การแจ้งเตือน

Duet AI เปลี่ยนเป็น Gemini สำหรับ Google Workspace แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ถอดรหัสไฟล์และอีเมลที่ส่งออกที่มีการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ (เบต้า)

หากองค์กรใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ (CSE) ของ Google Workspace คุณสามารถใช้ยูทิลิตีสคริปต์ถอดรหัส (เบต้า) เพื่อถอดรหัสไฟล์และอีเมลที่มีการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ที่คุณส่งออกได้โดยใช้เครื่องมือส่งออกข้อมูลหรือ Google ห้องนิรภัย และเรียกใช้สคริปต์ถอดรหัสจากบรรทัดคำสั่งได้

เมื่อเรียกใช้สคริปต์ถอดรหัส คุณจะต้องใช้แฟล็กบรรทัดคำสั่งเพื่อระบุข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ IdP, ตำแหน่งของไฟล์ที่เข้ารหัส, ตำแหน่งเอาต์พุตสำหรับไฟล์ที่ถอดรหัส และตัวเลือกอื่นๆ นอกจากนี้ คุณยังสร้างไฟล์การกำหนดค่า (config) เพื่อบันทึกแฟล็กสคริปต์ถอดรหัสที่ใช้บ่อยได้ด้วย

หมายเหตุ: เมื่อถอดรหัสไฟล์ Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ ชื่อไฟล์จะลงท้ายด้วย .gdoc โดยเครื่องมือการถอดรหัสยังไม่สามารถแปลงไฟล์เหล่านี้เป็น DOCX, XLSX หรือ PPTX ได้

ข้อกำหนดของระบบ

Microsoft Windows เวอร์ชัน 7, Vista, 8, 10 หรือ 11 แบบ 64 บิต

หมายเหตุ: สคริปต์ถอดรหัสจะใช้งานได้กับ Mac และ Linux ในรุ่นที่กำลังจะเปิดตัว

ดาวน์โหลดสคริปต์ถอดรหัส

ดาวน์โหลดยูทิลิตีสคริปต์ถอดรหัสฝั่งไคลเอ็นต์ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ

อันดับแรก สร้างไฟล์การกำหนดค่า

เนื่องจากการกำหนดค่า CSE จะเปลี่ยนแปลงไม่บ่อยครั้งนัก จึงขอแนะนำให้สร้างไฟล์การกำหนดค่าก่อนเพื่อให้ป้อนแฟล็กที่คุณใช้ได้เร็วขึ้น โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับแฟล็กไฟล์การกำหนดค่าที่หัวข้อแฟล็กการสร้างการกำหนดค่าและแฟล็กการอัปเดตการกำหนดค่าด้านล่าง

ตัวอย่าง: สร้างการกำหนดค่าสำหรับ Google IdP โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้

> decrypter.exe -action createconfig -config C:\gaia-oauth.conf -email me@example.com -client_id my-client-id.apps.googleusercontent.com -issuer https://accounts.google.com

จากนั้นคุณจะอัปเดตการกำหนดค่าเพื่อเพิ่มรหัสลับไคลเอ็นต์ OAuth ในขั้นตอนการให้สิทธิ์รหัสการให้สิทธิ์ได้ โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้

> decrypter.exe -action updateconfig -config C:\gaia-oauth.conf -client_secret my-client-secret

ถอดรหัสไฟล์และอีเมล CSE

หลังจากสร้างไฟล์การกําหนดค่าแล้ว คุณจะใช้ไฟล์ดังกล่าวเพื่อถอดรหัสไฟล์และอีเมลที่ส่งออกได้ โดยให้เรียกใช้สคริปต์ถอดรหัสผ่านไดเรกทอรีของไฟล์ CSE ที่แตกไฟล์แล้ว จากนั้นบันทึกไฟล์ที่ถอดรหัสแล้วไปยังไดเรกทอรีอื่น

ตัวอย่างไดรฟ์

> decrypter.exe -config C:\my_organization.conf -input C:\exported_files -output C:\decrypted_files

ตัวอย่าง Gmail

หากต้องการถอดรหัสข้อมูล CSE ที่ส่งออกของ Gmail คุณต้องมีข้อมูลเข้าสู่ระบบของทั้งโดเมน ดังนี้

> decrypter.exe -config C:\my_organization.conf -input C:\exported_files -output C:\decrypted_files -credential serviceaccount.json

แฟล็กสคริปต์ถอดรหัส

แฟล็กสคริปต์ถอดรหัสอาจมีขีดกลางนำหน้า 1 หรือ 2 ขีดก็ได้ เช่น แฟล็กสำหรับแสดงข้อมูลความช่วยเหลืออาจมีรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ก็ได้

-help

--help

หมายเหตุ: คุณสามารถใช้ได้เฉพาะขีดกลางกับแฟล็กเท่านั้น และจะใช้เครื่องหมายทับ (/) ไม่ได้

แฟล็กสำหรับอาร์กิวเมนต์ที่เป็นสตริงอาจมีเครื่องหมายเท่ากับหรือเว้นวรรคเพื่อระบุอาร์กิวเมนต์ ตัวอย่างการใช้แฟล็กด้านล่างนี้มีความหมายเหมือนกัน

-action=decrypt 

-action decrypt

แฟล็กความช่วยเหลือ

แฟล็ก คำอธิบาย
-version พิมพ์เวอร์ชันเป็นสตริง หากคุณติดต่อทีมสนับสนุน โปรดระบุเวอร์ชันของสคริปต์ถอดรหัสที่ใช้อยู่
-help พิมพ์แฟล็กทั้งหมดในหน้าจอสำหรับใช้อ้างอิง 
-logfile ระบุไฟล์เอาต์พุตที่ระบบจะเขียนบันทึกการดำเนินการ [TIMESTAMP] ในชื่อไฟล์จะแทนที่ด้วยเวลาที่เริ่มดำเนินการ

แฟล็กการถอดรหัส

แฟล็ก คำอธิบาย
-action decrypt ไม่บังคับ ระบุว่าโหมดของยูทิลิตีคือการถอดรหัสไฟล์ CSE ซึ่งเป็นโหมดเริ่มต้น
-email <email_address> ไม่บังคับ อีเมลที่อาจป้อนข้อมูลไว้ล่วงหน้าแล้วในหน้าจอการตรวจสอบสิทธิ์ IdP ที่เปิดในเบราว์เซอร์
-issuer <uri> ต้องระบุ เว้นแต่จะระบุไว้แล้วในไฟล์การกำหนดค่า โดยจะเป็น Discovery URI ของผู้ออก OAuth สำหรับ IdP เช่น https://accounts.google.com โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวสำหรับการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์
-client_id <oauth_client_id> ต้องระบุ เว้นแต่จะระบุไว้แล้วในไฟล์การกำหนดค่า โดยจะเป็นรหัสไคลเอ็นต์ OAuth จาก IdP ที่ระบุในแฟล็ก -issuer โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวสำหรับการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ 
-client_secret <oauth_client_secret> ไม่บังคับ แม้ว่าอาจจำเป็นสำหรับ IdP บางราย โดยจะเป็นส่วนรหัสลับไคลเอ็นต์ OAuth ที่ตรงกับรหัสไคลเอ็นต์ที่ระบุในแฟล็ก -client_id
-pkce
-nopkce
เปิดหรือปิดใช้ PKCE (Proof Key for Code Exchange) ในขั้นตอนการให้สิทธิ์รหัสการให้สิทธิ์ หากไม่ได้ระบุแฟล็กทั้งสองนี้ ค่าเริ่มต้นของสคริปต์ถอดรหัสจะเป็นเปิดใช้ 
-input <directory_or_file>

ต้องระบุ โดยจะเป็นไดเรกทอรีอินพุตหรือไฟล์ส่งออก

หากคุณระบุไดเรกทอรี สคริปต์ถอดรหัสจะข้ามผ่านโครงสร้างไดเรกทอรีทั้งหมดซ้ำเพื่อค้นหาไฟล์ CSE ที่ส่งออกทั้งหมด ให้ใช้ตัวเลือกนี้เพื่อถอดรหัสไฟล์ที่ส่งออกทั้งหมดพร้อมกันจากที่เก็บถาวรการส่งออกแบบขยาย

หากคุณระบุไฟล์ CSE ที่ส่งออก 1 ไฟล์ สคริปต์ถอดรหัสจะถอดรหัสเฉพาะไฟล์นั้น หากไม่ใช่ไฟล์ CSE สคริปต์ถอดรหัสจะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์กับ IdP แต่จะไม่ถอดรหัสไฟล์ใดๆ

-output <directory> ต้องระบุ โดยจะเป็นไดเรกทอรีที่จะบันทึกไฟล์ที่ถอดรหัส
-overwrite
-nooverwrite
เปิดหรือปิดใช้การเขียนทับไฟล์เอาต์พุตที่เป็นข้อความที่โอนหรือจัดเก็บได้โดยไม่ต้องเข้ารหัสที่ได้รับการถอดรหัสและมีอยู่เดิม หากปิดใช้ (ค่าเริ่มต้น) สคริปต์ถอดรหัสจะข้ามการถอดรหัสไฟล์ข้อความเข้ารหัส หากมีไฟล์ข้อความที่โอนหรือจัดเก็บได้โดยไม่ต้องเข้ารหัสอยู่แล้ว
-workers <integer>

ไม่บังคับ โดยจะเป็นจำนวนตัวถอดรหัสที่ทำงานพร้อมกัน หากไม่ได้ใช้แฟล็กนี้ สคริปต์ถอดรหัสจะมีค่าเริ่มต้นเป็นจำนวนโปรเซสเซอร์ของคอร์และไฮเปอร์เทรดที่ระบบปฏิบัติการรายงาน 

หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาด้านประสิทธิภาพหรือคุณได้รับข้อผิดพลาดในการประมวลผลข้อมูลหลายรายการเมื่อถอดรหัสไฟล์ ให้ตั้งค่าแฟล็กนี้เป็น 1 เพื่อปิดใช้การประมวลผลข้อมูลพร้อมกัน

-config <file>

ไม่บังคับ โดยจะเป็นไฟล์การกำหนดค่าที่จัดเก็บค่าแฟล็ก ให้ใช้ไฟล์การกำหนดค่าเพื่อหลีกเลี่ยงการวางแฟล็กบรรทัดคำสั่งเดียวกันเมื่อถอดรหัสไฟล์ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อแฟล็กการสร้างการกำหนดค่าและแฟล็กการอัปเดตการกำหนดค่าด้านล่าง

ค่าแฟล็กที่กำหนดไว้ในบรรทัดคำสั่งจะมีความสำคัญเหนือกว่าค่าในการกำหนดค่า

หมายเหตุ: หากคุณระบุไฟล์ในการกำหนดค่าแล้วระบบไม่พบไฟล์ดังกล่าว แสดงว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

-credential <file> ไม่บังคับ ระบุไฟล์ JSON ที่มีคีย์ส่วนตัวของบัญชีบริการทั่วทั้งโดเมน เมื่อระบุ การถอดรหัสข้อความ CSE ของ Gmail จะค้นหาใบรับรอง S/MIME และข้อมูลเมตาของบริการรายการควบคุมการเข้าถึงคีย์ (KACLS) ของผู้ใช้แต่ละรายผ่าน Gmail API

แฟล็กการสร้างการกำหนดค่า

ใช้แฟล็กเหล่านี้เพื่อบันทึกแฟล็กบรรทัดคำสั่งการถอดรหัสที่ใช้บ่อยลงในไฟล์การกำหนดค่าเพื่อใช้ซ้ำ โดยไฟล์การกำหนดค่าจะอยู่ในรูปแบบ JSON ซึ่งมีข้อความที่ผู้ใช้เข้าใจได้
แฟล็ก คำอธิบาย
-action createconfig ต้องระบุ โดยจะลบล้างโหมดเริ่มต้นของการดำเนินการเพื่อเรียกใช้โหมดการสร้างไฟล์การกำหนดค่า
-config file ต้องระบุ โดยจะระบุชื่อไฟล์เอาต์พุตที่ต้องการบันทึกการกำหนดค่าไว้ หากมีไฟล์อยู่แล้ว ระบบจะเขียนทับไฟล์โดยไม่แสดงคำเตือน
-email <email_address>
-discovery_uri <uri>
-client_id <oauth_client_id>
-client_secret <oauth_client_secret>
-pkce
-nopkce
ไม่บังคับ โดยระบบจะบันทึกค่าแฟล็กที่ระบุลงในไฟล์การกำหนดค่าเพื่อใช้ซ้ำ

แฟล็กการอัปเดตการกำหนดค่า

ใช้แฟล็กเหล่านี้เพื่ออัปเดตค่าแฟล็กใดก็ตามในไฟล์การกำหนดค่า

แฟล็ก คำอธิบาย
-action updateconfig ต้องระบุ โดยจะลบล้างโหมดเริ่มต้นของการดำเนินการเพื่อเรียกใช้โหมดการอัปเดตไฟล์การกำหนดค่า
-config file ต้องระบุ โดยจะเป็นไฟล์การกำหนดค่าที่ต้องการอัปเดต หากไม่มีไฟล์ดังกล่าว แสดงว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
-email <email_address>
-discovery_uri <uri>
-client_id <oauth_client_id>
-client_secret <oauth_client_secret>
-pkce
-nopkce

ไม่บังคับทั้งหมด ระบบจะเขียนทับค่าแฟล็กที่คุณระบุในบรรทัดคำสั่ง โดยที่ค่าแฟล็กอื่นๆ ในการกำหนดค่าจะยังคงอยู่ หากต้องการยกเลิกการกำหนดค่าแฟล็กที่เก็บไว้ ให้เว้นค่าว่างไว้

หมายเหตุ: หากการแก้ไขทำให้รูปแบบ JSON เสียหาย แสดงว่าอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้การกำหนดค่าในสคริปต์ถอดรหัส

แฟล็กข้อมูล

ใช้แฟล็กเหล่านี้เพื่อพิมพ์ข้อมูลที่อ่านได้เกี่ยวกับไฟล์ CSE
แฟล็ก คำอธิบาย
-action info (จำเป็น) ลบล้างโหมดการดำเนินการเริ่มต้นเพื่อเรียกใช้ในโหมดข้อมูล
-input directory_or_file

(จำเป็น) ระบุไดเรกทอรีอินพุตหรือไฟล์ส่งออก 

หากคุณระบุไดเรกทอรี ยูทิลิตีจะสแกนโครงสร้างไดเรกทอรีทั้งหมดซ้ำเพื่อค้นหาไฟล์ส่งออก CSE ทั้งหมด หากคุณระบุไฟล์ ยูทิลิตีจะแสดงข้อมูลเฉพาะไฟล์นั้น 

คุณสามารถใช้แฟล็กนี้ซ้ำเพื่อระบุไดเรกทอรีอินพุตหรือไฟล์เพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น 

$ decrypter -action=info -input=file1.gcse                -input=file2.gcse -input=file3.gcse

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เริ่มต้นการทดลองใช้งานฟรี 14 วันได้เลย

อีเมลระดับมืออาชีพ พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ การแชร์ปฏิทิน การประชุมวิดีโอ และอื่นๆ เริ่มต้นการทดลองใช้งาน G Suite ฟรีวันนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2705755028976890789
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false