
ตรวจสอบเวลาว่างของบุคคลใน Chat หรือ Gmail
ไอคอนสถานะ | ข้อความสถานะ | ความหมายของสถานะ |
ใช้งานอยู่ | Gmail หรือ Google Chat เปิดอยู่ | |
ห้ามรบกวน |
ปิดเสียงการแจ้งเตือนของ Google Chat อยู่ *สําหรับบัญชีพื้นที่ทํางาน ข้อมูลนี้จะแสดงเฉพาะในระดับโดเมนเท่านั้น |
|
ไม่อยู่ |
|
|
ไม่มีความเคลื่อนไหว | คุณไม่ได้ใช้งาน Gmail หรือ Google Chat ในช่วง 5 นาทีที่ผ่านมา |
เริ่มวิดีโอคอลจาก Gmail
คุณสามารถเริ่มวิดีโอคอลใหม่ขณะอยู่ใน Gmail และเชิญผู้ที่คุณต้องการเข้าร่วม หรือจะเข้าร่วมวิดีโอคอลที่มีอยู่แล้วในปฏิทินก็ได้
ดูวิธีการได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Gmail
สนทนาผ่านวิดีโอหรือแชทแทนการส่งอีเมล
หากชุดข้อความในอีเมลมีขนาดค่อนข้างยาวหรือยากต่อการทำความเข้าใจ การพูดคุยด้วยตนเองน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า สนทนาแบบเห็นหน้ากันกับผู้ใช้รายใดก็ได้ทั่วโลก โดยใช้ Google Meet เพื่อเริ่มการประชุมทางวิดีโอ หรือหากต้องการคำตอบด่วนเพียงสั้นๆ คุณจะส่งข้อความผ่าน Google Chat หรือ Chat ใน Gmail เพื่อแชทสอบถามกันก็ได้
ดูวิธีการ
แชร์และทำงานร่วมกันโดยใช้พื้นที่ทำงานใน Chat
ไม่พลาดช่วงเวลาการระดมสมองในการประชุมครั้งต่อไป ทำงานร่วมกับทีมในพื้นที่ใน Chat การสนทนาจะจัดแบ่งเป็นชุดข้อความการสนทนาต่างๆ ในพื้นที่ทำงาน เพื่อให้คุณและทีมพูดคุยกันได้หลายเรื่องในเวลาเดียวกัน รวมถึงสนทนากับเพื่อนร่วมงาน แชร์ไฟล์และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ และทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์ของทีมได้ด้วย
ดูวิธีใช้พื้นที่ทำงานใน Google Workspace
นัดประชุมกับผู้รับอีเมลได้โดยตรงจากกล่องจดหมาย
หากการสนทนาทางอีเมลเริ่มมีเนื้อหาที่ยาวเกินไป การจัดประชุมน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพียงใช้ Gmail เพื่อนัดประชุมจากกล่องจดหมายได้โดยตรง โดยกิจกรรมนั้นจะใช้เรื่องอีเมลเป็นชื่อ ใช้ข้อความจากอีเมลเป็นคำอธิบาย และใช้ผู้ที่อยู่ในชุดข้อความอีเมลนั้นเป็นผู้เข้าร่วมโดยอัตโนมัติ
- เขียนอีเมลใน Gmail
- คลิกเพิ่มเติม
กำหนดเวลาการประชุม
สร้างกิจกรรม
- เพิ่มรายละเอียดในกิจกรรมใหม่แล้วคลิกบันทึก
ตั้งเวลาเพื่อส่งอีเมลในภายหลัง
หากคุณต้องทำงานร่วมกับสมาชิกในทีมในเขตเวลาที่ต่างกัน หรือกำลังอยู่ระหว่างวันหยุด แต่ยังต้องการส่งการอัปเดตให้กับคนอื่นเมื่อคุณไม่อยู่ ขอแนะนำให้ใช้ Gmail เพื่อเขียนอีเมลและตั้งเวลาให้ส่งในวันและเวลาที่ต้องการ
- ไปที่ Gmail ในคอมพิวเตอร์
- คลิกเขียนที่ด้านบนซ้าย
- เขียนอีเมล
- คลิกลูกศรลง
ที่ด้านซ้ายล่างถัดจาก "ส่ง"
- คลิกกำหนดเวลาส่ง
เคล็ดลับ: คุณมีอีเมลที่กำหนดเวลาไว้ได้สูงสุด 100 ฉบับ
ส่งข้อความถึงกลุ่มใหญ่โดยใช้อีเมลเดียวเพื่อประหยัดเวลา
หากต้องส่งอีเมลเกี่ยวกับโครงการหรือหัวข้อต่างๆ ถึงกลุ่มผู้ใช้เดิมๆ คุณจะประหยัดเวลาได้ด้วยการใช้ Groups เพื่อสร้างกลุ่มบุคคลดังกล่าวขึ้นมาแทน แล้วส่งข้อมูลไปยังอีเมลของกลุ่มหรือแชร์ไฟล์ให้กับทุกคนพร้อมกัน ดังนั้นการส่งข้อมูลอัปเดตล่าสุดไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องจึงทำได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น
สร้างอีเมลกลุ่ม
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Groups
- คลิกสร้างกลุ่มที่ด้านบน
- กรอกข้อมูลและเลือกการตั้งค่าสำหรับกลุ่ม การตั้งค่าที่แนะนํามีดังนี้
- ผู้ที่ดูการสนทนาได้: เฉพาะสมาชิกในทีมเท่านั้น สำหรับกรณีที่ต้องการให้การสื่อสารในโปรเจ็กต์เป็นส่วนตัว
- สมาชิกกลุ่ม: อีเมลของแต่ละบุคคลในทีมโปรเจ็กต์
- ผู้จัดการกลุ่ม: อีเมลของสมาชิกคนใดก็ได้ในทีมที่อาจต้องเพิ่มคนอื่นๆ เข้าในทีมภายหลัง
- เพิ่มสมาชิกโดยตรง: เปิดตัวเลือกนี้เพื่อควบคุมผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมกลุ่ม
- คลิกสร้างกลุ่ม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Groups
สนทนาทางอีเมลได้ดียิ่งขึ้น
แก้ไขการสะกดและไวยากรณ์ใน Gmail ให้ถูกต้อง
หากต้องการปรับปรุงเนื้อหาอีเมล เมื่อใช้ Gmail คุณใช้เครื่องมือแก้ไขอัตโนมัติและแก้ไขอีเมลให้ถูกต้องขณะป้อนข้อความได้ นอกจากนี้ คุณยังดูข้อผิดพลาดในการสะกดคำที่ขีดเส้นใต้เป็นสีแดงและข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ที่เป็นสีน้ำเงินได้อีกด้วย
ดูวิธีการ
เปิดหรือปิดเครื่องมือแก้ไขไวยากรณ์ ตรวจสอบการสะกด และการแก้ไขอัตโนมัติ
- เปิด Gmail ในคอมพิวเตอร์
- คลิกการตั้งค่า
ดูการตั้งค่าทั้งหมด
- คลิกทั่วไปที่ด้านบน
- เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับเครื่องมือต่อไปนี้
- ไวยากรณ์
- การสะกด
- การแก้ไขอัตโนมัติ
วิธีใช้เครื่องมือ
- คลิกเขียนใน Gmail
- เริ่มป้อนข้อความ
- ขณะป้อนข้อความ หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้
- เส้นสีน้ำเงินจะปรากฏขึ้นใต้ไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้อง
- เส้นสีแดงจะปรากฏขึ้นใต้คำที่สะกดผิด
- คุณอาจสังเกตเห็นว่าข้อผิดพลาดบางอย่างได้รับการแก้ไขโดยอัตโนมัติ เส้นประจะปรากฏขึ้นชั่วคราวใต้ข้อความที่แก้ไขแล้ว
- (ไม่บังคับ) หากต้องการยอมรับหรือละเว้นการสะกดหรือการเปลี่ยนแปลงไวยากรณ์ ให้คลิกข้อความที่ขีดเส้นใต้หรือใช้ปุ่มลูกศรเพื่อไปยังส่วนนั้นแล้วกด Tab กด Enter หรือคลิกที่คำแนะนำเพื่อยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือคลิกไม่สนใจ
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเลิกทำการแก้ไขอัตโนมัติ ให้คลิกข้อความที่ขีดเส้นใต้หรือใช้ปุ่มลูกศรเพื่อไปยังส่วนนั้นแล้วกด Tab ในลูกโป่งที่ปรากฏใต้ข้อความ ให้คลิกเลิกทำ
หรือกด Enter
- เมื่อพร้อมส่งอีเมล ให้คลิกส่ง
เกี่ยวกับแมชชีนเลิร์นนิง
คำแนะนำสำหรับการสะกดและไวยากรณ์ขับเคลื่อนโดยแมชชีนเลิร์นนิง เนื่องจากรูปแบบการทำความเข้าใจภาษาจะใช้วลีและประโยคทั่วไปหลายพันล้านข้อความเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลกโดยอัตโนมัติ แมชชีนเลิร์นนิงจึงสะท้อนอคติทางประชานของมนุษย์อีกด้วย การตระหนักถึงเรื่องนี้คือการเริ่มต้นที่ดีและยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีจัดการประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง Google มุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ดีสำหรับทุกคนและยังมุ่งมั่นทำการวิจัยเกี่ยวกับอคติที่ไม่ได้เจตนาและกลยุทธ์ในการบรรเทาปัญหานี้
ใช้เรื่องของอีเมลให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น
Gmail จะจัดกลุ่มอีเมลการสนทนาของหัวเรื่องที่เหมือนกันรวมไว้ในชุดข้อความเดียว ดังนั้นจึงควรเขียนหัวเรื่องของข้อความให้มีความเฉพาะเจาะจงเพื่อให้ระบบรวมข้อความเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกัน และทำให้ค้นหาข้อความได้ง่ายขึ้น ควรใส่คำที่แสดงถึงสิ่งที่ต้องดำเนินการไว้ในหัวเรื่องด้วยเพื่อให้ผู้รับเข้าใจได้ชัดเจนว่าต้องทำอะไร หากหัวข้อมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ก็เพียงแก้ไขเรื่องให้เหมาะสม เมื่อทำเช่นนี้ ระบบจะไม่เชื่อมโยงข้อความในกล่องจดหมายที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไว้ด้วยกัน
เปลี่ยนเรื่องของอีเมล
- คลิกลูกศรลง
แก้ไขเรื่องถัดจากประเภทการตอบกลับ
- ป้อนเรื่องใหม่
ตอบกลับอีเมลโดยแทรกในบรรทัด
ตอบกลับข้อความที่ตัดตอนมาจากอีเมลที่ยาวได้อย่างง่ายดาย เมื่อใช้เครื่องหมายคำพูดใน Gmail คุณจะชี้ทางให้ผู้รับไปยังส่วนต่างๆ ของข้อความที่คุณตอบได้
ตอบกลับอีเมลโดยใช้เครื่องหมายคำพูด
- เปิด Gmail แล้วคัดลอกส่วนของอีเมลที่ต้องการตอบ
- คลิกตอบกลับ
- คลิกตัวเลือกการจัดรูปแบบ
เครื่องหมายคำพูด
การดำเนินการนี้จะเพิ่มแถบสีเทาโดยทำเครื่องหมายตำแหน่งที่คุณอ้างอิงจากข้อความต้นฉบับ- วางข้อความต้นฉบับถัดจากแถบสีเทา
- กด Enter และป้อนการตอบกลับภายใต้ข้อความต้นฉบับ
โดยการตอบกลับจะไม่มีแถบสีเทา จึงทำให้ข้อความดังกล่าวดูโดดเด่นกว่าข้อความต้นฉบับ- คลิกส่ง
แนบรายการสนทนาในอีเมล
หากต้องการชี้แจงข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมเนื่องจากอธิบายทางอีเมลได้ไม่ครบ ให้เพิ่มไฟล์แนบในข้อความ ใช้ Gmail แนบไฟล์ขนาดไม่เกิน 25 MB หากต้องการเพิ่มไฟล์ขนาดไม่เกิน 30 GB เช่น วิดีโอและไฟล์การออกแบบ ให้แทรกไฟล์ในไดรฟ์แทนการส่งเป็นไฟล์แนบ
แนบไฟล์ไปกับอีเมล
ส่งไฟล์แนบ Google ไดรฟ์
- เปิด Gmail ในคอมพิวเตอร์
- คลิกเขียนที่ด้านบนซ้าย
- คลิกแทรกไฟล์โดยใช้ไดรฟ์
ที่ด้านล่างของข้อความ
- เลือกไฟล์ที่คุณต้องการแนบ
- เลือกวิธีที่ต้องการส่งไฟล์ที่ด้านล่างของหน้าเว็บดังนี้
- ลิงก์ไดรฟ์: ใช้สำหรับไฟล์ที่จัดเก็บในไดรฟ์ ซึ่งรวมถึงไฟล์ที่สร้างด้วย Google เอกสาร, ชีต, สไลด์ หรือฟอร์ม
- ไฟล์แนบ: ใช้สำหรับไฟล์ที่ไม่ได้สร้างด้วย Google เอกสาร, ชีต, สไลด์ หรือฟอร์มเท่านั้น
- คลิกแทรก