Google Cloud Search จำเป็นต้องแมปข้อมูลประจำตัวในที่เก็บของบุคคลที่สามกับบัญชี Google เพื่อปฏิบัติตามสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ต่างๆ ในที่เก็บดังกล่าว เช่น ผู้ใช้อาจมีชื่อผู้ใช้ jensmith@company.com ในฐานข้อมูล ระบบจึงต้องแมปชื่อผู้ใช้ดังกล่าวกับบัญชี Google เช่น jsmith@solarmora.com
หากต้องการจัดการการแมปนี้ ให้สร้างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวใน Cloud Search แหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวจะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์แมปบัญชีผู้ใช้จากที่เก็บของบุคคลที่สามกับบัญชี Google ได้ ดูวิธีซิงค์ระบบข้อมูลประจำตัวที่แตกต่างกันของนักพัฒนาซอฟต์แวร์
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
- สอบถามนักพัฒนาซอฟต์แวร์เกี่ยวกับรหัสบัญชีบริการที่มีสิทธิ์เข้าถึง Google Workspace Admin SDK และ Cloud Identity API
- เพิ่มแหล่งข้อมูลสำหรับค้นหา คุณต้องเพิ่มแหล่งข้อมูลอย่างน้อย 1 รายการก่อนจึงจะสร้างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวได้
1. สร้างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
หากต้องการแมปชื่อผู้ใช้ของบุคคลที่สามกับบัญชี Google ให้สร้างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู แอปGoogle WorkspaceCloud Search
- คลิกการ์ดแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
รายการแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวขององค์กรจะปรากฏขึ้น
- คลิกเพิ่ม ที่ด้านซ้ายบน
- ป้อนชื่อในบรรทัดข้อความชื่อแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
- คลิกเพิ่มบัญชีบริการ
- ป้อนอีเมลของบัญชีบริการที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้และกลุ่มผ่าน Admin SDK Users API และ Cloud Identity API
ใช้อีเมลที่สร้างขึ้นสำหรับรหัสบัญชีบริการโดยเฉพาะเมื่อมีการสร้างรหัสบัญชีบริการ
- กำหนดระดับการเข้าถึง Admin SDK Users API ของบัญชีบริการ ดังนี้
- อ่าน/เขียน - ให้สิทธิ์เข้าถึง API อย่างเต็มรูปแบบ
- ที่มีอยู่ - รักษาสิทธิ์เข้าถึง API ที่มอบไว้ให้แล้ว
หากบัญชีบริการได้รับสิทธิ์อ่าน/เขียนจากแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวอื่นก่อนหน้านี้ สิทธิ์ดังกล่าวจะยังคงอยู่ต่อไป แต่หากยังไม่เคยได้รับสิทธิ์ บัญชีดังกล่าวก็จะยังคงไม่มีสิทธิ์ตามเดิมหมายเหตุ: หากมีการลบแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวที่ให้สิทธิ์เข้าถึงแบบอ่าน/เขียนแก่บัญชีบริการ บัญชีบริการก็จะสูญเสียสิทธิ์เข้าถึง หากแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวดังกล่าวต้องใช้บัญชีบริการนี้ ให้ตั้งสิทธิ์เป็นอ่าน/เขียน
- กำหนดระดับสิทธิ์เข้าถึง Cloud Identity API ของบัญชีบริการ ดังนี้
- อ่าน/เขียน - ให้สิทธิ์เข้าถึง API อย่างเต็มรูปแบบ
- อ่าน - ให้สิทธิ์อ่าน API
- ไม่มีสิทธิ์เข้าถึง - ไม่ให้เข้าถึง API
- คลิกเพิ่มบัญชีบริการ
- เพิ่มบัญชีบริการอื่นหรือหากเพิ่มบัญชีบริการเสร็จแล้ว ให้คลิกเพิ่มแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
ข้อความจะปรากฏขึ้นเมื่อเพิ่มแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวสำเร็จแล้วและจะแสดงรหัสแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ จากนั้นให้คัดลอกรหัสนี้และมอบให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรมเชื่อมต่อข้อมูลประจำตัว
-
คลิกตกลง
หลังจากที่เพิ่มแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวแล้ว แหล่งที่มาดังกล่าวจะปรากฏในรายการแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องใช้รหัสแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวสำหรับ Google APIs เพื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้และกลุ่ม
เคล็ดลับ: หากต้องการคัดลอกรหัสแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวไปยังคลิปบอร์ด ให้คลิกคัดลอก
2. นำบัญชีบุคคลที่สามเข้ามายัง Google Workspace
เมื่อคุณสร้างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว Cloud Search จะเพิ่มแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองในบัญชีผู้ใช้ Google ทั้งหมด แอตทริบิวต์แบบกำหนดเองนี้คือที่สำหรับจัดเก็บรหัสบัญชีบุคคลที่สามที่แมปกับบัญชี Google
หากต้องการดูแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองนี้ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ทำดังนี้
- ไปที่ผู้ใช้
- คลิกจัดการแอตทริบิวต์ที่กำหนดเอง ที่ด้านขวาบน
ข้อสำคัญ: อย่าแก้ไขแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองนี้ หากเปลี่ยนชื่อหรือช่องใดก็ตาม Cloud Search จะทำงานได้ไม่ถูกต้อง
หากต้องการนำเข้าชื่อผู้ใช้บุคคลที่สามไปยังช่องแอตทริบิวต์ที่กำหนดเอง ให้ทำตามวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้
นำเข้าไปยังบัญชีทั้งหมดพร้อมกันโดยใช้โปรแกรมเชื่อมต่อข้อมูลประจำตัว
นำเข้าไปยังบัญชีทั้งหมดพร้อมกันโดยใช้ Cloud Identity API
นำเข้าไปยังบัญชีบุคคลธรรมดาโดยใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
- จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ไดเรกทอรีผู้ใช้
- ในหน้าบัญชีของผู้ใช้แต่ละราย ให้คลิกแก้ไขในส่วนจัดการแอตทริบิวต์ของผู้ใช้
- เพิ่มชื่อผู้ใช้บุคคลที่สามที่แมปกับบัญชีผู้ใช้ Google Workspace ในช่องแอตทริบิวต์ที่กำหนดเอง
- คลิกอัปเดตผู้ใช้
3. ค้นหารหัสลูกค้าขององค์กร
หากต้องการตั้งค่าโปรแกรมเชื่อมต่อข้อมูลประจำตัว นักพัฒนาซอฟต์แวร์จะต้องมีรหัสลูกค้าของบัญชี Google เพื่อรวมไว้ในไฟล์พร็อพเพอร์ตี้ของโปรแกรมเชื่อมต่อ
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ไปที่เมนู ความปลอดภัยการตรวจสอบสิทธิ์SSO ด้วยแอปพลิเคชัน SAML
คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูงสำหรับงานนี้
- หาค่า idpid ที่ส่วนท้ายของ URL ถัดจาก SSO URL โดยค่าที่อยู่หลัง C จะเป็นรหัสลูกค้าของคุณ
เช่น ใน URL ต่อไปนี้ รหัสลูกค้าคือ 0123tvz4
https://accounts.google.com/o/saml2/idp?idpid=C0123tvz4
ขั้นตอนถัดไป
มอบรหัสแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวและรหัสลูกค้าให้แก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถซิงค์ระบบข้อมูลประจำตัวที่แตกต่างกันได้
แก้ไขหรือลบแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
แก้ไขแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู แอปGoogle WorkspaceCloud Search
- คลิกการ์ดแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
- รายการแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวขององค์กรจะปรากฏขึ้น
- ชี้ไปที่แหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวที่ต้องการอัปเดตแล้วคลิกแก้ไข
- เลือกรายการที่ต้องการเปลี่ยนแปลงในหน้าต่างแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว ดังนี้
- หากต้องการอัปเดตบัญชีบริการที่มีอยู่ ให้ชี้ไปที่บัญชีบริการแล้วคลิกแก้ไข
คุณสามารถเปลี่ยนชื่อบัญชีบริการและสิทธิ์เข้าถึงได้ - หากต้องการเพิ่มบัญชีบริการใหม่ ให้คลิกเพิ่มบัญชีบริการ
- หากต้องการอัปเดตบัญชีบริการที่มีอยู่ ให้ชี้ไปที่บัญชีบริการแล้วคลิกแก้ไข
- คลิกแก้ไขแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
ลบแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู แอปGoogle WorkspaceCloud Search
- คลิกการ์ดแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว
- รายการแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวขององค์กรจะปรากฏขึ้น
- ชี้ไปที่แหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัวที่ต้องการนำออกแล้วคลิกลบ
- คลิกลบในหน้าต่างคำเตือน
ข้อสำคัญ: หากคุณลบแหล่งที่มาของข้อมูลประจำตัว Cloud Search จะลบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงข้อมูลผู้ใช้และกลุ่มที่กำหนดเองทั้งหมด