เพิ่มแอปลงในบริการแอปที่ใช้ Password Vault

แอปที่ใช้ Password Vault จะมีให้ใช้งานในรุ่น Enterprise, Education Standard และ Education Plus จนถึงเดือนมิถุนายน 2022 การปิดระบบฟีเจอร์นี้ได้เริ่มต้นในวันที่ 21 กันยายน 2022 และจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2023 ดูข้อมูลเพิ่มเติม

หากต้องการตั้งค่าบริการแอปที่ใช้ Password Vault คุณจะต้องเพิ่มแอปลงในบริการโดยค้นหาและเลือกจากแอปพลิเคชันบนเว็บที่มีให้ในไลบรารีของแอป หรือจะเพิ่มแอปที่กำหนดเองก็ได้ โปรดดูวิธีการในส่วนด้านล่าง

ข้อสําคัญ: ก่อนที่คุณจะเพิ่มแอปลงในบริการแอปที่ใช้ Password Vault คุณต้องตั้งค่าโครงสร้างกลุ่มใหม่ในคอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ที่ออกแบบมาสําหรับแอปที่ใช้ Password Vault โดยเฉพาะ โปรดดูวิธีการที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งานแอปที่ใช้ Password Vault

เพิ่มแอปจากไลบรารีแอป

1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

   ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

2. ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ไปที่เมนู  แอปแอปที่ใช้ Password Vault
3. คลิกเพิ่มแอป
4. หากต้องการค้นหาไลบรารีของแอปที่มี ให้พิมพ์ชื่อแอป
   ระบบจะแสดงรายชื่อแอปพลิเคชันที่ตรงกัน
   
   หมายเหตุ: หากแอปที่คุณค้นหาไม่อยู่ในไลบรารี คุณก็เพิ่มแอปที่กำหนดเองได้ โปรดดูวิธีการที่หัวข้อเพิ่มแอปที่กำหนดเองด้านล่าง
    
5. เลื่อนไปยังแอปที่ต้องการเพิ่มแล้วคลิกเพิ่มแอป
6. ป้อนรายละเอียดของแอปด้วยวิธีดังนี้
   ในช่องชื่อแอป ให้พิมพ์ชื่อที่แสดงแบบกำหนดเองซึ่งจะปรากฏในหน้าแดชบอร์ดของผู้ใช้
   ให้ป้อนทั้งชื่อแอปและ URL สำหรับเข้าสู่ระบบหากจำเป็น คุณจะต้องทำขั้นตอนนี้กับแอปที่มีการติดตั้งหลายครั้ง (กล่าวคือเป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายราย) และมี URL สำหรับเข้าสู่ระบบต่างกัน
7. คลิกเพิ่มแอป
8. หากต้องการให้สิทธิ์กลุ่มหรือผู้ใช้ให้กับแอป ให้คลิกการให้สิทธิ์
   ใช้ตัวกรองกลุ่มหรือผู้ใช้เพื่อจำกัดการให้สิทธิ์เฉพาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่เลือกไว้เท่านั้น
9. เมื่อเลือกกลุ่มหรือผู้ใช้แล้ว ให้คลิกให้สิทธิ์เข้าถึง

เพิ่มแอปที่กำหนดเอง

หากไม่มีแอปพลิเคชันบนเว็บที่คุณกำลังหาในไลบรารีแอป คุณจะเพิ่มแอปที่กำหนดเองลงในบริการแอปที่ใช้ Password Vault ได้หากต้องการเพิ่มแอปที่กำหนดเอง คุณจะต้องทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อรับรายละเอียดจากหน้าเข้าสู่ระบบสำหรับแอปที่กำหนดเอง โดยขั้นตอนนี้จะทำงานอย่างถูกต้องเฉพาะสำหรับแอปที่มีช่องชื่อผู้ใช้ ช่องรหัสผ่าน และปุ่มส่งอยู่ในหน้าเข้าสู่ระบบเดียวกันเท่านั้น

โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

   ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

2. ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ไปที่เมนู  แอปแอปที่ใช้ Password Vault
3. คลิกเพิ่มแอป
4. ในช่องค้นหาแอป ให้พิมพ์แอปที่กำหนดเอง วางเคอร์เซอร์เหนือแอปที่กำหนดเอง จากนั้นคลิกเพิ่มแอป
   
   หมายเหตุ: คุณยังพิมพ์ชื่อของแอปที่ไม่ปรากฏในไลบรารี เพื่อคลิกเพิ่มแอปที่กำหนดเอง
   ได้อีกด้วย  
5. ป้อนรายละเอียดแอปต่อไปนี้สำหรับแอปที่กำหนดเอง
   1. ชื่อแอป - พิมพ์ชื่อที่แสดงแบบกำหนดเองซึ่งจะปรากฏในหน้าแดชบอร์ดของผู้ใช้
   2. URL สำหรับเข้าสู่ระบบ - URL นี้เป็น URL เต็มสำหรับเข้าสู่ระบบของแอปที่กำหนดเองซึ่งต้องการเพิ่มลงในบริการแอปที่ใช้ Password Vaultตัวอย่างเช่น ป้อน https://solarmora.com หาก URL สำหรับเข้าสู่ระบบคือ https://solarmora.com
   3. ตัวเลือก CSS ช่องชื่อผู้ใช้ - พิมพ์ตัวเลือก CSS ช่องชื่อผู้ใช้ที่ถูกต้อง (โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลือก CSS ที่ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับตัวเลือก CSS)
      
      คุณจะต้องเรียกข้อมูลตัวเลือก CSS ช่องชื่อผู้ใช้จากหน้า URL สำหรับเข้าสู่ระบบตามที่อธิบายไว้ในขั้นตอนข้างต้น และใส่ข้อมูลนี้เพื่อให้ระบบของ Google ทราบว่าช่องข้อมูลการเข้าสู่ระบบของแอปอยู่ที่ใด
      1. จากหน้าเข้าสู่ระบบ ให้คลิกขวาที่ช่องชื่อผู้ใช้แล้วเลือกตรวจสอบ คอนโซล DevTools ของเบราว์เซอร์จะเปิดขึ้นมาและระบบจะไฮไลต์องค์ประกอบ DOM ของช่องชื่อผู้ใช้ให้เห็น สตริงข้อความต่อไปนี้เป็นตัวอย่างขององค์ประกอบ DOM
         
         <input type="text" class="inputtext _55r1 _6luy" name="email" placeholder="Email or Phone Number" aria-label="Email or Phone Number">
         
      2. คัดลอกแอตทริบิวต์รหัสหรือแอตทริบิวต์ชื่อจากองค์ประกอบ DOM ที่ระบบไฮไลต์เอาไว้ เช่น name="email"หากไม่มีแอตทริบิวต์รหัสและแอตทริบิวต์ชื่อให้ใช้ ให้คัดลอกแอตทริบิวต์ประเภทแทน เราขอแนะนำให้ใช้แอตทริบิวต์รหัสและชื่อเนื่องจากทั้ง 2 แอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM จะไม่ซ้ำกัน แอตทริบิวต์อื่นๆ ก็นำมาใช้งานได้ หากค่าแอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM นี้ไม่ซ้ำกัน
      3. ใช้ตัวอย่างข้างต้น โดยวาง name="email" ลงในช่องตัวเลือก CSS ของช่องชื่อผู้ใช้แล้วเพิ่มวงเล็บเหลี่ยมดังนี้ [name="email"]
         
         หมายเหตุ: ตัวอย่างนี้เป็นเพียงสตริงตัวอย่างที่คุณอาจป้อนลงในช่อง
   4. ตัวเลือก CSS ของช่องรหัสผ่าน - พิมพ์ตัวเลือก CSS ของช่องรหัสผ่านที่ถูกต้อง
      
      เช่นเดียวกันกับขั้นตอนข้างต้น คุณจะต้องเรียกข้อมูลตัวเลือก CSS ช่องรหัสผ่านจากหน้า URL สำหรับเข้าสู่ระบบโดยทำดังนี้
      1. จากหน้าเข้าสู่ระบบ ให้คลิกขวาที่ช่องรหัสผ่านแล้วเลือกตรวจสอบ คอนโซล DevTools ของเบราว์เซอร์จะเปิดขึ้นมาและระบบจะไฮไลต์องค์ประกอบ DOM ของช่องรหัสผ่านให้เห็น
      2. คัดลอกแอตทริบิวต์รหัสหรือแอตทริบิวต์ชื่อจากองค์ประกอบ DOM ที่ระบบไฮไลต์เอาไว้ เช่น name="pass"หากไม่มีแอตทริบิวต์รหัสและแอตทริบิวต์ชื่อให้ใช้ ให้คัดลอกแอตทริบิวต์ประเภทแทน เราขอแนะนำให้ใช้แอตทริบิวต์รหัสและชื่อเนื่องจากทั้ง 2 แอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM จะไม่ซ้ำกัน แอตทริบิวต์อื่นๆ ก็นำมาใช้งานได้ หากค่าแอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM นี้ไม่ซ้ำกัน
      3. ใช้ตัวอย่างข้างต้น โดยวาง name="pass" ลงในช่องตัวเลือก CSS ของช่องรหัสผ่านแล้วเพิ่มวงเล็บเหลี่ยมดังนี้ [name="pass"]
         
         หมายเหตุ: ตัวอย่างนี้เป็นเพียงสตริงตัวอย่างที่คุณอาจป้อนลงในช่อง
   5. ตัวเลือก CSS ของปุ่มเข้าสู่ระบบ - พิมพ์ตัวเลือก CSS ของปุ่มเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง
      
      เช่นเดียวกันกับขั้นตอนข้างต้น คุณจะต้องเรียกข้อมูลตัวเลือก CSS ปุ่มเข้าสู่ระบบจากหน้า URL สำหรับเข้าสู่ระบบโดยทำดังนี้
      1. จากหน้าเข้าสู่ระบบ ให้คลิกขวาที่ปุ่มเข้าสู่ระบบแล้วเลือกตรวจสอบ คอนโซล DevTools ของเบราว์เซอร์จะเปิดขึ้นมาและระบบจะไฮไลต์องค์ประกอบ DOM ของปุ่มเข้าสู่ระบบให้เห็น
      2. คัดลอกแอตทริบิวต์รหัสหรือแอตทริบิวต์ชื่อจากองค์ประกอบ DOM ที่ระบบไฮไลต์เอาไว้ เช่น name="login" หากไม่มีแอตทริบิวต์รหัสและแอตทริบิวต์ชื่อให้ใช้ ก็ให้คัดลอกแอตทริบิวต์ประเภทแทน เราขอแนะนำให้ใช้แอตทริบิวต์รหัสและชื่อเนื่องจากทั้ง 2 แอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM จะไม่ซ้ำกัน แอตทริบิวต์อื่นๆ ก็นำมาใช้งานได้ หากค่าแอตทริบิวต์ขององค์ประกอบ DOM นี้ไม่ซ้ำกัน
      3. เมื่อใช้ตัวอย่างข้างต้น ให้วาง name="login" ลงในช่องตัวเลือก CSS ปุ่มเข้าสู่ระบบและเพิ่มวงเล็บเหลี่ยมดังนี้ [name="login"]
         
         หมายเหตุ: ตัวอย่างนี้เป็นเพียงสตริงตัวอย่างที่คุณอาจป้อนลงในช่อง
         
         คุณอาจเพิ่มขั้นตอนการใช้ document.querySelector เพื่อทดสอบความถูกต้องของตัวเลือก CSS ด้วยก็ได้ โปรดดูรายละเอียดได้จากตัวอย่างเหล่านี้
6. คลิกเพิ่มแอป
7. หากต้องการให้สิทธิ์กลุ่มหรือผู้ใช้ให้กับแอป ให้คลิกการให้สิทธิ์
   ใช้ตัวกรองกลุ่มหรือผู้ใช้เพื่อจำกัดการให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่เลือกไว้เท่านั้น
8. เมื่อเลือกกลุ่มหรือผู้ใช้แล้ว ให้คลิกให้สิทธิ์เข้าถึง