คุณจะตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายเพื่อให้ผู้ใช้ในองค์กรรับสายจากหมายเลข Google Voice เดียวกันได้ สมาชิกจะผลัดกันรับโทรศัพท์โดยใช้กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย หรือเรียกอีกอย่างว่ากลุ่มผู้รับสาย ตัวอย่างเช่น คุณอาจตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายให้กับทีมพนักงานขายของคุณ สายที่โทรเข้าอาจดังที่สมาชิกทุกคนในทีมจนกว่าจะมีคนรับสาย หรือคุณอาจให้สุ่มดังที่สมาชิกทีละคนก็ได้
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
ระบบจะไม่โอนสายการโทรไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายไปที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งเชื่อมโยงกับหมายเลข Google Voice ของผู้ใช้
หมายเหตุ:
- สมาชิกที่เพิ่มในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายต้องมีใบอนุญาตและหมายเลข Voice เรียบร้อยแล้ว
- กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายแต่ละกลุ่มจะต้องเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ของกลุ่ม
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งชื่อกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายและเพิ่มสมาชิก
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู
แอป
Google Workspace
- คลิกกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
- คลิกสร้างที่ด้านบน
- ในส่วนรายละเอียด ให้ป้อนชื่อที่แสดงและเพิ่มคำอธิบายด้วยหรือไม่ก็ได้
- ในส่วนสมาชิก ให้ป้อนสมาชิกในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายทีละคนในช่องค้นหาผู้ใช้
โดยจะเพิ่มสมาชิกได้สูงสุด 50 คน - คลิกต่อไป
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าการจัดการสายเรียกเข้า
กำหนดวิธีจัดการสายเรียกเข้าไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายในส่วนกำหนดค่าการจัดการสายเรียกเข้า
หมายเหตุ: ขณะอยู่ในสายโดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย คุณจะได้รับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แต่จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับ
1. กำหนดลำดับการส่งเสียงเรียกเข้า
จากเมนูรูปแบบการกำหนดเส้นทางการโทร ให้กำหนดลำดับการส่งเสียงเรียกเข้าสำหรับสายเรียกเข้าดังนี้
- การสลับกันทำงาน - ส่งเสียงเรียกเข้าถึงสมาชิกแต่ละรายตามลำดับแบบสุ่มจนกว่าจะมีคนรับสาย โดยกำหนดได้ว่าสมาชิกแต่ละรายมีเวลารับสายเท่าใดก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางการโทรไปยังสมาชิกรายถัดไปในกลุ่ม คุณยังสามารถกำหนดระยะเวลาการโทรสูงสุดได้ด้วย ซึ่งคือระยะเวลาที่สายจะส่งเสียงเรียกเข้าก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางการโทรไปจากกลุ่ม
- พร้อมกัน - ส่งเสียงเรียกเข้าถึงสมาชิกทุกคนพร้อมกันจนกว่าจะมีคนรับสาย คุณยังสามารถกำหนดระยะเวลาทั้งหมดของการส่งเสียงเรียกเข้าได้อีกด้วย ซึ่งคือระยะเวลาที่กลุ่มต้องรับสายก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางการโทร
- ลำดับตายตัว - ส่งเสียงเรียกเข้าถึงสมาชิกแต่ละรายตามลำดับจนกว่าจะมีคนรับสาย โดยกำหนดได้ว่าสมาชิกแต่ละรายมีเวลารับสายเท่าใดก่อนที่ระบบจะส่งต่อสายไปยังสมาชิกรายถัดไปตามลำดับ คุณยังสามารถกำหนดระยะเวลาการโทรสูงสุดได้ด้วย ซึ่งคือระยะเวลาที่สายจะส่งเสียงเรียกเข้าก่อนที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางการโทรไปจากกลุ่ม
2. โทรออก
ในส่วนผู้โทรออก ผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์สามารถโทรออกโดยใช้หมายเลขที่กำหนดให้กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายได้ นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มดังกล่าวโทรออกได้ด้วย
- หากต้องการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายโทรออกได้ ให้เลือกช่องสมาชิกทุกคนในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายสามารถโทรออกได้
หลังจากนั้น หากคุณเพิ่มสมาชิกใหม่ในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย ระบบก็จะอนุญาตให้สมาชิกดังกล่าวโทรออกได้ - หากต้องการเพิ่มให้บุคคลภายนอกกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายหรือระบุให้บางบุคคลโทรออกได้ ให้คลิกค้นหาผู้ใช้แล้วป้อนผู้ใช้ในส่วนผู้โทรที่ได้รับสิทธิ์
3. ตั้งค่าตัวเลือกสำหรับสายที่ไม่ได้รับ
- ส่งเสียงต่อไป - สายเรียกเข้าจะดังที่โทรศัพท์ของผู้ใช้ในกลุ่มผู้รับสายต่อไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่คุณกำหนดไว้
- เล่นข้อความและยกเลิกการเชื่อมต่อ - ผู้โทรจะได้ยินข้อความแล้วสายจะตัดไป
- เพิ่มประกาศ - ป้อนประกาศที่ผู้โทรจะได้ยินก่อนสายตัด โดยจะป้อนข้อความที่หลากหลายสำหรับแต่ละภาษาได้
- โอนสายผู้โทร - โอนสายไปที่หมายเลขโทรศัพท์อื่น ในช่องประเภทการโอนสาย ให้คลิกลูกศรลง
แล้วเลือกประเภทการโอนสาย ดังนี้
- ผู้ใช้ - ป้อนอีเมลของบุคคลในองค์กรของคุณเพื่อโอนผู้โทร ขณะที่ป้อนจะมีรายชื่อผู้ใช้ที่มีใบอนุญาต Google Voice ปรากฏขึ้น หากเลือกผู้ใช้ที่ไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ คุณจะได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด
- การต่อสายตรงอัตโนมัติ - คลิกลูกศรลง
- กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย - คลิกลูกศรลง
- หมายเลขโทรศัพท์ - ป้อนหมายเลขโทรศัพท์เพื่อโอนสาย หากต้องการใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา ให้คลิกลูกศรลง
- ส่งไปยังข้อความเสียง - โอนสายไปที่ข้อความเสียง
- คำทักทายผู้ฝากข้อความเสียง - ใส่ประกาศที่ผู้โทรจะได้ยินก่อนที่จะส่งไปที่ข้อความเสียง โดยสามารถป้อนคำทักทายผู้ฝากข้อความเสียงที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละภาษาได้
คลิกสร้างกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายนี้
ขั้นตอนที่ 3: กำหนดหมายเลขให้กับกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
หลังจากสร้างกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายแล้ว ให้กำหนดหมายเลขอย่างน้อย 1 หมายเลขสำหรับติดต่อกลุ่มนี้
หมายเหตุ: หากไม่ต้องการใช้หมายเลขใหม่ กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายสามารถนำหมายเลขใดก็ตามจากคลังหมายเลขของลูกค้ามาใช้ซ้ำได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อกำหนดหมายเลข Voice ใหม่
- คลิกกำหนดหมายเลขทางด้านซ้าย
- ในช่องประเทศ/ภูมิภาค คลิกลูกศรลง
ในช่องที่อยู่สำหรับรับบริการ เลือกที่อยู่สำหรับรับบริการของหมายเลขดังกล่าว
รายการนี้จะแสดงตำแหน่ง Voice ของคุณ Voice จะแสดงหมายเลขที่ใช้ได้ไว้ในช่องหมายเลข Google Voice - เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- หากต้องการใช้หมายเลขนั้น ให้คลิกกำหนด
- หากต้องการหาหมายเลขอื่น ให้ทำดังนี้
- คลิกเปลี่ยน
- คลิกเลือกถัดจากหมายเลขในรายการดังกล่าว
- คลิกกำหนด
- คลิกเสร็จสิ้น
การรับสายหลายสายพร้อมกัน
กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายจะรับสายหลายสายพร้อมกันได้ โดยขึ้นอยู่กับประเภทของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
- สำหรับกลุ่มแบบพร้อมกัน ระบบจะไม่โทรหาผู้ใช้ที่อยู่ในสายอยู่แล้ว จนกว่าผู้ใช้ดังกล่าวจะปฏิเสธหรือรับสายแรก
- สำหรับกลุ่มแบบตายตัวและกลุ่มแบบสลับกันทำงาน กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายจะข้ามใครก็ตามที่มีคนโทรหาอยู่ และคนถัดไปในคิวจะเป็นผู้รับสาย
ยกเว้นสำหรับกรณีที่เป็นการโทรออก ซึ่งจะรองรับผู้โทรได้มากเท่าที่ผู้ใช้ต้องการ
วิธีโอนสายไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
การตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายช่วยให้คุณจัดการสายเรียกเข้าได้ โดยการตั้งค่านี้จะแสดงบริการอื่นๆ ของ Google Voice ที่คุณกําหนดค่าให้เป็นแหล่งที่มาของการโทรไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าการต่อสายอัตโนมัติเพื่อโอนสายไปยังกลุ่มได้
ความพร้อมของสมาชิกในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
สมาชิกของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายจะสามารถควบคุมเวลาที่พร้อมรับสายในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายได้ผ่านการตั้งค่าการแสดงสถานะของ Google Voice โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการความพร้อมในการโทรใน Google Voice
ผู้จัดการกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
ผู้ดูแลระบบ Workspace อาจมอบหมายสิทธิ์จัดการกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายให้กับผู้ใช้ในโดเมน โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อกําหนดให้ผู้ใช้ Voice เป็นผู้จัดการกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสาย
