ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณจะอนุญาตให้ผู้ใช้ทํางานใน Gmail ออฟไลน์ได้ วิธีนี้ช่วยให้คุณและผู้ใช้ยังอ่าน เขียน ค้นหา ลบ และติดป้ายกำกับอีเมลได้แม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในภายหลัง Gmail จะอัปเดตและส่งอีเมลในกล่องจดหมายออก และดาวน์โหลดอีเมลใหม่ไปยังกล่องจดหมายของคุณโดยอัตโนมัติ
โดยค่าเริ่มต้น Gmail จะจัดเก็บอีเมล 30 วันที่ผ่านมารวมทั้งไฟล์แนบด้วย แต่จะไม่เก็บจดหมายขยะและอีเมลที่อยู่ในถังขยะ
ข้อกำหนด
หากต้องการทํางานแบบออฟไลน์ใน Gmail for Google Workspace ให้ทําดังนี้
- คุณต้องใช้เบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งคือเวอร์ชัน 61 ขึ้นไป เว็บ Gmail ออฟไลน์จะแทนที่ Gmail ออฟไลน์ในแอป Chrome
- Gmail ต้องเปิดในแท็บเดียวในเบราว์เซอร์
- ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้ Gmail ออฟไลน์ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ (ดูขั้นตอนด้านล่าง)
ขั้นที่ 1: เปิดใช้การเข้าถึง Gmail ออฟไลน์ให้กับผู้ใช้
ก่อนที่ผู้ใช้จะเปิดใช้ Gmail ออฟไลน์ในการตั้งค่า Gmail ได้ ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้ความสามารถแบบออฟไลน์ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู
แอป
Google Workspace
- เลื่อนไปที่เว็บ Gmail แบบออฟไลน์
- เลือกช่องเปิดใช้เว็บ Gmail แบบออฟไลน์
- (ไม่บังคับ) ถ้าต้องการให้ระบบลบเนื้อหาแบบออฟไลน์ออกสำหรับผู้ใช้ทุกคนเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบบัญชี Google ให้เลือกช่องบังคับลบข้อมูลออฟไลน์เมื่อออกจากระบบบัญชี Google การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เก็บเนื้อหาไว้ในอุปกรณ์ของตน
- คลิกบันทึก
การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นที่ 2: ให้ผู้ใช้เปิดใช้ Gmail ออฟไลน์
ผู้ใช้ที่ต้องการทำงานแบบออฟไลน์ต้องเปิดใช้งาน Gmail ออฟไลน์ด้วยตนเองในการตั้งค่า Gmail ของตน
-
จากกล่องจดหมาย ให้เลือกการตั้งค่า
- คลิกแท็บออฟไลน์
-
เลือกช่องเปิดใช้งานเมลออฟไลน์
-
ในส่วนความปลอดภัย ให้เลือกรายการข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้เพื่อระบุวิธีจัดการเนื้อหาแบบออฟไลน์เมื่อคุณออกจากระบบบัญชี Google (หากผู้ดูแลระบบตั้งค่าตัวเลือกเพื่อลบเนื้อหาแบบออฟไลน์สำหรับผู้ใช้ทั้งหมดเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบบัญชีของตน ตัวเลือกนี้จะใช้กับผู้ใช้แต่ละรายไม่ได้)
-
เก็บข้อมูลออฟไลน์ไว้ในคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่เก็บไว้ในอุปกรณ์จะไม่ถูกลบเมื่อออกจากระบบบัญชี Google หรือเมื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน หากต้องการลบข้อมูลบัญชีออกจากอุปกรณ์ ให้ปิดใช้เมลออฟไลน์และบันทึกการเปลี่ยนแปลง
- นำข้อมูลออฟไลน์ออกจากคอมพิวเตอร์ ต้องซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์อีกครั้งเมื่อลงชื่อเข้าใช้อีเมลของ Google.com ระบบอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการซิงค์กล่องจดหมายอีกครั้ง
หมายเหตุ: หากผู้ดูแลระบบเปิดใช้ตัวเลือกนําเนื้อหาออฟไลน์ออกเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบบัญชีของตน การตั้งค่า Gmail ของผู้ใช้จะไม่แสดงตัวเลือกนี้ให้ผู้ใช้แก้ไข
-
- คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
เปิด Gmail ออฟไลน์
คุณเปิด Gmail ออฟไลน์จาก Chrome ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- สร้างบุ๊กมาร์กสำหรับกล่องจดหมาย แล้วใช้บุ๊กมาร์กนั้นเปิด Gmail เมื่อคุณออฟไลน์
- หากไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ให้เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ Chrome และพิมพ์ mail.google.com
ตั้งค่ากำหนดแบบออฟไลน์
ตามค่าเริ่มต้น Gmail จะจัดเก็บอีเมล 30 วันที่ผ่านมารวมทั้งไฟล์แนบด้วยและ Chrome อนุญาตให้ Gmail ใช้พื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์ที่พร้อมใช้งานสำหรับเนื้อหาออฟไลน์ได้สูงสุด 60% หากต้องการลดปริมาณการใช้งานพื้นที่จัดเก็บเนื้อหาออฟไลน์ ให้ยกเลิกการเลือกช่องดาวน์โหลดไฟล์แนบในการตั้งค่าการซิงค์ หรือลดระยะเวลาการจัดเก็บเป็น 7 วัน
- ใน Gmail ให้คลิกการตั้งค่า
- คลิกแท็บออฟไลน์
- เลือกค่าในการตั้งค่าการซิงค์
ซึ่งค่าดังกล่าวได้แก่ 7, 30 และ 90 วัน - (ไม่บังคับ) ยกเลิกการเลือกช่องดาวน์โหลดไฟล์แนบ
- คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
แก้ปัญหาทั่วไป
จดบันทึกปัญหาทั่วไปที่คุณอาจพบขณะใช้งาน Gmail ออฟไลน์
การใช้งานแบบออฟไลน์หยุดทำงาน
- หากผู้ดูแลระบบปิดใช้งาน Gmail ออฟไลน์สำหรับโดเมน ผู้ใช้แต่ละรายจะใช้งานไม่ได้แม้ว่าจะเปิดใช้งานในการตั้งค่า Gmail ก็ตาม
- บริการ Gmail ออฟไลน์จะทำงานก็ต่อเมื่อเปิด Gmail ไว้เพียงแท็บเดียวเท่านั้น ตรวจสอบแท็บเบราว์เซอร์และปิดแท็บอื่นๆ ที่ใช้งาน Gmail อยู่
Gmail เปิดไม่ได้หรือหยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ
หาก Gmail ไม่โหลดหรือหยุดทำงาน ให้ลองล้างประวัติการท่องเว็บโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- จากเบราว์เซอร์ Chrome ให้เลือกเครื่องมือเพิ่มเติม
- เลือกช่องประวัติการท่องเว็บและคลิกล้างข้อมูล
พื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับ Gmail ออฟไลน์ไม่เพียงพอ
หากอีเมลของคุณมีไฟล์แนบจำนวนมาก ให้ยกเลิกการเลือกช่องดาวน์โหลดไฟล์แนบในการตั้งค่าการซิงค์และลดระยะเวลาการจัดเก็บลงเป็น 7 วัน (ดูขั้นตอนที่ 1 ถึง 5 ด้านบน)
