[UA] เกี่ยวกับตัวกรองข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

กรองและแก้ไขข้อมูลภายในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
บทความนี้เกี่ยวข้องกับวิธีกรองและแก้ไขข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใน Universal Analytics ศึกษาเกี่ยวกับตัวกรองข้อมูลใน Google Analytics 4 ได้ที่ [GA4] ตัวกรองข้อมูล

ใช้ตัวกรองเพื่อจำกัดหรือแก้ไขข้อมูลในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ตัวกรองเพื่อยกเว้นการเข้าชมจากที่อยู่ IP บางแห่ง รวมเฉพาะข้อมูลจากโดเมนย่อยหรือไดเรกทอรีหนึ่งๆ หรือแปลง URL หน้าเว็บแบบไดนามิกเป็นสตริงข้อความที่สามารถอ่านได้

คุณต้องมีบทบาทผู้แก้ไขในระดับบัญชีจึงจะจัดการตัวกรองได้ ดูสร้างและจัดการตัวกรองข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

บทความนี้ประกอบด้วย

ตัวกรองที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

  • ยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมจากโดเมน ISP: ใช้ตัวกรองนี้เพื่อยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมจากโดเมนหนึ่งๆ เช่น ISP หรือเครือข่ายบริษัทหนึ่ง

    เมื่อคุณระบุชื่อโดเมน อย่าใส่ป้ายกำกับเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ลงไปด้วย (เช่น ให้ป้อน example.com ไม่ใช่ www.example.com)

  • ยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมจากที่อยู่ IP: ใช้ตัวกรองนี้เพื่อยกเว้น/รวมเฉพาะคลิกจากบางแหล่งที่อยู่ IP

    คุณสามารถกรองช่วงของที่อยู่แบบง่ายได้โดยใช้ตัวเลือกที่ขึ้นต้นด้วยหรือที่ลงท้ายด้วย

    หากคุณต้องการกรองช่วงของที่อยู่ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ให้ใช้ตัวกรองที่กำหนดเองเพื่อยกเว้น/่รวมโดยใช้ที่อยู่ IP และระบุนิพจน์ทั่วไปเป็นรูปแบบตัวกรอง ดูตัวอย่างการใช้นิพจน์ทั่วไป

  • ยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมไดเรกทอรีย่อย: ใช้ตัวกรองนี้เพื่อยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมบางไดเรกทอรีย่อย (เช่น /motorcycles หรือ /help/content/faq)
  • ยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมชื่อโฮสต์: ใช้ตัวกรองนี้เพื่อยกเว้น/รวมเฉพาะการเข้าชมชื่อโฮสต์บางชื่อ (เช่น sales.example.com หรือ support.example.com)

ตัวกรองที่กำหนดเอง:

  • ยกเว้น: ตัวกรองประเภทนี้จะยกเว้นบรรทัดของไฟล์บันทึก (Hit) ที่ตรงกับรูปแบบตัวกรอง บรรทัดที่ตรงจะถูกละเว้นทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ตัวกรองที่ยกเว้น Chrome จะยกเว้นข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมดในบรรทัดของบันทึกข้อมูลด้วย เช่น ผู้เข้าชม เส้นทาง การอ้างอิง และข้อมูลโดเมน
  • รวม: ตัวกรองประเภทนี้จะรวมบรรทัดของไฟล์บันทึก (Hit) ที่ตรงกับรูปแบบตัวกรอง รายการที่ไม่ตรงทั้งหมดจะถูกละเว้นและข้อมูลใดๆ ในรายการที่ไม่ตรงจะไม่มีอยู่ในรายงาน
  • ตัวพิมพ์เล็ก / ตัวพิมพ์ใหญ่: แปลงเนื้อหาของช่องเป็นอักขระตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดหรือตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด ตัวกรองเหล่านี้จะมีผลกับตัวอักษรเท่านั้น และจะไม่มีผลกับอักขระพิเศษหรือตัวเลข
  • ค้นหาและแทนที่: นี่คือตัวกรองพื้นฐานที่คุณสามารถใช้เพื่อค้นหารูปแบบภายในฟิลด์ และแทนที่รูปแบบที่พบด้วยรูปแบบอื่น
  • ขั้นสูง: ตัวกรองประเภทนี้ให้คุณสร้างฟิลด์จากฟิลด์อื่นๆ 1 หรือ 2 ฟิลด์ เครื่องมือการกรองนี้จะนำนิพจน์ในฟิลด์ดึงข้อมูล 2 ฟิลด์ไปใช้กับฟิลด์ที่ระบุ จากนั้นจะสร้างฟิลด์ที่ 3 โดยใช้นิพจน์ตัวสร้าง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมในตัวกรองขั้นสูง

การใช้งานทั่วไปของตัวกรอง

ตัวอย่างวิธีใช้ตัวกรองมีดังนี้

  • ยกเว้นการเข้าชมภายในจากรายงาน
    หากต้องการยกเว้นการเข้าชมภายในจากรายงาน (เช่น การเข้าชมจากอินทราเน็ตของบริษัท) คุณสามารถตั้งค่าตัวกรองที่ระบุที่อยู่ IP ทั้งหมดที่คุณต้องการจะยกเว้น
  • รายงานกิจกรรมในไดเรกทอรีที่เฉพาะเจาะจง
    หากคุณต้องการรายงานกิจกรรมในไดเรกทอรีที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น ให้ตั้งค่าตัวกรอง "รวม" ที่ระบุเฉพาะไดเรกทอรีนั้น
    หากคุณต้องการรายงานกิจกรรมในไดเรกทอรีทั้งหมดยกเว้นไดเรกทอรีที่เฉพาะเจาะจง ให้ตั้งค่าตัวกรอง "ยกเว้น" ที่ระบุเฉพาะไดเรกทอรีนั้น
  • ติดตามโดเมนย่อยในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แยกต่างหาก
    หากคุณต้องการติดตาม www.example.com รวมทั้ง help.example.com และ info.example.com ให้สร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แยกต่างหากสำหรับแต่ละรายการ และใช้ตัวกรอง "รวม" เพื่อระบุเฉพาะไดเรกทอรีย่อยที่เจาะจง

ข้อจำกัดของตัวกรอง

ตัวกรองข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้มีข้อจำกัดและข้อควรระวังดังนี้

  • ตัวกรองจะทำให้ข้อมูลบางอย่างหายไป การกรอง Hit ที่เข้ามาจะเป็นการรวม ยกเว้น หรือเปลี่ยนแปลง Hit เหล่านั้นในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้นั้นๆ อย่างถาวร โดยขึ้นอยู่กับประเภทของตัวกรอง ดังนั้น คุณจึงควรเก็บข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้แบบไม่ได้กรองของข้อมูลไว้ "อยู่เสมอ" เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงชุดข้อมูลที่สมบูรณ์ทั้งหมดได้เสมอ
  • คุณอาจต้องรอถึง 24 ชั่วโมง ระบบจึงจะนำตัวกรองไปใช้กับข้อมูลของคุณ
  • ช่องที่ระบุในตัวกรองต้องมีอยู่ใน Hit และต้องไม่เป็นค่าว่าง ระบบจึงจะนำตัวกรองไปใช้กับ Hit นั้นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังกรองชื่อโฮสต์ แต่ Hit ไม่มีช่องดังกล่าว (ระบบอาจส่ง Hit ผ่าน Measurement Protocol และคำขอนั้นไม่มีพารามิเตอร์ &dh) ระบบจะข้ามตัวกรองทั้งหมดที่มีผลกับชื่อโฮสต์ และจะประมวลผล Hit เหมือนกับว่าไม่มีตัวกรอง
  • ตัวกรองเป็นออบเจ็กต์ระดับบัญชี หากคุณแก้ไขตัวกรองที่ระดับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ หมายความว่าคุณกำลังเปลี่ยนแปลงตัวกรองที่ระดับบัญชีไปด้วย และข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อื่นใดที่ใช้ตัวกรองนั้นก็จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วย หากคุณต้องการปรับแต่งอินสแตนซ์รายการเดียวของตัวกรองที่มีอยู่ซึ่งใช้โดยข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการ ให้สร้างตัวกรองใหม่และใช้กับข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้รายการเดียวดังกล่าว
  • ระบบจะใช้ตัวกรองหลังจากที่ประมวลผลข้อมูลแล้ว คุณสร้างตัวกรองเพื่อเปลี่ยนขอบเขตของมิติข้อมูลไม่ได้
  • ตัวกรองจะไม่มีผลกับมิติข้อมูลขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำเข้าข้อมูล แม้ว่าคุณจะสร้างตัวกรองโดยอิงตามมิติข้อมูลขอบเขตผลิตภัณฑ์ได้ แต่หากมิติข้อมูลเหล่านั้นเกิดจากการนำเข้าข้อมูล ตัวกรองจะไม่มีผลกับข้อมูลดังกล่าว

ใช้การตรวจสอบตัวกรองเพื่อตรวจสอบว่าตัวกรองของคุณทำงานตามที่คาดหมายหรือไม่ ก่อนที่จะใช้ตัวกรองกับข้อมูลที่เข้ามา

ดูวิธีสร้างและจัดการตัวกรองข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทตัวกรอง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4774722909867391865
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false