ใช้ Google ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อป

หากต้องการจัดการและแชร์เนื้อหาในอุปกรณ์ทุกเครื่องและในระบบคลาวด์อย่างง่ายดาย ให้ใช้ไคลเอ็นต์การซิงค์บนเดสก์ท็อปของ Google ซึ่งก็คือไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปเพื่อค้นหาไฟล์และโฟลเดอร์ในไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ด้วย Windows File Explorer หรือ macOS Finder

หากคุณแก้ไข ลบ หรือย้ายไฟล์ในระบบคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และหากคุณแก้ไข ลบ หรือย้ายไฟล์ในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระบบคลาวด์เช่นกัน วิธีนี้จะทำให้ไฟล์เป็นปัจจุบันและคุณสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาจากอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้

คุณสามารถใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปเพื่อทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • เปิดไฟล์ที่เก็บไว้ในระบบคลาวด์โดยตรงจากคอมพิวเตอร์ของคุณ
  • ดูและจัดระเบียบไฟล์ในระบบไฟล์ของคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูล
  • ซิงค์โฟลเดอร์จากคอมพิวเตอร์ไปยัง Google ไดรฟ์
    • เมื่อคุณซิงค์ ระบบจะดาวน์โหลดไฟล์จากระบบคลาวด์และอัปโหลดจากฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์
    • หลังจากซิงค์ ไฟล์ในคอมพิวเตอร์จะเหมือนกับไฟล์ในระบบคลาวด์
    • ไฟล์ของคุณจะมีการอัปเดตอยู่เสมอและเข้าถึงได้ โดยการเปลี่ยนแปลงที่คุณทำจะมีผลกับอุปกรณ์ทุกเครื่อง
  • บันทึกไฟล์และโฟลเดอร์เพื่อใช้งานแบบออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงไฟล์จากไดรฟ์ที่แชร์
  • ทำงานร่วมกันในไฟล์ Microsoft Office แบบเรียลไทม์
  • หากใช้ Outlook ใน Windows กับบัญชีที่ทำงานหรือโรงเรียน ให้ส่งและบันทึกไฟล์ด้วย Microsoft Outlook

ติดตั้งและตั้งค่าไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ดาวน์โหลดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

สำคัญ: ก่อนเริ่ม โปรดตรวจสอบว่าระบบปฏิบัติการเข้ากันได้กับไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

  1. ดาวน์โหลดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

    ดาวน์โหลดสำหรับ WINDOWS ดาวน์โหลดสำหรับ MAC

  2. ในคอมพิวเตอร์ ให้เปิดไฟล์ต่อไปนี้
    • Windows: GoogleDriveSetup.exe
    • Mac: GoogleDrive.dmg
  3. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

เคล็ดลับ: หากใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน คุณอาจใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปไม่ได้ หรือองค์กรอาจต้องติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปให้คุณ หากมีข้อสงสัย โปรดสอบถามผู้ดูแลระบบ

เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
เมื่อใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป คุณจะพบเมนูของไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป Drive File Stream ในส่วนต่อไปนี้
  • Windows: ที่ด้านล่างขวาในถาดระบบ
    • เคล็ดลับ: คุณอาจต้องคลิกลูกศรเพื่อแสดงไอคอนที่ซ่อนอยู่
  • Mac: ในแถบเมนูด้านขวาบน

เพื่อให้คุณค้นหาไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปได้ง่ายขึ้นเมื่อปิดแล้ว คุณสามารถปักหมุดไดรฟ์ดังกล่าวได้โดยทำดังนี้

  • Windows:
    • หากต้องการเพิ่มไดรฟ์ในเมนู "เริ่ม" ในเมนู "เริ่ม" ให้คลิกขวาที่ไดรฟ์จากนั้นปักหมุดไว้ที่ "เริ่ม"
    • หากต้องการเพิ่มไดรฟ์ไปยังแถบงาน ในเมนู "เริ่ม" ให้คลิกขวาที่ไดรฟ์จากนั้นปักหมุดไว้ที่แถบงาน
  • Mac:
    • ในการเพิ่มไดรฟ์ไปยัง Dock: ในโฟลเดอร์ "แอปพลิเคชัน" ให้ลากแอปไดรฟ์ไปทางด้านซ้ายของบรรทัดที่คั่นอยู่ระหว่างแอปที่ใช้ล่าสุด

จัดระเบียบสิ่งต่างๆ ด้วย Google ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ลงชื่อเข้าใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
เมื่อเปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปเป็นครั้งแรก หรือหลังจากที่ยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชีแล้ว หากต้องการเข้าสู่ระบบ ให้ทำดังนี้
  1. เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป Drive File Stream ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกลงชื่อเข้าใช้ด้วยเบราว์เซอร์
  3. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ที่ต้องการใช้กับไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปได้สูงสุด 4 บัญชีพร้อมกัน ดูวิธีใช้หลายบัญชีพร้อมกัน

ใช้ไฟล์ใน Google ไดรฟ์ในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

เมื่อติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป ไฟล์ของคุณจะปรากฏในตำแหน่ง "Google ไดรฟ์" ใน Windows File Explorer หรือ macOS Finder ให้เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป Drive File Stream ในคอมพิวเตอร์

  1. คลิกชื่อของคุณ จากนั้น Google ไดรฟ์
    • คุณอาจเปิดรายการต่อไปนี้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานไดรฟ์ในช่วงก่อนหน้านี้ของคุณหรือองค์กร
      • ไดรฟ์ของฉัน
      • ไดรฟ์ที่แชร์
      • คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
  2. ในโฟลเดอร์ ให้ดับเบิลคลิกไฟล์
    • ไฟล์ที่สร้างโดย Google เอกสาร ชีต สไลด์ หรือฟอร์มจะเปิดขึ้นในเบราว์เซอร์
    • ไฟล์อื่นๆ จะเปิดในแอปพลิเคชันปกติของคอมพิวเตอร์

เคล็ดลับ: หากไม่มีเนื้อหาในไดรฟ์ จะเป็นดังนี้

  • โฟลเดอร์ "ไดรฟ์ของฉัน" ว่างเปล่า
  • มุมมอง "ไดรฟ์ที่แชร์" หรือ "คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น" จะไม่แสดง

ซิงค์ไฟล์ไปยัง Google ไดรฟ์หรือสำรองข้อมูลไปยัง Google Photos

ซิงค์โฟลเดอร์กับ Google ไดรฟ์หรือ Google Photos

คุณจะซิงค์ไฟล์จากคอมพิวเตอร์ไปยัง Google ไดรฟ์และสำรองข้อมูลไปยัง Google Photos ได้

  1. เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป Drive File Stream ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกการตั้งค่า การตั้งค่า จากนั้น ค่ากำหนด
  3. ที่ด้านซ้าย ให้คลิกโฟลเดอร์จากคอมพิวเตอร์
  4. จากเมนูนี้ คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้
    • เพิ่มโฟลเดอร์เพื่อซิงค์กับไดรฟ์
    • เพิ่มโฟลเดอร์ที่จะสำรองข้อมูลไปยัง Photos
    • แก้ไขค่ากำหนดของโฟลเดอร์ที่กำหนดค่าไว้แล้ว

หากคุณซิงค์กับ Google ไดรฟ์ จะเป็นดังนี้

  • ระบบจะมิเรอร์ทุกอย่างในโฟลเดอร์ ระบบจะซิงค์การเปลี่ยนแปลงระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Google ไดรฟ์
  • คุณสามารถใช้ไฟล์จากอุปกรณ์ใดก็ได้แบบออนไลน์หรือในแอป Google ไดรฟ์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยโฟลเดอร์ที่ซิงค์จะแสดงในส่วน "คอมพิวเตอร์"
  • หากคุณเพิ่ม แก้ไข ย้าย หรือลบรายการใดๆ ออกจากโฟลเดอร์เหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงจะมีผลกับคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย

หากสำรองข้อมูลไปยัง Google Photos

  • ระบบจะอัปโหลดเฉพาะรูปภาพและวิดีโอ
  • รูปภาพและวิดีโอที่ลบไปแล้วในคอมพิวเตอร์จะยังคงอยู่ใน Google Photos และรูปภาพและวิดีโอที่ลบไปแล้วใน Google Photos จะยังคงอยู่ในคอมพิวเตอร์เช่นกัน
  • ระบบจะอัปโหลดการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปภาพใหม่ รูปภาพเก่าจะยังคงอยู่ใน Google Photos
  • คุณจะดูรูปภาพและวิดีโอจากอุปกรณ์ใดก็ได้แบบออนไลน์หรือในแอป Google Photos บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

เคล็ดลับ: หากคุณจัดเก็บเฉพาะรูปภาพและวิดีโอ เราขอแนะนำให้คุณสำรองข้อมูลไปยัง Google Photos หากคุณเก็บไฟล์ไว้ในทั้ง 2 ตำแหน่ง ระบบจะอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอ 2 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูล Google มากขึ้น

สำรองข้อมูลใน System Photo Library ของ macOS

สำคัญ: คลังภาพ System Photo Library เป็นคลังภาพของ Apple Photos เพียงแห่งเดียวที่ซิงค์กับ Google Photos ได้ ในทางตรงกันข้าม คลังภาพ Apple Photos Libraries ทั้งหมดจะซิงค์กับไดรฟ์ได้

หากคุณซิงค์ Apple Photos Library กับไดรฟ์ ระบบจะซิงค์ทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงภาพขนาดย่อและข้อมูลเมตาอื่นๆ เราไม่แนะนำให้เปลี่ยนแปลงไฟล์เหล่านี้จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นหรือในระบบคลาวด์ เพราะอาจทำให้คลังภาพของคุณเสียหายได้

System Photo Library เป็นคลังภาพเดียวที่สามารถใช้กับรูปภาพใน iCloud, อัลบั้มที่แชร์ และสตรีมรูปภาพของฉันได้ หากคุณมีคลังภาพเพียงรายการเดียว คลังภาพนั้นก็คือ System Photo Library ยกเว้นในกรณีที่คลังภาพรายการแรกที่คุณสร้างหรือเปิดใน Photos คือคลังภาพ System Photo Library

ระบบจะใช้พื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์ชั่วคราวเพื่อดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอจาก iCloud แล้วอัปโหลดไปยัง Google Photos ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลรูปภาพและวิดีโอ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ปรับแต่งการตั้งค่าไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปด้วยการตั้งค่าขั้นสูง คุณสามารถเลือกดำเนินการดังนี้
  • กำหนดค่ากำหนดการซิงค์
  • เปิดหรือปิดใช้การแสดงสถานะแบบเรียลไทม์กับ Microsoft Office
  • ปรับแต่งการตั้งค่า Google Photos
  • ปรับแต่งการตั้งค่าทั่วไป เช่น การเปิดใช้งานอัตโนมัติ คีย์ลัด และการตั้งค่าพร็อกซี
ดูวิธีปรับแต่งการตั้งค่าไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
เปิดไฟล์และโฟลเดอร์แบบออฟไลน์

คุณสามารถบันทึกไฟล์และโฟลเดอร์เพื่อใช้งานแบบออฟไลน์โดยใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปได้ ดูวิธีใช้ไฟล์แบบออฟไลน์ด้วยไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ค้นหาไฟล์ในไดรฟ์

หากต้องการค้นหาไฟล์ในไดรฟ์ ให้ค้นหาในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป เมื่อค้นหาในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปแทนการค้นหาใน Windows Search หรือ macOS Spotlight คุณจะมั่นใจได้ว่าการค้นหาจะรวมไฟล์ทั้งหมดจากตำแหน่งการสตรีมของไดรฟ์

  1. เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป Drive File Stream ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกค้นหา Search
  3. กรอกข้อความค้นหาลงไป
  4. เปิดไฟล์ หากไฟล์อยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ไฟล์จะเปิดขึ้นพร้อมกับแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ก็เปิดในไดรฟ์บนเว็บ

เคล็ดลับ: หากต้องการเปิดหน้าต่างค้นหา คุณยังใช้ชุดค่าผสมคีย์ลัดการค้นหาได้ด้วย

ทำงานในไฟล์ MS Outlook และ Office

คุณสามารถทำงานในไฟล์ Office ที่มีการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ได้เมื่อใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป สำหรับผู้ใช้ Windows ที่มีบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน คุณจะส่งและบันทึกไฟล์ด้วย Microsoft Outlook ได้เช่นกัน ดูวิธีใช้ไฟล์ Microsoft Office กับไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปร่วมกับ macOS
การมิเรอร์ไดรฟ์ของฉัน

การมิเรอร์และการสตรีมเป็น 2 วิธีในการซิงค์ไฟล์

  • คุณจะมิเรอร์ได้เฉพาะโฟลเดอร์จากคอมพิวเตอร์เท่านั้น
  • คุณจะสตรีมได้เฉพาะไดรฟ์ที่แชร์และคอมพิวเตอร์อื่นๆ เท่านั้น
  • คุณจะมิเรอร์หรือจะสตรีมไดรฟ์ของฉันก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง
  • เมื่อติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปแล้ว ระบบจะสตรีมโฟลเดอร์ "ไดรฟ์ของฉัน" คุณสามารถอัปเดตค่ากำหนดและเลือกมิเรอร์หรือสตรีม "ไดรฟ์ของฉัน" หลังจากการติดตั้งได้

ดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกการสตรีมและการมิเรอร์ด้วยไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

แก้ไขข้อผิดพลาด
ในส่วน "กิจกรรม" ในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป แบนเนอร์ "เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง" จะปรากฏขึ้น หากต้องการแสดงรายการข้อผิดพลาด ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
  • คลิกลิงก์ในแบนเนอร์
  • คลิกการตั้งค่า จากนั้น รายการข้อผิดพลาด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแก้ไขข้อผิดพลาด

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
12488218419854897992
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
99950
false
false